เหมือนมีอะไรติดคอ เรียนรู้สาเหตุและวิธีรับมืออย่างเหมาะสม

เหมือนมีอะไรติดคอเป็นอาการที่ทำให้รู้สึกคล้ายมีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่ในลำคอ รู้สึกแน่นในลำคอ กลืนน้ำลายหรืออาหารลำบาก บางคนอาจมีอาการเจ็บปวดร่วมด้วย ซึ่งอาจเกิดอาการเป็นระยะเวลาสั้น ๆ แล้วหายไป หรือมีอาการต่อเนื่องกันโดยที่ไม่หายขาด จึงอาจทำให้เกิดความอึดอัดและกังวลใจได้

เหมือนมีอะไรติดคอเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น อาหารที่รับประทานเข้าไปติดอยู่ในหลอดอาหาร หรืออาจเกิดจากโรคทางกายและจิตใจที่ควรได้รับการดูแลรักษา ซึ่งวิธีการรับมือเมื่อรู้สึกเหมือนมีอะไรติดคอจะแตกต่างกันตามสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ

Feel Like Something Stuck in the Throa

6 สาเหตุที่ทำให้รู้สึกเหมือนมีอะไรติดคอ

ความรู้สึกเหมือนมีอะไรติดคออาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น

1. อาหารติดคอ

อาหารติดคอคือการที่มีอาหารบางส่วนอาจติดค้างอยู่ในลำคอ มักเกิดจากการรีบรับประทานอาหาร รับประทานอาหารคำใหญ่โดยที่ไม่ได้เคี่ยวให้ละเอียดก่อนกลืน ซึ่งอาจทำให้มีภาวะกลืนลำบาก กลืนไม่เข้าคายไม่ออก รู้สึกเจ็บคอและหน้าอกขณะกลืนหรือหายใจ ซึ่งความรู้สึกเหมือนมีอะไรติดคออาจจะไม่ดีขึ้นแม้จะดื่มน้ำมาก ๆ หรือรับประทานอาหารอย่างอื่นเข้าไปก็ตาม

บางครั้งเศษอาหารบางส่วนอาจหลุดเข้าไปในหลอดลมและไปอุดกั้นทางเดินหายใจ ซึ่งทำให้สำลัก ขาดอากาศหายใจ และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้หากไม่ได้รับการช่วยเหลือทันเวลา

2. กรดไหลย้อน (GERD)

กรดไหลย้อนเกิดจากการที่กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นมาในหลอดอาหาร ทำให้รู้สึกจุกแน่นในลำคอ กลืนลำบากเหมือนมีอะไรติดคอ เจ็บคอ ไอ มีน้ำรสเปรี้ยวหรือขมไหลย้อนขึ้นมาในปากและคอ ท้องอืด และแสบร้อนกลางอก

3. น้ำมูกลงคอ (Postnasal Drip)

น้ำมูกบางส่วนที่เกิดจากโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ หวัด ไซนัสอักเสบ และโรคอื่น ๆ อาจไม่ได้ไหลออกมาทางจมูก และไหลลงคอกลายเป็นเสมหะ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการเหมือนมีอะไรติดคอ ต้องกระแอมบ่อยให้เสมหะหลุดออก เจ็บคอ และไอ โดยเฉพาะตอนกลางคืน

4. สภาวะอารมณ์

ความรู้สึกเหมือนมีอะไรติดคออาจเกิดจากสภาวะอารมณ์บางอย่าง เช่น เศร้า เสียใจ เครียด และวิตกกังวล ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลต่อจิตใจ และยังทำให้เกิดอาการทางร่างกาย เช่น จุกแน่นในลำคอ หายใจติดขัด เหมือนมีสิ่งแปลกปลอมติดคอ สำลัก ไม่สบายท้อง เวียนหัว ใจเต้นเร็ว 

5. ภูมิแพ้

ภูมิแพ้เป็นอาการที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนองต่อสารบางอย่างผิดปกติ เช่น อาหาร ยา และพิษจากแมลง โดยทั่วไปมักทำให้เกิดอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล จาม คันตา น้ำตาไหล มีผื่นหรือลมพิษขึ้น ใบหน้าและลำคอบวม 

กรณีที่อาการแพ้รุนแรง (Anaphylaxis) อาจทำให้มีอาการหายใจลำบาก เหมือนมีอะไรติดคอ หายใจมีเสียงหวีด เจ็บและแน่นหน้าอก ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินที่ควรได้รับการรักษาทันที เพราะอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ 

6. สาเหตุอื่น 

โรคเรื้อรังอื่น ๆ เช่น โรคไทรอยด์ โรคแพ้ภูมิตัวเอง (Lupus) และโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติของหลอดอาหาร อาจทำให้รู้สึกเหมือนมีอะไรติดคอ และกลืนลำบาก

แนวทางรับมือเมื่อรู้สึกเหมือนมีอะไรติดคอ

การดูแลตัวเองในเบื้องต้นเมื่อรู้สึกเหมือนมีอะไรติดคอ มีดังนี้

  • หากมีอาหารติดคอโดยไม่มีอาการสำลักหรือหายใจไม่ออก อาจรอสักพักให้อาหารไหลลงไปยังหลอดอาหารเอง หากยังไม่หาย ให้ดื่มน้ำหรือน้ำอัดลม เพื่อดันให้อาหารไหลลงคอได้ง่ายขึ้น
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ และล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ เพื่อช่วยให้ร่างกายกำจัดน้ำมูกและเสมหะที่ค้างอยู่ในโพรงจมูก ป้องกันน้ำมูกไหลลงคอ และนอนหมอนสูงกว่าปกติ เพื่อให้หายใจสะดวกขึ้น และไม่ทำให้น้ำมูกสะสมในลำคอจนรู้สึกเหมือนมีอะไรติดคอ
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่กระตุ้นให้เกิดกรดไหลย้อน เช่น อาหารทอด อาหารไขมันสูง อาหารรสเผ็ดและเปรี้ยวจัด และไม่ควรรับประทานอาหารแล้วนอนทันที ควรเว้นระยะอย่างน้อย 3 ชั่วโมงจึงเข้านอน
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ การสูดดมควันบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้ระคายคอ ปากและคอแห้งมากขึ้น มีอาการกลืนลำบากเหมือนมีอะไรติดคอมากขึ้น
  • ใช้ยาที่หาซื้อได้เองตามคำแนะนำของเภสัชกร เช่น ยาแก้แพ้สำหรับบรรเทาอาการภูมิแพ้ ยาลดน้ำมูกสำหรับบรรเทาอาการคัดจมูก และยาลดกรดที่ช่วยลดอาการท้องอืดจากกรดไหลย้อน
  • ทำกิจกรรมผ่อนคลายความเครียด เช่น อาบน้ำอุ่น ฟังเพลงสบาย ๆ โยคะ นั่งสมาธิ หรือทำกิจกรรมที่ชอบ ซึ่งจะช่วยป้องกันความรู้สึกเหมือนมีอะไรติดคอที่เกิดจากสภาวะอารมณ์แง่ลบได้

หากดูแลตัวเองด้วยวิธีเหล่านี้แล้ว ความรู้สึกเหมือนมีอะไรติดคอยังไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหาสาเหตุและรักษาที่เหมาะสม เพราะอาการเหมือนมีอะไรติดคออาจเป็นสัญญาณบอกโรคที่ควรได้รับการรักษาเพิ่มเติม

กรณีที่อาหารติดคอแล้วมีอาการหายใจไม่ออก หายใจหอบเหนื่อย กลืนน้ำลายไม่ได้ น้ำลายไหล พูดไม่ได้หรือร้องไม่มีเสียง สีผิวเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำ ควรปฐมพยาบาลเพื่อให้อาหารหลุดออกมา หรือรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที