ในช่วงใกล้คลอด สิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมให้พร้อมนอกเหนือไปจากสภาพร่างกายและจิตใจของคุณแม่ตั้งครรภ์ก็คือของเตรียมคลอด เพราะเมื่อถึงกำหนดคลอดจะได้หยิบไปโรงพยาบาลได้อย่างสะดวกรวดเร็ว รวมถึงในกรณีที่คุณแม่มีอาการเจ็บท้องคลอดก่อนกำหนด ก็จะได้พาคุณแม่ไปโรงพยาบาลได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาเตรียมของด้วย
ตามปกติแล้ว ระยะเวลาการตั้งครรภ์จะอยู่ที่ประมาณ 40 สัปดาห์ แต่คุณแม่หลายคนอาจจะคลอดก่อนกำหนดได้เช่นกัน จึงควรจัดของเตรียมคลอดในช่วงสัปดาห์ที่ 36–37 หรือประมาณ 3–4 สัปดาห์ก่อนถึงกำหนดคลอด และควรวางกระเป๋าที่จัดของเตรียมคลอดเรียบร้อยแล้วไว้ในบริเวณที่หยิบได้ง่าย เช่น บริเวณใกล้กับประตูบ้าน หรืออาจใส่ไว้ในรถ เพื่อให้สะดวกต่อการนำไปโรงพยาบาลเมื่อมีอาการเจ็บท้องคลอด
ของเตรียมคลอดที่ควรนำไปโรงพยาบาลเมื่อคลอดลูก
ก่อนจัดกระเป๋าสำหรับใส่ของเตรียมคลอด คุณแม่อาจลองสอบถามกับทางโรงพยาบาลเพิ่มเติมก่อน เนื่องจากของใช้บางอย่างทางโรงพยาบาลอาจเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว โดยสิ่งที่ควรเตรียมไปโรงพยาบาลเมื่อคลอดลูก มีทั้งของใช้ที่จำเป็นสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ คุณพ่อหรือคนที่เฝ้าไข้ และลูกน้อยที่กำลังจะลืมตาดูโลกด้วย โดยแบ่งเป็นหมวดหมู่ได้ ดังนี้
ของเตรียมคลอดสำหรับคุณแม่
ของเตรียมคลอดที่จำเป็นสำหรับคุณแม่ ได้แก่
- เอกสารสำคัญ เช่น บัตรประจำตัวประชาชนและสำเนา สำเนาทะเบียนบ้าน เอกสารประกันสุขภาพ สมุดฝากครรภ์หรือใบนัดแพทย์ และเอกสารอื่น ๆ ที่แพทย์แจ้งให้นำมาในวันคลอด
- ของใช้ส่วนตัว เช่น โทรศัพท์และที่ชาร์จแบต อุปกรณ์อาบน้ำ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผ้าอนามัยแบบแผ่นชนิดซึมซับมาก ยาที่อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ แว่นตาหากคุณแม่มีปัญหาสายตา และเครื่องสำอางเล็กน้อยหากต้องการเติมสีสันให้ใบหน้าหลังคลอด
- เสื้อผ้า 1–2 ชุดสำหรับใส่กลับบ้าน ควรเป็นเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย โดยอาจเลือกเสื้อที่มีกระดุมหน้าเพื่อให้สะดวกต่อการให้นมลูก ส่วนชุดชั้นในควรเป็นแบบสำหรับคุณแม่หลังคลอดที่สวมใส่สบายไม่อึดอัด รวมถึงรองเท้าก็ควรเป็นรองเท้าส้นเตี้ยที่รับน้ำหนักได้มากและกันลื่นได้ดีด้วย
- อุปกรณ์เกี่ยวกับการให้นมลูก เช่น ผ้าคลุมสำหรับให้นม หมอนรองสำหรับให้นม และแผ่นซับน้ำนม
ของเตรียมคลอดสำหรับคนเฝ้า
ของเตรียมคลอดที่จำเป็นสำหรับคนเฝ้าไข้ ได้แก่
- เอกสารสำคัญ เช่น บัตรประจำตัวประชาชนและสำเนา สำเนาทะเบียนบ้าน หรือเอกสารอื่น ๆ ของทั้งคุณแม่ตั้งครรภ์ คุณพ่อ และของผู้เฝ้าในกรณีที่ผู้เฝ้าไม่ใช่คุณพ่อ ควรแบ่งเก็บเป็น 2 ชุดเพื่อป้องกันการสูญหาย
- อุปกรณ์สำหรับป้องกันเชื้อโรคในโรงพยาบาล เช่น หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือ
- เงินสดจำนวนเล็กน้อย เพราะอาจต้องใช้จ่ายค่าจิปาถะต่าง ๆ เช่น ค่าอาหารและเครื่องดื่มในโรงพยาบาล ค่าถ่ายเอกสาร ค่าที่จอดรก หรือค่าซื้อของใช้จำเป็นเพิ่มเติม
- ของใช้ส่วนตัว เช่น โทรศัพท์และที่ชาร์จแบต อุปกรณ์อาบน้ำ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เครื่องสำอาง แว่นตาหากมีปัญหาสายตา และยารักษาโรคประจำตัวในกรณีที่มี
- เสื้อผ้าสำหรับใส่ขณะเฝ้าไข้ 2–3 ชุด โดยควรเลือกเสื้อผ้า ชุดชั้นใน รวมถึงรองเท้าที่ใส่สบายและมีความคล่องตัวเป็นหลัก
ของเตรียมคลอดสำหรับลูกน้อย
โรงพยาบาลมักจะมีของใช้สำหรับเด็กแรกเกิดครบถ้วนอยู่แล้ว ของเตรียมคลอดสำหรับลูกน้อยที่ต้องนำไปจึงอาจไม่จำเป็นต้องเตรียมไปจำนวนมากนัก คุณพ่อคุณแม่อาจเตรียมแค่เสื้อผ้าเด็กแรกเกิดสำหรับใส่กลับบ้านและของใช้เล็กน้อย ได้แก่ ชุดเด็กทารกหรือผ้าอ้อมสำหรับห่อตัว หมวก ถุงมือ ถุงเท้า และผ้าห่ม
เสื้อผ้าสำหรับเด็กควรเลือกแบบที่นุ่มและหนา เพื่อป้องกันลมหรืออากาศเย็น ๆ มาสัมผัสตัวลูกน้อยจนอาจทำให้เป็นไข้หวัดได้ นอกจากนี้ สิ่งของสำคัญอีกอย่างที่ควรเตรียมเอาไว้ก็คือคาร์ซีท โดยควรเลือกคาร์ซีทแบบหันหน้าเข้าหาเบาะ และควรศึกษาวิธีการติดตั้ง รวมถึงวิธีการใช้งานอย่างละเอียดเพื่อความปลอดภัยในการพาลูกน้อยนั่งรถกลับบ้านนั่นเอง
เมื่อใกล้ถึงกำหนดคลอด หากจัดของเตรียมคลอดเรียบร้อยแล้วก็อย่าลืมหมั่นสังเกตสภาพร่างกายของตัวคุณแม่เองว่ามีอาการใกล้คลอดหรือไม่ หากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น เช่น ปวดหลังส่วนล่างร้าวมายันหน้าท้อง รู้สึกปวดเกร็งหรือเป็นตะคริว มีเมือกเป็นเลือดไหลออกจากช่องคลอด และมีอาการน้ำเดิน ให้งดรับประทานอาหารและดื่มน้ำ จากนั้นควรรีบไปโรงพยาบาลทันที
