เปลเด็ก เป็น 1 ในเครื่องใช้อำนวยความสะดวกที่สำคัญของคุณแม่ลูกอ่อน เพราะช่วยให้ทารกรู้สึกสบายและนอนหลับได้ง่าย ปัจจุบันมีเปลเด็กให้เลือกซื้อหลายลักษณะ ทั้งเปลแบบแกว่งไกวด้วยมือเพื่อช่วยกล่อมเด็กนอน แบบมีล้อเคลื่อนที่ได้หรือเป็นเปลลูกกรงแบบตั้งอยู่กับที่ และแบบไฟฟ้าที่เเกว่งโดยอัตโนมัติ แต่จะเลือกซื้อเปลแบบไหนให้ตอบโจทย์และปลอดภัยต่อสุขภาพลูกน้อยมากที่สุด ?
เปลเด็กมีกี่ประเภท ?
การเลือกเปลเด็กให้เหมาะสมกับช่วงวัยของลูกน้อยเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยในช่วงสัปดาห์แรก ๆ หลังลืมตาดูโลก ทารกมักรู้สึกสบายและอบอุ่นเมื่ออยู่ในเปลตะกร้าขนาดเล็กพอดีตัวมากกว่าเปลที่มีพื้นที่กว้าง แต่เมื่อเริ่มโตขึ้นหรือถึงวัยหัดคลาน ก็ย่อมจำเป็นต้องมีพื้นที่มากขึ้นหรือมีที่กั้นเพิ่มความปลอดภัยแก่เด็ก นอกจากนี้ คุณสมบัติต่าง ๆ ของเปลก็เป็นเงื่อนไขสำคัญที่ควรพิจารณาก่อนเลือกซื้อ
เปลเด็กที่นิยมใช้ในปัจจุบันแบ่งเป็นประเภทหลัก ๆ ดังนี้
เปลตะกร้า
- คุณสมบัติ เป็นเปลที่มีน้ำหนักเบาและมีหูจับสำหรับหิ้ว ค่อนข้างพกพาง่ายและมักมาพร้อมกับชุดเครื่องนอน มีขนาดเล็กเหมาะสำหรับทารกแรกเกิดที่มักรู้สึกสบายและหลับง่ายในเปลแคบ ๆ บางแบบมีที่ครอบเปลบริเวณศีรษะ หรือสามารถประกอบกับล้อเสริมเป็นเปลรถเข็น และบางแบบก็มีฐานรองที่สามารถปรับระดับหรือโยกไกวได้ แต่เนื่องด้วยมีขนาดเล็กจึงใช้ได้กับทารกในช่วง 3 เดือนแรกเท่านั้น
- เคล็ดลับในการเลือกซื้อและการใช้งาน ก่อนเลือกซื้อเปลชนิดนี้ควรลองถือให้แน่ใจว่าหูจับทั้ง 2 ข้างของเปลประกบกันได้และมีความมั่นคงแข็งแรง หากต้องการเคลื่อนย้ายลูกน้อยก็ควรใช้มืออีกข้างหนึ่งโอบใต้เปลขณะถือด้วย และเมื่อใกล้ถึงช่วงที่ต้องย้ายเด็กไปนอนเปลที่มีพื้นที่มากกว่า พ่อแม่อาจพยายามให้ลูกค่อย ๆ เกิดความคุ้นชินโดยเริ่มจากการนำเปลตะกร้าไปวางไว้ในเปลใหม่ก่อน
เปลไกว
- คุณสมบัติ การแกว่งไกวของเปลเป็นการเคลื่อนไหวคล้ายกับขณะที่ทารกยังอยู่ในท้องแม่ เปลไกวจึงเป็นตัวช่วยที่ทำให้คุณแม่ไม่ต้องอุ้มกล่อมลูกน้อยตลอดเวลา โดยเปลชนิดนี้เหมาะกับทารกในช่วง 2-3 เดือนแรกมากที่สุด และเพื่อความปลอดภัยควรใช้ดูแลเด็กที่มีน้ำหนักไม่เกิน 7-12 กิโลกรัม ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของเปลไกวและข้อกำหนดในคู่มือการใช้งานด้วย อย่างไรก็ตาม คุณแม่ควรจำกัดเวลาในการไกวเปลให้ลูกน้อยไม่เกิน 1 ชั่วโมงต่อวัน หากไม่จำเป็นจริง ๆ ควรอุ้มกล่อมด้วยตนเอง เพื่อให้ลูกน้อยสัมผัสถึงความอบอุ่นจากอ้อมกอดแม่
- เคล็ดลับในการเลือกซื้อและการใช้งาน เด็กบางคนอาจไม่ชอบหรือรู้สึกไม่สบายตัวเมื่อพ่อแม่ไกวเปล ทางที่ดีก่อนซื้อจึงควรลองให้ลูกนอนในเปลไกวแล้วดูว่าเด็กเงียบหรือหลับสบายดีหรือไม่ เมื่อตัดสินใจซื้อแล้วควรระมัดระวังและตรวจดูอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยของเปลให้แน่นหนาเพียงพอที่จะป้องกันเด็กลื่นตกลงมา รวมทั้งเลือกเปลไกวที่กว้างพอและไม่สูงจากพื้นเกินไป ซึ่งจะช่วยให้เปลไม่เอียงไปด้านใดด้านหนึ่งและหลีกเลี่ยงอันตรายจากการตกเปล
เปลลูกกรง
- คุณสมบัติ เป็นเปลที่มีพื้นที่กว้างสำหรับทารกและมีที่กั้นเป็นลูกกรงค่อนข้างสูง มีขายแบบแยกชิ้นส่วนก่อนนำมาประกอบเองที่บ้าน โดยบางชนิดถูกออกแบบมาให้สามารถแกว่งไกวหรือโยกเพื่อช่วยกล่อมให้ทารกหลับง่ายขึ้น มักใช้ได้นานกว่าเปลตะกร้าที่ใช้ได้จนถึงเด็กมีอายุไม่เกิน 4-6 สัปดาห์ แต่เปลลูกกรงก็เคลื่อนย้ายลำบาก มีราคาแพงกว่า และอาจไม่มีชุดเครื่องนอนสำหรับเด็กแถมมาให้
- เคล็ดลับในการเลือกซื้อและการใช้งาน เปลลูกกรงอาจไม่ปลอดภัยอีกต่อไปเมื่อเด็กมีอายุประมาณ 6 เดือน หรือเริ่มลุกขึ้นนั่งได้เองแล้ว
เปลเพน
- คุณสมบัติ เปลชนิดนี้มักมีลักษณะเหมือนคอก ช่วยป้องกันอันตรายจากการที่เด็กคลานซุกซนไปมา เป็นเปลแบบพับเก็บได้ทำให้พกพาสะดวก โดยมีทั้งแบบเปิดกว้างและแบบมีมุ้งปิดป้องกันยุงหรือแมลง เหมาะสำหรับเด็กวัย 6-7 เดือนที่กำลังเริ่มคลาน และอาจใช้ประโยชน์ได้จนเด็กมีอายุถึง 2 ปี หรือจนกว่าจะถึงวัยที่เด็กปีนป่ายออกมาได้
- เคล็ดลับในการเลือกซื้อและการใช้งาน พ่อแม่อาจใส่หนังสือหรือของเล่น 2-3 ชิ้นไว้ในเปลให้ลูกน้อยได้เล่นและหยิบจับ เพื่อช่วยส่งเสริมพัฒนาการทารกแก่เด็กไปด้วย
ข้อคำนึงเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้เปลเด็ก
นอกจากการเลือกประเภทเปลเด็กให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ในการใช้และวัยของลูกแล้ว ความปลอดภัยก็เป็นอีกส่วนสำคัญที่พ่อแม่ไม่ควรละเลย โดยมีข้อแนะนำในการใช้เปลเด็ก ดังต่อไปนี้
- เลือกฟูกที่พอดีกับเปล หรือเลือกเปลที่มีฟูกขนาดพอดีกัน มีความนุ่มและหนาแน่นมากพอเพื่อให้เด็กนอนอย่างสบาย หากฟูกอ่อนนุ่มเกินไปหรือสามารถสอดนิ้วระหว่างขอบเปลและฟูกได้มากกว่า 2 นิ้ว อาจเสี่ยงทำให้จมูกและปากของเด็กไปติดบริเวณดังกล่าว หรือถูกฟูกกดทับจนเด็กหายใจไม่ออกได้
- อย่าวางหมอน ผ้าห่ม หรือตุ๊กตาไว้ในเปลจนแน่นเกินไป เพราะอาจทำให้ปากหรือจมูกของเด็กถูกกดทับและหายใจไม่ออก
- เลือกเปลลูกกรงที่มีระยะห่างของซี่กรงไม่เกิน 2.5 นิ้ว เพื่อป้องกันศีรษะทารกติดหรือหลุดลอดออกจากช่องได้
- เลือกเปลที่มีฐานมั่นคงและสมดุล เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถรับน้ำหนักทารกได้ดีพอและจะไม่พลิกคว่ำ
- หากเป็นเปลแบบประกอบหรือพับได้ ควรตรวจดูตัวล็อกให้แน่นหนาหลังติดตั้ง ป้องกันเปลล้มหรือทรุดตัว ส่วนเปลที่มีล้อก็ควรตรวจให้แน่ใจว่าเปลล็อกอยู่กับที่ เพื่อไม่ให้เปลเลื่อนไหลไปเอง
- เด็กทารกมักมีน้ำลายไหล พ่นนมออกมา หรือผ้าอ้อมซึมเปื้อนจนเลอะเปลได้ จึงควรเลือกเปลที่ถอดมาทำความสะอาดได้ง่าย
- สำหรับเปลเด็กที่มีถาดใส่อาหารหรือโมบายกล่อมเด็กแถมมา ควรดูให้แน่ใจว่าสามารถถอดเข้าออกได้ง่ายและไม่เป็นอุปสรรคต่อการวางทารกลงบนเปลหรืออุ้มออกจากเปล
- เมื่อเด็กนอนหลับ พ่อแม่ควรคอยระวังและจับให้เด็กนอนหงายอยู่เสมอ
- ดูให้แน่ใจว่าของเล่นทุกชิ้นที่ให้ลูกเล่นหรือวางไว้ในเปลประกอบกันแน่นสนิท ไม่หลุดออกมาเป็นชิ้นเล็ก ๆ เพราะหากเด็กนำเข้าปากอาจเกิดการสำลักจนเป็นอันตรายถึงชีวิต
- คอยเฝ้าดูทารกอย่างใกล้ชิด ระมัดระวังสัตว์เลี้ยงหรือเด็กเล็กในบ้านที่โตกว่า เพราะอาจวิ่งชนหรือปีนป่ายจนเปลล้มลงได้
- หลีกเลี่ยงการใช้เปลตะกร้าที่ทำจากวัสดุถักสาน เนื่องจากเสี่ยงทำให้ทารกหายใจไม่ออกและอาจนำไปสู่การเสียชีวิตอย่างฉับพลัน