เจ็บใต้ราวอกซ้าย สาเหตุของอาการและสัญญาณที่ควรไปพบแพทย์

อาการเจ็บใต้ราวอกซ้ายมักมีสาเหตุมาจากปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับหัวใจ ปอด กล้ามเนื้อและกระดูก ไปจนถึงปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร โดยอาจรู้สึกเจ็บเหมือนกล้ามเนื้อบีบตัว เจ็บจี๊ด ๆ เจ็บแบบมีอาการชาร่วมด้วย รวมถึงอาจรู้สึกเจ็บเมื่อหายใจเข้าหรือขยับตัวก็ได้เช่นกัน ซึ่งหากมีอาการเหล่านี้ไม่ควรละเลย เพราะอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่รุนแรงได้

อาการเจ็บใต้ราวอกด้านซ้ายสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่อาจเกิดในเพศหญิงมากกว่า โดยอาการเจ็บใต้ราวอกซ้ายในเพศหญิงอาจเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกายในช่วงมีประจำเดือน การตั้งครรภ์ กระบวนการผลิตน้ำนมในคุณแม่หลังคลอด นอกจากนี้ อาจเกิดขึ้นได้จากการใส่เสื้อชั้นในที่รัดมากเกินไปด้วย

เจ็บใต้ราวอกซ้าย

สาเหตุที่อาจทำให้เกิดอาการเจ็บใต้ราวอกซ้าย

อาการเจ็บใต้ราวอกซ้ายสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุดังต่อไปนี้

ภาวะหัวใจขาดเลือด (Heart attack)

ภาวะหัวใจขาดเลือดเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการเจ็บใต้ราวอกซ้าย ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินที่อันตรายถึงแก่ชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ดังนั้น หากมีอาการเจ็บใต้ราวอกซ้ายคล้ายถูกบีบรัดแน่น ร่วมกับมีอาการอื่น ๆ เกิดขึ้น เช่น รู้สึกไม่สบายที่แขน ไหล่ และกราม คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ เหนื่อยล้า เหงื่อออกมาก หายใจถี่หรือหายใจลำบาก ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

การบาดเจ็บบริเวณหน้าอก

อาการเจ็บใต้ราวอกซ้ายอาจเป็นผลมาจากการบาดเจ็บบริเวณหน้าอก เช่น การบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา การหกล้ม หรือการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าอกแพลงหรือฉีกขาด จนเกิดความเจ็บปวดตามมา และผู้ป่วยมักจะรู้สึกเจ็บมากขึ้นเมื่อหายใจเข้าหรือเมื่อขยับร่างกาย อีกทั้งในกรณีที่เกิดการบาดเจ็บอย่างรุนแรงอาจทำให้กระดูกซี่โครงหักได้ด้วย 

ปัญหาเกี่ยวกับปอด

เนื่องจากปอดเป็นอวัยวะที่อยู่บริเวณหน้าอก ปัญหาเกี่ยวกับปอดจึงอาจทำให้เกิดอาการเจ็บใต้ราวอกซ้ายได้เช่นกัน โดยเฉพาะภาวะเยื่อหุ้มปอดอักเสบ โรคปอดบวม และโรคหืด ซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับปอดที่สามารถพบได้บ่อย โดยปัญหาสุขภาพเหล่านี้มักทำให้เกิดอาการเจ็บหน้าอกอย่างรุนแรงเมื่อหายใจเข้าลึก ๆ หรือเมื่อไอและจาม รวมถึงอาการปวดไหล่ ไอแห้ง แน่นหน้าอก และหายใจลำบากด้วย

ปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร

อาการเจ็บใต้ราวอกซ้ายอาจเป็นผลมาจากปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร เช่น โรคกระเพาะอาหาร โรคกรดไหลย้อน แผลในกระเพาะอาหาร อาการตับอ่อนอักเสบ หรือภาวะไส้เลื่อนกระบังลม เนื่องจากหลอดอาหารพาดผ่านส่วนบนของร่างกายตั้งแต่ปากไปจนถึงกระเพาะอาหาร บางครั้งปัญหาเหล่านี้ก็ทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอก หรือปวดท้องส่วนบนจนลามมาถึงอาการเจ็บใต้ราวอกได้

ปัญหาสุขภาพในเพศหญิง

ปัญหาสุขภาพในเพศหญิงที่อาจทำให้เกิดอาการเจ็บใต้ราวอกซ้ายมีหลายกรณี แต่โดยส่วนใหญ่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกายในช่วงมีประจำเดือนหรือในช่วงตั้งครรภ์ เช่น อาการปวดเต้านม นอกจากนี้ คุณแม่หลังคลอดก็มักมีปัญหาเกี่ยวกับเต้านมเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นท่อน้ำนมอุดตัน เต้านมอักเสบ หรือการเกิดฝีที่เต้านม ซึ่งมักให้เกิดอาการเจ็บบริเวณรอบ ๆ เต้านมนั่นเอง

อาการเจ็บใต้ราวอกซ้ายกับสัญญาณที่ควรไปพบแพทย์

อาการเจ็บใต้ราวอกซ้ายสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งจากสาเหตุทั่วไปที่ไม่อันตราย และจากสาเหตุร้ายแรงที่อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ดังนั้นหากมีอาการเจ็บใต้ราวอกซ้ายอย่างรุนแรง หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ เกิดขึ้นร่วมด้วย ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม

ตัวอย่างอาการที่ควรไปพบแพทย์ มีดังนี้

  • รู้สึกเจ็บใต้ราวอกซ้ายอย่างฉับพลันและรุนแรงนานติดต่อกันเกิน 5 นาที
  • อาการเจ็บไม่ดีขึ้นเมื่อพักผ่อน และเจ็บลามไปยังบริเวณใกล้เคียง
  • รู้สึกแน่นหน้าอก หายใจถี่ หรือหายใจลำบาก
  • หัวใจเต้นเร็ว และมีเหงื่อออกมากผิดปกติ 
  • ปวดกราม ลำคอ หัวไหล่ แขน หลัง หรือท้อง
  • รู้สึกวิงเวียนศีรษะคล้ายจะเป็นลม
  • คลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสีย

อย่างไรก็ตาม ทุกคนควรสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกายของตัวเองอยู่เสมอ และหากมีอาการเจ็บใต้ราวอกซ้ายเกิดขึ้นก็ไม่ควรเพิกเฉย เพราะถ้าหากอาการที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงอย่างภาวะหัวใจขาดเลือด การได้รับการวินิจฉัยและรักษาจากแพทย์อย่างทันท่วงทีจะช่วยลดภาวะแทรกซ้อนของโรคได้