เมื่อเกิดปัญหาเกี่ยวกับดวงตา ยาหยอดตาเป็นอีกทางเลือกที่ถูกนำมาใช้ในการรักษาดวงตา ซึ่งอาจเป็นการใช้ยาหยอดตาตามแพทย์สั่ง หรือเป็นการซื้อยาหยอดตาจากร้านขายยามาใช้เอง อย่างไรก็ตาม ดวงตาเป็นอวัยวะที่สำคัญและบอบบางมาก จึงควรเรียนรู้วิธีการใช้ยาหยอดตาอย่างถูกต้องและปลอดภัย เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้เกิดผลเสียต่อดวงตา
ยาหยอดตามีอยู่หลายประเภท และแต่ละประเภทก็ใช้สำหรับรักษาปัญหาเกี่ยวกับดวงตาที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นอาการระคายเคืองตา ตาแดง ตาอักเสบ รวมถึงตาแห้ง บทความนี้จึงจะอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับยาหยอดตาแต่ละประเภทและข้อควรรู้ก่อนการใช้ยาหยอดตา เพื่อให้ผู้อ่านทุกคนสามารถใช้ยาหยอดตาได้อย่างถูกวิธีและเกิดความปลอดภัยต่อดวงตาของคุณ
ประเภทของยาหยอดตา
ยาหยอดตาถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้
ยาหยอดตาสำหรับบรรเทาอาการแพ้
ยาหยอดตาประเภทนี้ใช้สำหรับรักษาอาการแพ้ทั่วไปที่ไม่รุนแรง เช่น การแพ้อากาศ การแพ้ฝุ่น หรือการแพ้สัตว์เลี้ยง โดยตัวยาจะออกฤทธิ์ยับยั้งการหลั่งของสารฮิสตามีน ซึ่งเป็นสารที่หลั่งออกมาเมื่อร่างกายเกิดอาการแพ้ และจะช่วยบรรเทาอาการคันตา ตาแดง หรือน้ำตาไหล ซึ่งเป็นปฏิกิริยาทางร่างกายที่เกิดขึ้นเมื่อมีอาการแพ้นั่นเอง
ยาหยอดตาสำหรับบรรเทาอาการตาแดง
ยาหยอดตาประเภทนี้ใช้สำหรับรักษาอาการตาแดง ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการระคายเคือง การอักเสบ หรืออาการแพ้ก็ได้เช่นกัน โดยตัวยาจะทำให้หลอดเลือดบริเวณดวงตาหดตัวลง ส่งผลให้รอยแดงจางหายไป ตามปกติแล้วยาหยอดตาประเภทนี้มักมีตัวยาที่ใช้สำหรับรักษาอาการแพ้และสารให้ความชุ่มชื้นอ่อน ๆ ผสมอยู่ด้วย จึงอาจช่วยบรรเทาอาการแพ้และลดอาการตาแห้งได้เช่นกัน
ยาหยอดตาสำหรับบรรเทาอาการตาแห้ง
ยาหยอดตาสำหรับบรรเทาอาการตาแห้งหรือที่คนทั่วไปรู้จักกันในชื่อว่าน้ำตาเทียม ซึ่งจะมีส่วนประกอบหลักคือสารอิเล็กโทรไลต์ (Electrolytes) และสารให้ความชุ่มชื้นที่ถูกพัฒนาออกมาให้มีความคล้ายคลึงกับน้ำตาจริง
ตัวยามีคุณสมบัติในการช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ดวงตาและช่วยบรรเทาอาการตาแห้ง โดยเฉพาะผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ก็อาจจำเป็นที่จะต้องใช้น้ำตาเทียมเพื่อช่วยลดอาการระคายเคืองตาด้วย
นอกจากนี้ ยังมียาหยอดตาที่ใช้สำหรับรักษาอาการเฉพาะอื่น ๆ เช่น ยาขยายม่านตาสำหรับใช้ในการตรวจตา ยาชาสำหรับใช้ในการผ่าตัดเกี่ยวกับดวงตา ยาปฏิชีวนะสำหรับใช้รักษาอาการติดเชื้อบางชนิด และยาลดความดันสำหรับใช้รักษาโรคต้อหินในระยะยาว
และเนื่องจากยาหยอดตาบางประเภทอาจมีคุณสมบัติในการรักษาปัญหาเกี่ยวกับดวงตามากกว่า 1 อาการ จึงควรศึกษารายละเอียดของยาให้ครบถ้วนก่อนการใช้ยา
วิธีการใช้ยาหยอดตา
ยาหยอดตาแต่ละประเภทอาจมีวิธีการใช้ยา ระยะเวลาในการใช้ยา และปริมาณในการใช้ยาแตกต่างกันออกไปตามสาเหตุของอาการ ความรุนแรงของอาการ รวมถึงเงื่อนไขสุขภาพของผู้ป่วยแต่ละคนด้วย แต่ในเบื้องต้น การใช้ยาหยอดตาอย่างถูกต้องและปลอดภัยสามารถปฏิบัติตามวิธีการดังต่อไปนี้
1. อ่านคำแนะนำบนฉลาก และทำความเข้าใจเกี่ยวกับปริมาณและระยะเวลาในการใช้ยาอย่างถี่ถ้วน
2. ล้างมือให้สะอาดก่อนใช้ยาหยอดตา เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกหรือเชื้อโรคต่าง ๆ เข้าสู่ดวงตา
3. หากใส่คอนแทคเลนส์ ควรถอดคอนแทคเลนส์ออกก่อนใช้ยาหยอดตา และใส่คอนแทคเลนส์กลับเข้าไปใหม่หลังจากใช้ยาหยอดตาประมาณ 15 นาที แต่ยาหยอดตาประเภทน้ำตาเทียมบางชนิดอาจไม่จำเป็นต้องถอดคอนแทคเลนส์ก่อนใช้
4. เอียงศีรษะไปด้านหลังเล็กน้อย จากนั้นใช้มือข้างที่ไม่ถนัดดึงเปลือกตาล่างลงมาและเหลือบตามองขึ้นไปด้านบน
5. ใช้มือข้างที่ถนัดถือขวดยาหยอดตาไว้ใกล้กับดวงตา แต่ระมัดระวังไม่ให้ปากขวดยาหยอดตาสัมผัสกับนิ้วมือหรือดวงตา จากนั้นค่อย ๆ หยดยาหยอดตาลงบนเปลือกตาล่างตามปริมาณที่แพทย์แนะนำหรือที่ระบุไว้บนฉลาก
6. ปล่อยมือจากเปลือกตาล่างและหลับตาลงเบา ๆ ประมาณ 1–3 นาที โดยห้ามกะพริบตาหรือขยับลูกตาถี่ ๆ รวมถึงในระหว่างที่หลับตาให้ใช้นิ้วมือกดท่อน้ำตาที่อยู่บริเวณหัวตาเล็กน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาไหลเข้าสู่โพรงจมูกและคอด้วย
7. ในกรณีที่ต้องหยอดตาทั้งสองข้าง ให้หยอดตาทีละข้าง โดยหยอดตาข้างแรกให้เสร็จก่อนแล้วจึงทำซ้ำวิธีการเดิมกับดวงตาอีกข้างหนึ่ง เมื่อหยอดตาเสร็จเรียบร้อยแล้วควรล้างมือให้สะอาด
หากรู้สึกว่าการหยอดตาเป็นเรื่องยากอาจลองปรับเปลี่ยนท่าทางที่ใช้ในการหยอดตาเป็นท่านอนราบหรือท่าอื่น ๆ ที่ถนัด เพื่อช่วยให้การหยอดตาง่ายมากยิ่งขึ้น รวมถึงในกรณีของเด็กหรือผู้สูงอายุที่หยอดตาด้วยตนเองไม่ถนัด อาจขอให้สมาชิกภายในบ้านคนอื่น ๆ ช่วยหยอดตาให้ก็ได้เช่นกัน
ข้อควรระวังในการใช้ยาหยอดตา
ยาหยอดตาบางชนิดอาจมีข้อควรระวังในการใช้โดยเฉพาะที่แตกต่างกันออกไป จึงควรศึกษาข้อควรระวังในการใช้ยาหยอดตาแต่ละชนิดให้เข้าใจก่อนการใช้ยา เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอันตรายแก่ดวงตา
ข้อควรระวังในการใช้ยาหยอดตาในเบื้องต้นมีดังนี้
- ควรใช้ยาในปริมาณและระยะเวลาตามคำแนะนำของแพทย์หรือคำแนะนำบนฉลากอย่างเคร่งครัด ไม่ควรใช้ยาหยอดตาในปริมาณมากกว่าที่แพทย์กำหนด เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมาได้
- ก่อนใช้ยาหยอดตาควรตรวจสอบวันหมดอายุของยาทุกครั้ง รวมถึงตรวจสอบระยะเวลาที่สามารถใช้ยาได้หลังจากการเปิดใช้ครั้งแรกด้วย เนื่องจากยาบางชนิดอาจต้องใช้ให้หมดทันทีหลังจากเปิดใช้
- หากเป็นยาหยอดตาขนาดเล็กสำหรับใช้ครั้งเดียวทิ้ง ควรตรวจสอบลักษณะของน้ำยาหยอดตาก่อนใช้ ไม่ควรใช้ยาหยอดตาหากมีลักษณะขุ่นข้น หรือถูกเปิดมานานเกิน 24–48 ชั่วโมงแล้ว
- ในกรณีที่ต้องใช้ยาหยอดตามากกว่า 1 ชนิด ควรเว้นระยะระหว่างการใช้ยาแต่ละชนิด ซึ่งระยะเวลาในการเว้นช่วงและลำดับก่อนหลังในการใช้ยาแต่ละชนิดแพทย์หรือเภสัชกรจะเป็นผู้กำหนด
- หากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นหลังจากการใช้ยาหยอดตา เช่น ปวดตา แสบตา ตาแดง มีอาการบวม มีหนอง น้ำตาไหลไม่หยุด มองเห็นไม่ชัดเจน รวมถึงมีผื่นลมพิษขึ้น ควรไปพบแพทย์
- ควรเก็บยาตามคำแนะนำของแพทย์หรือคำแนะนำบนฉลากให้ถูกวิธี เพื่อป้องกันไม่ให้ยาเสื่อมสภาพ
- ไม่ควรใช้ยาหยอดตาร่วมกับผู้อื่น เพราะอาจทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรค และเกิดการติดเชื้อตามมาได้
นอกจาก สิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึงเพิ่มเติมในการใช้ยาหยอดตาก็คือ ควรใช้ยาหยอดตาให้ถูกประเภทกับปัญหาเกี่ยวกับดวงตาที่เกิดขึ้น และควรหมั่นสังเกตอาการที่เกิดขึ้นในระหว่างการใช้ยาหยอดตาอยู่เสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยาหยอดตาที่อาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อดวงตาตามมานั่นเอง