กินยาอย่างไรให้ปลอดภัย และข้อควรรู้เมื่อลืมกินยา

การกินยาให้ถูกวิธีตามปริมาณและเวลาตามที่แพทย์สั่งหรือตามที่ระบุไว้ในฉลากเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้การรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียงจากการกินยาผิดวิธี 

ยาที่ใช้รักษาโรคมีหลายรูปแบบ ส่วนมากแล้วยากินเป็นรูปแบบที่ใช้อย่างกว้างขวาง มีทั้งรูปแบบยาเม็ด ยาแคปซูล และยาน้ำ โดยตัวยาสำคัญในยาจะเป็นส่วนประกอบที่มีฤทธิ์ในการรักษา และยาแต่ละชนิดมีรูปแบบการออกฤทธิ์ของตัวยาสำคัญที่แตกต่างกัน มาเรียนรู้วิธีการกินยาให้ถูกต้องและปลอดภัยต่อสุขภาพกันได้ในบทความนี้

How to Take Medicine Properly

กินยาอย่างไรให้ถูกวิธี 

ก่อนการกินยาทุกชนิด ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับส่วนประกอบในยา ปริมาณยา วิธีการรับประทาน ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น และวิธีการเก็บรักษายาอย่างถูกต้อง โดยกระทรวงสาธารณสุขแนะนำหลักการใช้ยาอย่างถูกต้องตามหลักการ 5 ถูก ดังนี้

  1. ถูกโรค คือใช้ยาให้ตรงกับโรคที่เป็น เช่น เมื่อมีไข้ ควรใช้ยาที่มีสรรพคุณในการลดไข้ เป็นต้น
  2. ถูกคน คือใช้ยาให้ตรงกับเพศ อายุ วัย และปัจจัยด้านสุขภาพของแต่ละคน โดยแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบหากมีโรคประจำตัว ตั้งครรภ์ กำลังให้นมบุตร และกินยาหรืออาหารเสริมอื่นอยู่
  3. ถูกขนาด คือใช้ยาตามปริมาณ เช่น กินครั้งละ 1 เม็ด หรือครั้งละ 1 ช้อนชา ไม่ควรกินน้อยกว่าหรือมากกว่าที่ฉลากยาระบุหรือที่แพทย์กำหนด เป็นต้น
  4. ถูกเวลา คือใช้ยาให้ถูกเวลาตามที่ระบุบนฉลากยา เช่น ยาก่อนอาหาร ควรกินก่อนอาหาร 15–30 นาที ยาหลังอาหารบางชนิดอาจให้กินหลังอาหารทันที และบางชนิดกินหลังอาหาร 15–30 นาที และยาก่อนนอน หากนอนไม่ตรงเวลาควรกินในเวลาเดียวกันทุกวัน เป็นต้น
  5. ถูกวิธี คือยากินบางชนิดเท่านั้นที่สามารถหักแบ่ง บดเม็ดยา หรือแกะแคปซูลมาละลายน้ำก่อนกินได้ แต่ยาบางชนิดไม่สามารถทำได้ จึงควรสอบถามเภสัชกร หรืออ่านเอกสารกำกับยาทุกครั้งก่อนหักแบ่งหรือบดเม็ดยา นอกจากนี้ ควรใช้ยาให้ถูกช่องทาง เพราะยาแต่ะชนิดมีวิธีออกฤทธิ์ที่ต่างกัน เช่น ยากินจะดูดซึมมากที่สุดที่ลำไส้เล็ก เข้าสู่กระแสเลือดและออกฤทธิ์ทั่วร่างกาย ส่วนยาดม ยาพ่น และยาเหน็บ ออกฤทธิ์เฉพาะที่ อย่างยาพ่นจมูก ยาเหน็บช่องคลอด และยาเหน็บทวารหนัก

ทั้งนี้ ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่ต้องกินยาต่อเนื่อง ไม่ควรหยุดกินยาเองโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ เช่น ยารักษาโรคคอเลสเตอรอลสูง หากผู้ป่วยหยุดยาเองอย่างกะทันหันอาจทำให้ระดับไขมันในเลือดสูงขึ้นและส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ เช่นเดียวกับผู้ป่วยบางคนที่หยุดยารักษาความดันโลหิตสูงเอง เพราะคิดว่าไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ แต่การหยุดยาจะทำให้ความดันโลหิตกลับสูงขึ้นมาอีก และอาจส่งผลเสียอย่างร้ายแรงต่อร่างกาย โดยอาจทำให้เส้นเลือดในสมองแตก อัมพฤกษ์ และอัมพาตได้ 

ลืมกินยา ควรทำอย่างไร

การกินยาเป็นประจำตามเวลาเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาโรคอย่างมีประสิทธิภาพ แต่หลายคนก็ชอบลืมกินยาอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว ซึ่งยาแต่ละชนิดมีหลักปฏิบัติเมื่อลืมกินยาที่แตกต่างกัน ได้แก่

  • ยาก่อนอาหาร : ควรข้ามยามื้อที่ลืมไป แต่ถ้าเป็นยาที่รับประทานก่อนอาหารอาจรอให้กระเพาะอาหารว่างก่อนประมาณ 2 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหารแล้วค่อยกินยา เพราะยาจะถูกทำลายหรืออาหารอาจลดการดูดซึมของยา แต่กรณีที่ต้องกินยาในมื้อถัดไปอยู่แล้ว ให้กินยาก่อนอาหารมื้อถัดไปแทนได้เลย
  • ยาหลังอาหาร : กรณีที่นึกได้ว่าลืมกินยาไม่เกิน 15–30 นาที สามารถรับประทานยาได้ทันทีที่นึกได้แต่หากเกินกว่า 30 นาทีแล้ว ควรกินยาหลังอาหารในมื้อถัดไปแทน หากยานั้นมีความสำคัญมาก อาจกินอาหารมื้อย่อยแทนมื้อหลักก่อนกินยาได้
  • ยาหลังอาหารทันที : ควรรอกินยาหลังอาหารในมื้อถัดไปแทน หรืออาจกินอาหารมื้อย่อยแทนมื้อหลักก่อนกินยาก็ได้หากยานั้นมีความสำคัญมาก
  • ยาก่อนนอน : โดยทั่วไปมักนึกได้ว่าลืมกินยาในเช้าวันรุ่งขึ้น จึงควรรอให้ถึงเวลาก่อนเข้านอนในคืนถัดไปค่อยกินยานั้น

อย่างไรก็ตาม ยารักษาโรคประจำตัวบางชนิดมีข้อปฏิบัติเมื่อลืมกินยาที่แตกต่างจากยาทั่วไป เช่น ยารักษาโรคความดันโลหิตสูงที่ต้องกินให้ตรงเวลาทุกวัน หากลืมกินยาควรกินยาทันทีที่นึกขึ้นได้ และหากลืมกินเมื่อใกล้มื้อถัดไป ห้ามกินยาเพิ่มเป็น 2 เท่าอย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดอันตรายจากการความดันลดลงได้ เป็นต้น หากไม่แน่ใจว่ายาที่กินอยู่มีข้อควรปฏิบัติอย่างไรเมื่อลิมกินยา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

เทคนิคการกินยาให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

การกินยาอย่างถูกต้องมีข้อควรรู้และควรระวังเพิ่มเติม ดังนี้

  • ไม่ควรแบ่งยาของตัวเองให้คนอื่นกินและไม่กินยาของคนอื่น เนื่องจากแต่ละคนมีโรคประจำตัวและสภาพร่างกายที่แตกต่างกัน การกินยาเพื่อรักษาโรคอย่างมีประสิทธิภาพต้องคำนึงถึงความเหมาะสมกับแต่ละบุคคลเท่านั้น
  • หากต้องการแบ่งยาใส่ตลับยาเพื่อเตือนไม่ให้ลืมกินยา ควรแบ่งยาใส่ตลับให้พอใช้ในแต่ละวัน ไม่ควรแบ่งยาล่วงหน้า หากยาอยู่ในแผงฟอยล์หรือซองสีชา ควรตัดแบ่งทั้งฟอยล์และไม่แกะยาออกจากแผงฟอยล์ เนื่องจากอาจทำให้ยามีประสิทธิภาพลดลง
  • กินยาให้ครบถ้วนและถูกต้องตามที่แพทย์สั่งหรือตามที่ฉลากยากำหนด เพื่อป้องกันผลข้างเคียงจากยา เช่น ยาบางชนิดควรดื่มน้ำตามมาก ๆ ยาบางชนิดควรเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน และยาบางชนิดอาจทำให้ง่วงนอน จึงควรหลีกเลี่ยงการขับรถหรือทำงานกับเครื่องจักร เป็นต้น
  • ไม่ควรกินยาร่วมกับอาหารบางชนิด เช่น นม และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากอาจส่งผลให้ประสิทธิภาพของยาบางชนิดลดลงและอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้
  • เก็บรักษายาอย่างเหมาะสม โดยยาบางชนิดอาจเสื่อมสภาพเมื่อถูกแสงแดดหรือเก็บในที่ที่มีอุณหภูมิและความชื้นสูง และยาบางชนิดควรเก็บในตู้เย็น จึงควรสอบถามวิธีเก็บรักษายาที่ถูกต้องจากแพทย์หรือเภสัชกรเมื่อได้รับยาทุกครั้ง
  • เก็บยาไว้ในที่ที่ปลอดภัยและพ้นจากมือเด็ก
  • หมั่นตรวจสอบวันหมดอายุบนฉลากยา หากยาเปลี่ยนสภาพ เช่น สีเปลี่ยน มีจุดด่าง ขึ้นรา เยิ้มเหนียว หรือมีกลิ่นผิดไปจากเดิม ไม่ควรกินยาดังกล่าว

การกินยาให้ถูกต้องและครบถ้วนตามที่แพทย์สั่งหรือตามที่ฉลากระบุไว้จะช่วยให้การรักษาโรคมีประสิทธิภาพ หากมีความผิดปกติเกิดขึ้นหลังกินยา เช่น มีผื่นขึ้น เกิดลมพิษ และอื่น ๆ ควรหยุดยาและรีบพบแพทย์ทันที โดยนำยาที่ตนเองได้รับติดตัวไปด้วยเพื่อให้แพทย์พิจารณา และไม่ควรพยายามทำให้อาเจียนหรือซื้อยาแก้แพ้มากินเอง