ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันโปรตีนบาร์หรือโปรตีนอัดแท่งเป็นที่นิยมสำหรับใครหลายคน โดยเฉพาะผู้ที่สนใจด้านสุขภาพ ผู้ที่ควบคุมน้ำหนัก หรือนักกีฬา เพราะเป็นขนมอุดมด้วยโปรตีนและสารอาหารสำคัญ ง่ายต่อการรับประทานในวันที่วุ่นวาย ไม่มีเวลามากพอจะทำอาหารเอง หรือต้องการพลังงานในการทำกิจกรรมหรือออกกำลังกาย บทความนี้จึงอยากชวนคุณมาทำความรู้จักกับโปรตีนบาร์และประโยชน์ของขนมชนิดนี้ให้มากยิ่งขึ้น
ปกติแล้ว โปรตีนบาร์หรือโปรตีนอัดแท่งนั้นทำมาจากส่วนผสมหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นผลไม้อบแห้ง ถั่ว เมล็ดพืช ธัญพืชเต็มเมล็ดที่ไม่ผ่านการขัดสีอย่างโอ๊ตหรือควินัว ซึ่งการรับประทานโปรตีนบาร์มักจะให้พลังงานอยู่ที่ 150-400 แคลอรี โปรตีนประมาณ 10-20 กรัม ไขมันประมาณ 5-10 กรัม คาร์โบไฮเดรตประมาณ 25-35 กรัม ใยอาหารประมาณ 5-10 กรัม อีกทั้งยังอาจมีสารอาหารอื่น ๆ ที่เป็นประโยน์ต่อร่างกายด้วย
ประโยชน์ของโปรตีนบาร์
หลายคนอาจเคยรับประทานโปรตีนบาร์กันมาบ้าง เแต่อาจไม่ทราบถึงประโยชน์ที่ซ่อนเอาไว้ โดยขนมชนิดนี้อาจช่วยให้การดูแลสุขภาพหรือการควบคุมน้ำหนักของเราเป็นเรื่องง่ายขึ้น เนื่องจากประโยชน์ต่อไปนี้
-
คุณค่าทางโภชนาการที่พกพาได้
อย่างที่รู้กันดี โปรตีนบาร์เต็มไปด้วยสารอาหารสำคัญอย่างโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตที่จะช่วยเพิ่มพลังงานร่างกายทั้งก่อนและหลังการออกกำลังกาย ไฟเบอร์หรือใยอาหารที่จำเป็นระบบย่อยอาหารและช่วยลดการทานในปริมาณมากระหว่างมื้ออาหาร อีกทั้งยังอาจมีแร่ธาตุและวิตามินอื่น ๆ ที่ใส่เพิ่มเติมลงไป เพื่อช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง เช่น แคลเซียม โพแทสเซียม เหล็ก แมกนีเซียม วิตามินบีรวม วิตามินอี เป็นต้น นอกจากนี้ การออกแบบให้โปรตีนบาร์ในรูปแบบที่ง่ายต่อการรับประทาน พกพาสะดวก มีหลากหลายรสชาติ ก็ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงสารอาหารที่ร่างกายต้องการได้ง่ายขึ้น
-
ลดหรือควบคุมน้ำหนักตัว
มีงานวิจัยบางส่วนบอกว่า โปรตีนอาจมีส่วนช่วยลดความอยากอาหาร ทำให้รู้สึกอิ่ม ป้องกันการรับประทานอาหารในปริมาณมากจนเกินไป หรือรับประทานของว่างตอนกลางคืน ด้วยเหตุนี้โปรตีนบาร์ที่มีปริมาณโปรตีนสูงอาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับสายรักสุขภาพ ต้องการควบคุมน้ำหนักหรือลดน้ำหนัก เพราะง่ายต่อการคาดคะเนและควบคุมปริมาณโปรตีนที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวันตามต้องการ แต่ผู้บริโภคควรออกกำลังกายร่วมด้วยเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี
-
เสริมสร้างกล้ามเนื้อ
สำหรับสายกล้ามหรือนักกีฬานั้นโปรตีนเป็นสารอาหารที่จำเป็นอย่างมาก เพราะช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ช่วยลดการบาดเจ็บ เสริมสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่สึกหรอจากการเล่นกีฬาชนิดต่าง ๆ โดยวิทยาลัยแพทย์เวชศาสตร์การกีฬาของประเทศสหรัฐอเมริกา (American College of Sports Medicine: ACSM) แนะนำว่า นักกีฬาประเภททนทานและใช้พลังควรบริโภคโปรตีน 1.2-1.7 กรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม โปรตีนบาร์จึงอาจช่วยเติมเต็มความต้องการโปรตีนที่สูงขึ้นได้หากการรับประทานอาหารปกติไม่สามารถตอบโจทย์
วิธีรับประทานโปรตีนบาร์ให้ปลอดภัยและมีสุขภาพดี
แม้โปรตีนบาร์จะมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่การอ่านฉลากโภชนาการก่อนการรับประทานก็ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก เพราะจะช่วยลดผลเสียที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกายได้ไม่มากก็น้อย โดยเคล็ดลับการเลือกซื้อโปรตีนบาร์อย่างถูกวิธีมีดังนี้
- เลือกโปรตีนบาร์ที่มีไขมันต่ำหรือมีปริมาณไขมันน้อยกว่า 5 กรัม
- เลือกโปรตีนบาร์ที่มีไฟเบอร์ประมาณ 3-5 กรัม
- ตรวจสอบจำนวนแคลอรีที่ระบุบนฉลากบรรจุภัณฑ์ก่อนการรับประทานโดยเฉพาะหากกำลังควบคุมน้ำหนักหรือลดน้ำหนัก
- ไม่ควรรับประทานแต่โปรตีนบาร์เพียงอย่างเดียว แต่ควรรับประทานอาหารในแต่ละมื้อให้ครบทุกหมู่และหากได้รับโปรตีนจากอาหารในปริมาณที่เพียงพออยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องรับประทานโปรตีนบาร์เพิ่มเติม เนื่องจากร่างกายคนเราไม่สามารถกักเก็บโปรตีนไว้ได้ โปรตีนส่วนเกินจึงจะถูกกำจัดออกทางไต ซึ่งอาจทำให้ไตทํางานหนักเกินจำเป็น
- การได้รับโปรตีนเสริมในปริมาณมากในระยะยาวอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น โรคกระดูกพรุน หรือตับและไตเสียหายอย่างรุนแรง เป็นต้น
- ระมัดระวังในการรับประทานโปรตีนบาร์หลาย ๆ แท่งในหนึ่งวัน เพราะหากร่างกายได้รับวิตามินหรือแร่ธาตุบางชนิดมากจนเกินไปอาจเกิดผลข้างเคียงได้ เช่น สังกะสีที่อาจส่งผลต่อการดูดซึมแร่ธาตุชนิดอื่นและทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง
- โปรตีนบาร์บางชนิดมีน้ำตาลที่เติมลงไปในปริมาณมาก และอาจมีส่วนผสมของสารให้ความหวานที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างน้ำเชื่อมข้าวโพดที่มีปริมาณน้ำตาลฟรุกโตสสูง ซึ่งหากบริโภคในปริมาณมากอาจเสี่ยงต่อการเกิดไขมันพอกตับ โรคอ้วน และโรคเบาหวาน
- ไขมันในโปรตีนบาร์บางชนิดอาจทำมาจากน้ำมันพืชที่ผ่านกรรมวิธีอย่างน้ำมันปาล์มหรือน้ำมันถั่วเหลืองแทนการใช้ไขมันจากถั่วหรือเมล็ดพืช ผู้บริโภคจึงควรอ่านฉลากโภชนาการก่อนเสมอ
สุดท้ายนี้ หากกำลังลังเลว่าจะรับประทานโปรตีนบาร์ดีหรือไม่ มีข้อสงสัยอื่นใด หรือต้องการวางแผนการรับประทานที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์หรือนักกำหนดอาหารก่อน โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ โรคประจำตัว หรือแพ้อาหาร เพื่อป้องกันผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ และต้องไม่ลืมว่าการมีสุขภาพที่ดีนั้นต้องอาศัยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ทำร้ายสุขภาพด้วยการดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่ร่วมด้วย