เนยถั่ว อาหารลดน้ำหนักสำหรับคนรักสุขภาพ

เนยถั่วเป็นอาหารอีกชนิดที่ได้รับความนิยมด้วยรสชาติที่ถูกปาก เข้ากันได้ดีกับทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน จึงไม่แปลกที่หลายคนจะมีเนยถั่วติดบ้านกันสักกระปุก ซึ่งนอกเหนือจากรสชาติความอร่อยแล้ว เนยถั่วอาจเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนักที่คุณคาดไม่ถึง 

เนยถั่วคงไม่ใช่สิ่งแรกที่หลายคนนึกถึงเมื่อต้องการลดน้ำหนัก แต่จริง ๆ แล้ว เนยถั่วเต็มไปด้วยสารอาหารมากมายที่เป็นประโยชน์ต่อการลดน้ำหนัก เช่น โปรตีน ไขมันดี วิตามินอี วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 โฟเลตหรือวิตามินบี 9 แมกนีเซียม ทองแดง หรือแมงกานีส เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การรับประทานเนยถั่วในปริมาณมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ เนื่องจากเนยถั่วในปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงานมากถึง 588 แคลอรี่ ผู้บริโภคจึงควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะเท่านั้น

เนยถั่ว

เนยถั่วกับการลดน้ำหนัก

ถึงแม้เนยถั่วเป็นอาหารลดน้ำหนักที่ถูกมองข้ามไป แถมบางคนยังนึกถึงแต่ผลเสียของการบริโภคเนยถั่ว แต่ก็มีการศึกษาประโยชน์ในการลดน้ำหนักของอาหารชนิดนี้ในหลายแง่มุม ดังนี้

ลดความอยากอาหาร 

เนื่องจากเนยถั่วเป็นอาหารที่มีไขมันดีและโปรตีนสูง จึงอาจทำให้ผู้บริโภครู้สึกอิ่มได้เร็วขึ้น ส่งผลให้ความอยากอาหารลดน้อยลงไปด้วย ซึ่งจะเป็นผลดีต่อผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างมาก นอกจากนี้ โปรตีนจากเนยถั่วยังเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อในระหว่างที่ลดน้ำหนัก ทำให้ระบบเผาผลาญทำงานอย่างเป็นปกติ ผู้บริโภคจึงมีน้ำหนักตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง 

ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ 

แม้เนยถั่วจะมีไขมันและแคลอรี่สูง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผู้บริโภคอ้วนหรือมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นนัก โดยมีงานวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่า การบริโภคเนยถั่วอาจช่วยควบคุมน้ำหนักได้ดีกว่าการไม่บริโภคเลย และหากรับประทานเนยถั่วเป็นประจำก็อาจส่งผลให้ค่าดัชนีมวลกายหรือค่า BMI (Body Mass Index) ลดลงด้วย  

มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นช้าลง

ผู้ชี่ยวชาญกล่าวกันว่า เนยถั่วเป็นหนึ่งในอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ (Glycemic Index: GI) ซึ่งมีส่วนช่วยในการควบคุมน้ำหนักและระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น แถมยังเพิ่มปริมาณพลังงานในร่างกาย การรับประทานเนยถั่วจึงส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดค่อย ๆ เพิ่มขึ้นทีละน้อยหลังรับประทานเสร็จ น้ำหนักตัวของผู้บริโภคจึงเพิ่มขึ้นช้ากว่าการรับประทานอาหารแปรรูปหรืออาหารจำพวกแป้งที่อาจมีค่าดัชนีน้ำตาลสูงแม้จะรับประทานในปริมาณที่น้อยกว่าก็ตาม 

วิธีรับประทานเนยถั่วอย่างปลอดภัย

การรับประทานเนยถั่วเพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์ในการลดน้ำหนักอย่างเต็มที่และปลอดภัย ผู้บริโภคควรสังเกตฉลากที่ระบุบนผลิตภัณฑ์ก่อนเสมอ เพื่อให้ได้เนยถั่วชนิดที่เหมาะกับตนเอง และควรระมัดระวังผลเสียบางประการ เช่น

  • เนยถั่วบางยี่ห้อมีส่วนผสมของน้ำตาล เกลือ และสารกันบูดในปริมาณมากที่อาจส่งผลต่อสุขภาพ ผู้บริโภคจึงควรเลือกเนยถั่วแบบธรรมชาติ หรือเนยถั่วที่ปลอดสารดังกล่าว ซึ่งจะดีต่อสุขภาพและช่วยในการลดน้ำหนักได้มากกว่า
  • เนยถั่วชนิดหยาบจะมีใยอาหารและโฟเลตมากกว่าชนิดละเอียด ซึ่งอาจช่วยเสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร แต่เนยถั่วชนิดละเอียดอาจมีปริมาณโปรตีนที่มากกว่าชนิดหยาบ
  • ผู้บริโภคควรรับประทานเนยถั่วในปริมาณที่เหมาะกับตนเอง โดยจะแตกต่างกันไปตามแต่ละคน เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับแคลอรี่มากจนเกินไป
  • ผู้ที่แพ้ถั่วลิสงหรือเนยถั่วควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเนยถั่ว หากพบความผิดปกติใด ๆ ควรหยุดรับประทานแล้วไปพบแพทย์ทันที เช่น อาเจียน ปวดเกร็งหน้าท้อง ท้องเสีย อาหารไม่ย่อย หายใจมีเสียงหวีด หรืออาการแพ้รุนแรงอย่างเฉียบพลัน เป็นต้น 
  • เนยถั่วแต่ละยี่ห้ออาจเสี่ยงต่อการปนเปื้อนสารพิษจากเชื้อราอย่างสารอะฟลาทอกซินในปริมาณที่ต่างกัน ผู้บริโภคควรตรวจดูบรรจุภัณฑ์ก่อนเสมอ หากพบความผิดปกติก็ไม่ควรซื้อมารับประทาน เพราะการได้รับสารนี้ในปริมาณมากหรือปริมาณน้อยแต่สะสมอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้ชัก หายใจลําบาก ตับถูกทําลาย หัวใจและสมองบวม และอาจเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งตับได้ 

อย่างไรก็ตาม กุญแจสำคัญในการลดน้ำหนักด้วยเนยถั่วคือ การบริโภคด้วยความพอดี โดยอาจรับประทานเพียงมื้อละ1- 2 ช้อนโต๊ะ ไม่เกิน 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ร่วมกับการทานอาหารที่เป็นประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารขยะที่มีส่วนผสมของน้ำตาลหรือไขมันทรานส์ ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ รวมถึงงดสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อให้การลดน้ำหนักครั้งนี้ประสบผลสำเร็จพร้อมกับสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงอย่างต่อเนื่อง