เคล็ดลับการฟอกอากาศภายในบ้านเพื่อสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น

ในปัจจุบันมลพิษทางอากาศเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดความเจ็บป่วย ไม่เพียงแต่ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงอย่างเด็ก คนท้อง หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษ แต่สำหรับคนทั่วไปการสูดดมฝุ่นควันอาจส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพในระยะยาวได้ ด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าใครก็ตามจึงควรตระหนักถึงอันตรายของมลพิษทางอากาศ ถึงแม้จะไม่สามารถควบคุมสภาพอากาศภายนอกได้ แต่การปรับอากาศภายในบ้านให้สะอาดปลอดจากฝุ่นควันและมลพิษอยู่เสมอก็เป็นขั้นตอนหนึ่งของการมีสุขภาพที่ดีได้ ในบทความนี้จึงได้รวบรวมเอาเคล็ดลับวิธีการฟอกอากาศภายในบ้านมาฝากกัน

อากาศภายในบ้านสำคัญอย่างไร ?

บ้าน คือ สถานที่สำหรับการอยู่อาศัยและยังเป็นพื้นที่ของครอบครัว หลายคนอาจใช้เวลาอยู่ภายในบ้านมากกว่าข้างนอก โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง อย่างคนท้อง ผู้สูงอายุ และเด็ก ในแต่ละครั้งที่สูดอากาศเข้าไปอาจมีสิ่งแปลกปลอมมากมายที่สามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ สถิติจากองค์การอนามัยโลกพบว่า ในปี 2012 มีคนเสียชีวิตจากมลพิษทางอากาศกว่า 7 ล้านคน และ 3.3 ล้านคนในนั้นมีสาเหตุการเสียชีวิตที่สัมพันธ์กับมลพิษทางอากาศภายในที่ร่ม โดยมีผู้เสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองสูงที่สุด ตามด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และโรคติดเชื้อเฉียบพลันของระบบหายใจในเด็กตามลำดับ คุณภาพอากาศภายในบ้านจึงมีความสำคัญต่อชีวิตเป็นอย่างยิ่ง จึงควรกำจัดมลพิษทางอากาศภายในบ้านให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคร้าย

เคล็ดลับฟอกอากาศภายในบ้าน

การสร้างอากาศภายในบ้านให้สดชื่น สะอาด และปลอดภัย ไม่ได้มีเพียงแต่การปัด กวาด เช็ด ถู อย่างที่เคยทำอยู่ประจำ ยังมีวิธีอื่นที่อาจช่วยให้อากาศภายในบ้านเหมาะแก่การอยู่อาศัย ดังนี้

• ปลูกต้นไม้ช่วยฟอกอากาศ
  ต้นไม้เป็นเครื่องฟอกอากาศจากธรรมชาติ ต้นไม้หรือพืชบางชนิดนั้นปลอดภัยสำหรับปลูกภายในห้องและมีคุณสมบัติในการดูดซับสารเคมีในอากาศที่อาจมาจากน้ำยาล้างเล็บ หมึกพิมพ์ น้ำยาทำความสะอาด รวมถึงสีทาภายใน ทำให้อาการบริเวณนั้นบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น การฟอกอากาศของต้นไม้อาจช่วยลดสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคหืดและโรคภูมิแพ้ การปลูกต้นไม้ภายในบ้านยังอาจช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น พัฒนาสมาธิและความจำ ช่วยลดความเครียด อ่อนล้า ที่สำคัญคือราคาไม่แพง นอกจากนี้ ต้นไม้บางชนิดยังมีชื่อไทยที่เป็นมงคลซึ่งอาจช่วยเสริมกำลังใจให้กับผู้ปลูก เช่น วาสนา เศรษฐีเรือนใน พลูด่าง เบญจมาศ ปาล์มไผ่ และต้นไม้สวรรค์หรือต้นคลาซูล่า เป็นต้น
  อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ต้นไม้ทุกชนิดที่สามารถนำมาปลูกในบ้านได้ รวมทั้งต้นไม้บางชนิดอาจส่งผลทางลบต่อสัตว์เลี้ยง เด็ก และรวมถึงผู้ใหญ่ในบางราย จึงควรศึกษาข้อมูลก่อนการซื้อ
• ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ
  เครื่องฟอกอากาศเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สามารถดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก เกสร รังแคสัตว์เลี้ยง และสารเคมีในอากาศได้ ช่วยทำให้อากาศบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น เครื่องฟอกอากาศอาจมีประโยชน์มากสำหรับผู้ที่เป็นโรคหืด โรคภูมิแพ้ โรคหัวใจและหลอดเลือด แต่ถ้าหากคุณอาศัยอยู่ในในเมืองที่มีปัญหาฝุ่นควันและมลพิษทางอากาศ เครื่องฟอกอากาศก็อาจเป็นเครื่องใช้ที่จำเป็นแม้ว่าจะไม่มีความผิดปกติใด ๆ ก็ตาม
  แผ่นกรอง HEPA (High-efficiency particulate absorption filter) ในเครื่องฟอกอากาศ เป็นแผ่นกรองที่มีประสิทธิภาพมากกว่าแผ่นกรองธรรมดา โดยสามารถดักจับสิ่งแปลกปลอมในอากาศที่มีขนาดมากกว่า 0.3 ไมโครเมตร ซึ่งเล็กกว่าเส้นผมที่มีขนาดประมาณ 30-120 ไมโครเมตร หรือประมาณ 100 เท่าของเส้นผม

• ทำความสะอาดแผ่นกรองเป็นประจำ
  แผ่นกรองฝุ่นหรือที่เรียกกันว่าฟิลเตอร์ในเครื่องใช้ไฟฟ้า เมื่อใช้ไปสักระยะฝุ่นอาจเกาะตัวบนฟิลเตอร์จนหนา ซึ่งอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค รวมถึงเชื้อราที่อาจส่งผลให้หายใจไม่ออก ไอในเวลากลางคืน ระคายเคืองผิวหนังและดวงตา อีกทั้งส่งผลให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานได้ไม่ดี สิ้นเปลืองพลังงานเพิ่มขึ้น ดังนั้น จึงควรนำฟิลเตอร์ออกมาทำความสะอาดอย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง แช่น้ำยาสำหรับฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อโรค ผึ่งให้แห้งก่อนใส่กลับเข้าไป และควรเปลี่ยนแผ่นกรองเมื่อการชำรุดหรือฉีกขาด เพื่อลดความเสี่ยงที่ฝุ่นจะเล็ดลอดออกมา

• ไม่สูบบุหรี่ภายในบ้าน บุหรี่นั้นไม่เพียงแต่เป็นอันตรายต่อผู้สูบเท่านั้น ผู้ที่ได้สูดดมควันบุหรี่ หรือผู้ที่อยู่ในบ้านที่มีคนสูบบุหรี่ก็อาจได้รับผลกระทบทางสุขภาพไปด้วย แม้จะสูบบุหรี่ภายนอกตัวบ้าน แต่สารพิษจากควันบุหรี่ก็สามารถเกาะติดตามเสื้อผ้า ผม และผิวหนังได้ หากเข้าใกล้ผู้อื่น คนนั้นก็อาจได้รับสารเคมีที่ติดตามเสื้อผ้าได้เช่นกัน การเลิกสูบบุหรี่ภายในบ้านอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหืดเด็ก ลดความเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งปอดในผู้ที่สูดดม และลดการเกิดโรคไหลตายในเด็กได้ ดังนั้น จึงควรเลิกสูบบุหรี่ เพื่อความปลอดภัยของคนในครอบครัวรวมถึงตัวผู้สูบเอง

นอกจากนี้ สิ่งแรกที่สามารถทำได้และควรทำก็คือทำความสะอาดบ้านเป็นประจำและทำให้บ่อยมากยิ่งขึ้น ดูแลรักษาความสะอาดของสัตว์เลี้ยง หากอากาศภายนอกมีระดับมลพิษสูงก็ควรใส่หน้ากากอนามัยที่มีคุณภาพตลอดการสัมผัสอากาศ และคนในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงควรดูแลตนเองเป็นพิเศษ