หากคุณเชื่อมั่นว่าอาการเจ็บหน้าอกข้างซ้ายเป็นผลมาจากโรคหัวใจอย่างภาวะหัวใจขาดเลือดเพียงอย่างเดียว คุณอาจคิดผิด เพราะแท้จริงแล้วไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป อาการเจ็บหน้าอกนั้นอาจเกิดขึ้นได้จากปัญหาสุขภาพมากมาย แล้วโรคหรือภาวะใดบ้างที่ก่อให้เกิดอาการเจ็บหน้าอกข้างซ้าย ลองศึกษาได้จากบทความนี้
อาการเจ็บหน้าอกจะมีลักษณะและความรุนแรงแตกต่างกันไปตามแต่ละคน โดยผู้ป่วยอาจรู้สึกเจ็บแปลบ เจ็บเหมือนถูกของมีคมทิ่มแทงที่หน้าอก ปวดแน่น หรือปวดตื้อ ๆ ก็ได้ ซึ่งหากได้รับการวินิจฉัยและทราบสาเหตุที่แท้จริงแล้วก็จะสามารถรักษาอาการได้อย่างทันท่วงที
สาเหตุของอาการเจ็บหน้าอกข้างซ้าย
เจ็บหน้าอกข้างซ้ายอาจมีสาเหตุมาจากปัญหาสุขภาพบางอย่าง ดังนี้
ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด
สาเหตุที่อาจพบได้ เช่น
- กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน
ภาวะนี้เป็นอาการของโรคที่เกี่ยวข้องกับหัวใจที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงฉับพลันอย่างโรคหลอดเลือดหัวใจ หากหลอดเลือดหัวใจตีบ กล้ามเนื้อหัวใจได้รับออกซิเจนมาเลี้ยงไม่เพียงพออาจทำให้เกิดอาการเจ็บ แน่น หรือรู้สึกเหมือนถูกกดหรือทับที่หน้าอก ซึ่งอาการอาจลามไปยังแขน หัวไหล่ คอ ขากรรไกร หรือหลังได้ ภาวะนี้ถือเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว
- ภาวะเจ็บเค้นอก
เกิดจากโรคหัวใจขาดเลือดเรื้อรัง (Chronic Ischemic Heart Disease) อันเป็นผลมาจากคราบไขมันสะสมอยู่ภายในผนังหลอดเลือดแดง ทำให้หลอดเลือดแดงนั้นตีบแคบลงและลำเลียงเลือดเข้าสู่หัวใจได้น้อยกว่าปกติ ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บ แน่น หรือรู้สึกเหมือนถูกกดหรือทับที่หน้าอก โดยอาการไม่รุนแรง เป็น ๆ หาย ๆ นาน 3-5 นาที หากพักหรืออมยาขยายเส้นเลือดหัวใจก็มักจะหายไป
- โรคเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ
เป็นการอักเสบหรือระคายเคืองของเยื่อหุ้มที่ล้อมรอบหัวใจ มักส่งผลให้เกิดอาการเจ็บแปลบเหมือนถูกของมีคมแทงที่หน้าอกข้างซ้ายหรือกลางอก ซึ่งอาการอาจแย่ลงเมื่อหายใจเข้าหรือล้มตัวลงนอน
- ภาวะเลือดเซาะผนังหลอดเลือดแดงใหญ่
ภาวะนี้มีสาเหตุมาจากหลอดเลือดแดงใหญ่เกิดการฉีกขาด ซึ่งผนังหลอดเลือดชั้นในที่แยกตัวออกจากกันจะทำให้เลือดไหลเข้าสู่ระหว่างชั้นผนังหลอดเลือด โดยผู้ป่วยอาจรู้สึกเจ็บหน้าอกหรือหลังรุนแรงอย่างฉับพลันคล้ายถูกฉีก หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีจะส่งผลให้หลอดเลือดดังกล่าวแตกและเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต
ปัญหาเกี่ยวกับปอด
สาเหตุที่อาจพบได้ เช่น
- ปอดบวมหรือปอดติดเชื้อ
เป็นการติดเชื้อและการอักเสบของปอดข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้าง โดยอาจส่งผลให้รู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอกหรือเจ็บเหมือนถูกของแหลมมีคมแทงที่หน้าอก หากสูดหายใจเข้าลึก ๆ หรือไอแรง ๆ ก็อาจทำให้อาการเจ็บหน้าอกแย่ลงได้
- ภาวะปอดรั่ว
ภาวะปอดรั่วเกิดจากโรคหรือการบาดเจ็บบริเวณหน้าอกที่ทำให้อากาศรั่วเข้าไปในช่องว่างระหว่างเนื้อปอดและผนังซี่โครง ส่งผลให้เกิดอาการเจ็บแปลบที่หน้าอกอย่างฉับพลัน หายใจไม่อิ่ม หายใจเร็ว ผิวหนังอาจเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำ ไอ และอ่อนเพลียมาก
- โรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด
อาการเจ็บแปลบที่หน้าอกอย่างฉับพลัน อาจเป็นสัญญาณหนึ่งของโรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด และยังมีสัญญาณอาการอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นร่วมด้วย อย่างปวดหลัง เวียนศีรษะคล้ายจะหมดสติ หรือหายใจไม่อิ่ม โดยโรคนี้ควรได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน เพราะอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
- ภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูง
ระดับความดันโลหิตในปอดที่สูงกว่าปกติอาจก่อให้เกิดการเจ็บหน้าอก เวียนศีรษะ หมดสติ รวมถึงหัวใจเต้นผิดปกติและชีพจรเต้นเร็ว ซึ่งหากไม่ทำการรักษาอาจพัฒนาไปสู่ภาวะหัวใจวายได้
ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร
สาเหตุที่อาจพบได้ เช่น
- กรดไหลย้อน
ภาวะนี้เป็นผลมาจากกรดในกระเพาะอาหารที่ไหลย้อนขึ้นมาสู่หลอดอาหารจนทำให้เกิดการระคายเคือง ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการแสบร้อนกลางอก และอาจเกิดร่วมกับอาการเจ็บหน้าอกข้างซ้าย ไอ หายใจมีเสียงหวีด มีน้ำรสเปรี้ยวไหลย้อนขึ้นมาในปากด้วย
- ปัญหาเกี่ยวกับหลอดอาหาร
ปัญหาเกี่ยวกับหลอดอาหาร ไม่ว่าจะเป็นภาวะกล้ามเนื้อหลอดอาหารหดเกร็ง หลอดอาหารอักเสบ หลอดอาหารแตกหรือฉีกขาดที่ทำให้เศษอาหารเข้าไปยังช่องอก ก็อาจส่งผลให้เกิดอาการเจ็บหน้าอกข้างซ้ายทั้งสิ้น
- ไส้เลื่อนกระบังลม
ไส้เลื่อนชนิดดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อส่วนหนึ่งของกระเพาะอาหารเคลื่อนเข้าสู่บริเวณช่องอกผ่านทางช่องโหว่ของกระบังลม ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บหน้าอก ปวดท้อง แสบร้อนกลางอก หรือสำรอกอาหารออกมา แต่มีโอกาสเกิดน้อยมาก
ปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อและกระดูก
สาเหตุที่อาจพบได้ เช่น
- กระดูกอ่อนของซี่โครงอักเสบ
เมื่อกระดูกอ่อนของผนังอกเกิดการอักเสบ โดยเฉพาะส่วนที่เชื่อมกับกระดูกหน้าอก อาจส่งผลให้ผู้ป่วยเจ็บหน้าอกหรือกดแล้วจะรู้สึกเจ็บ ซึ่งอาการจะแย่ลงได้หากเคลื่อนไหวร่างกายหรือหายใจเข้าลึก ๆ
- การบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อ
การบาดเจ็บที่หน้าอก การไอติดต่อกันแรง ๆ การออกกำลังกายที่ต้องใช้กล้ามเนื้อหน้าอก หรือการทำกิจกรรมที่ส่งผลต่อกล้ามเนื้อหน้าอกอาจส่งผลให้เกิดอาการเจ็บหน้าอกได้เช่นกัน แต่อาการอาจจะดีขึ้นหากหยุดใช้กล้ามเนื้อหน้าอกสักระยะ
- การบาดเจ็บที่ซี่โครง
ผู้ป่วยบางรายที่มีซี่โครงหักมักมีอาการเจ็บหน้าอกร่วมด้วย และอาจมีอาการแย่ลงเมื่อไอหรือหายใจเข้าลึก ๆ
- งูสวัด
โรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัสวาริเซลลาซอสเตอร์หรือไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคอีสุกอีใส ผู้ป่วยจะมีตุ่มน้ำใสขึ้นที่ผิวหนัง ซึ่งอาจเกิดขึ้นบริเวณหน้าอกและทำให้เกิดอาการเจ็บปวดเหมือนมีเข็มทิ่มแทงตามผิวหนังบริเวณอกได้
นอกจากนี้ อาการเจ็บหน้าอกข้างซ้ายยังอาจเกิดขึ้นได้จากสาเหตุอื่น ๆ เช่น ภาวะวิตกกังวล อาการแพนิคหรือหวาดกลัวอย่างรุนแรง โรคเกี่ยวกับจิตใจชนิดอื่น ๆ เป็นต้น
วิธีรักษาอาการเจ็บหน้าอกข้างซ้าย
ปกติแล้ว ผู้ป่วยแต่ละคนจะมีสาเหตุของอาการเจ็บหน้าอกที่แตกต่างกันไป วิธีการรักษาจึงขึ้นอยู่กับสาเหตุและดุลยพินิจของแพทย์ผู้ดูแล หากเกิดจากโรคหัวใจขาดเลือด แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยารักษาอาการเจ็บหน้าอก เช่น ยาไนโตรกลีเซอรีน ยาแอสไพริน ยาละลายลิ่มเลือด ยาต้านการแข็งตัวของเลือด หากเกิดจากโรคในระบบทางเดินอาหาร แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาลดการหลั่งกรด ยาเพิ่มการบีบตัวของลำไส้ เป็นต้น
ในบางครั้ง อาการเจ็บหน้าอกอาจไม่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพที่รุนแรงนัก แต่ก็ควรปรึกษาแพทย์ถึงวิธีการรักษาและการดูแลที่เหมาะสมตามแต่ละสาเหตุไป แต่หากผู้ป่วยมีรู้สึกเจ็บหน้าอกข้างซ้ายโดยไม่ทราบสาเหตุร่วมกับอาการอื่น ๆ เช่น แน่นหน้าอก อาการปวดลามไปยังแขน คอ ขากรรไกร หน้าท้องหรือแผ่นหลัง หายใจลำบาก หายใจไม่อิ่ม มีเหงื่อออก รู้สึกไม่สบาย อ่อนแรง เวียนศีรษะคล้ายจะหมดสติ คลื่นไส้หรืออาเจียน ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน เพราะนี่อาจเป็นสัญญาณของภาวะหัวใจขาดเลือดหรือภาวะทางสุขภาพที่อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต