10 วิธีแก้อาการบ้านหมุนเบื้องต้นด้วยตัวเอง

วิธีแก้อาการบ้านหมุนเบื้องต้นที่สามารถทำได้เองที่บ้านมีหลายวิธี เช่น การนั่งพัก การใช้ท่าบริหารร่างกาย และการปรับพฤติกรรมที่ทำให้เกิดอาการ อาการบ้านหมุนที่ไม่รุนแรงอาจดีขึ้นหลังจากดูแลตัวเอง แต่หากอาการไม่ดีขึ้น มีอาการบ้านหมุนบ่อย หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาเพิ่มเติม

บ้านหมุนป็นอาการที่ผู้ป่วยรู้สึกเหมือนตัวเองหรือสิ่งแวดล้อมรอบตัวหมุนทั้งที่ตัวเองไม่ได้เคลื่อนไหว ซึ่งทำให้เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน และเสียการทรงตัว อาการบ้านหมุนมักเกิดจากความผิดปกติของหู ระบบประสาท และโรคอื่น ๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน การทำตามวิธีแก้อาการบ้านหมุนเบื้องต้นอาจช่วยบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นได้

วิธีแก้อาการบ้านหมุน

วิธีแก้อาการบ้านหมุนเบื้องต้น

วิธีแก้อาการบ้านหมุนเบื้องต้นที่สามารถทำได้เองที่บ้าน มีดังนี้

1. หยุดอยู่กับที่

วิธีแก้อาการบ้านหมุนเบื้องต้นคือการหยุดนิ่งอยู่กับที่ โดยนั่งหรือนอนพักทันทีเมื่อเริ่มรู้สึกเวียนศีรษะ หากเวียนศีรษะขณะกำลังขับรถ ควรหยุดรถข้างทาง หรือหยุดการทำงาน โดยเฉพาะการทำงานที่เกี่ยวกับเครื่องจักร เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ

ควรนอนพักผ่อนในห้องที่เงียบและมืดสนิท  ขณะที่นอนพักควรใช้หมอนหนุน 2 ใบ เพื่อยกศีรษะให้สูง ซึ่งจะช่วยให้อาการเวียนศีรษะดีขึ้น

2. กายบริหารด้วยวิธี Epley Maneuver

Epley Maneuver เป็นวิธีบริหารร่างกายที่ผู้ป่วยสามารถทำได้ที่บ้าน ประกอบด้วยท่าบริหารที่เคลื่อนศีรษะไป 4 ทิศทาง ซึ่งช่วยบรรเทาอาการบ้านหมุนจากโรคตะกอนหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน (Benign Paroxysmal Positional Vertigo) โดยมีขั้นตอนดังนี้

  1. เตรียมหมอนวางไว้บนเตียง กะระยะให้หมอนรองบริเวณระหว่างไหล่ได้พอดีเมื่อนอนลง
  2. นั่งลงตามแนวยาวของเตียง หันศีรษะไปด้านข้างที่มีอาการ เช่น หากอาการบ้านหมุนเกิดจากหูซ้าย ให้หันหน้าไปทางซ้าย 45 องศา
  3. นอนหงายลงอย่างรวดเร็ว โดยให้ไหล่วางบนหมอนที่เตรียมไว้ ค้างอยู่ในท่าเอียงศีรษะเช่นเดิมค้างไว้ 30 วินาที 
  4. หันหน้าไปทางขวา 45 องศา หรือเท่ากับหันจากตำแหน่งเดิม 90 องศา ทำค้างไว้อีก 30 วินาทีโดยยังไม่ยกศีรษะขึ้น
  5. เปลี่ยนท่าเป็นนอนตะแคงขวา โดยพลิกลำตัวด้านขวาลงที่เตียงขณะที่ค้างศีรษะไว้ในท่าเดิม นอนนิ่ง ๆ 30 วินาที
  6. ค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งข้างเตียง กลับมาอยู่ในท่าศีรษะตรง

3. กายบริหารด้วยวิธี Semont Maneuver

Semont-Toupet Maneuver เป็นวิธีแก้อาการบ้านหมุนเบื้องต้นที่ประกอบด้วยท่าทางคล้ายกายบริหารด้วยวิธี Epley Maneuver แต่จะใช้การพลิกตัวตะแคงซ้ายและขวาอย่างรวดเร็ว โดยใช้การหันศีรษะน้อยกว่า หากอาการบ้านหมุนเกิดจากหูซ้าย มีขั้นตอนการกายบริหาร ดังนี้

  1. นั่งลงที่ขอบเตียง ศีรษะหันไปด้านขวา 45 องศา 
  2. ค้างศีรษะไว้พร้อมกับเอียงตัวตะแคงซ้ายลงบนเตียงอย่างรวดเร็ว อยู่ในท่านี้ประมาณ 1 นาที
  3. เปลี่ยนท่าเป็นนอนตะแคงขวาอย่างรวดเร็ว โดยที่ยังค้างศีรษะไว้ในท่าเดิม เท่ากับว่า ณ ขณะนี้ใบหน้าจะเหลียวมองลงที่พื้น นอนนิ่ง ๆ ค้างไว้ 1 นาที
  4. ค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งกลับมาอยู่ในท่าปกติ
  5. ทำซ้ำขั้นตอนข้างต้นกับหูด้านขวาที่ไม่มีอาการ

4. กายบริหารด้วยวิธี Brandt-Daroff

Brandt-Daroff เป็นวิธีแก้อาการบ้านหมุนเบื้องต้นที่ทำได้ง่ายที่บ้าน หากอาการบ้านหมุนเกิดจากหูซ้าย มีขั้นตอนการกายบริหาร ดังนี้

  1. นั่งบนเตียง ยืดหลังให้ตรง ห้อยขาลงกับพื้น
  2. หันศีรษะไปทางขวา 45 องศา เอนตัวลงนอนโดยให้ลำตัวด้านซ้ายลงกับเตียง และยังห้อยขากับพื้นเช่นเดิม ทำค้างไว้ 30 วินาที หรือจนกว่าอาการบ้านหมุนจะดีขึ้น
  3. ค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งในท่าเริ่มต้น 
  4. ทำซ้ำขั้นตอนข้างต้นกับหูด้านขวาที่ไม่มีอาการ

ในระหว่างการทำกายบริหารอาจมีอาการมึนงงและเวียนศีรษะเล็กน้อย จึงควรทำขณะอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัย เช่น บนเตียงหรือโซฟา ไม่ควรทำขณะขับรถ เพราะอาจเป็นอันตรายได้

5. ระมัดระวังการขยับตัว

วิธีแก้อาการบ้านหมุนเบื้องต้นที่ผู้ป่วยควรรู้คือการเคลื่อนไหวร่างกายด้วยความระมัดระวัง เช่น หากตื่นกลางดึก ควรเปิดไฟให้มีแสงสว่างเพียงพอสำหรับการเดิน หลังตื่นนอนควรลุกจากเตียงช้า ๆ  หลีกเลี่ยงการก้มตัวเพื่อยกของ เพื่อป้องกันการหกล้มจากอาการบ้านหมุน 

นอกจากนี้ ไม่ควรออกกำลังกายที่ใช้การหันศีรษะมาก เช่น การว่ายน้ำ และกรณีที่ผู้ป่วยทรงตัวไม่ดีและมีความเสี่ยงที่จะหกล้มสูง ควรใช้ไม้เท้าช่วยเดิน  

6. ออกกำลังกายเพิ่มความยืดหยุ่น

การเล่นโยคะ และไทเก๊ก (Tai Chi) เป็นการออกกำลังกายที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ร่างกาย และช่วยเสริมความแข็งแรงในการทรงตัว จึงเป็นวิธีแก้อาการบ้านหมุนเบื้องต้นได้ ผู้ป่วยควรเริ่มจากท่าที่ทำได้ง่ายและไม่หันศีรษะหรือก้ม ๆ เงย ๆ ซึ่งอาจทำให้เวียนศีรษะมากขึ้น เช่น 

  • ท่าศพ (Corpse Pose) โดยนอนหงาย ฝ่ามือหงายขึ้นและวางแขนราบไปกับลำตัว แยกขาออกสบาย ๆ  หลับตาลง หายใจเข้าออกช้า ๆ พร้อมกับผ่อนคลายกล้ามเนื้อใบหน้าและลำตัวทีละส่วน 
  • ท่าเด็ก (Child’s Pose) โดยนั่งบนส้นเท้า ยื่นแขนทั้งสองไปข้างหน้า ค่อย ๆ โน้มตัวลงให้หน้าผากแตะพื้น วางอกให้ชิดหัวเข่าเท่าที่จะทำได้ หายใจเข้าออกช้า ๆ

7. ผ่อนคลายความเครียด

การรับมือกับความเครียดเป็นวิธีแก้อาการบ้านหมุนเบื้องต้นที่ได้ผลดี เพราะความเครียดอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการบ้านหมุน เช่น โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน (Meniere's Disease) ผู้ป่วยควรผ่อนคลายความเครียดด้วยการนั่งสมาธิ ฝึกลมหายใจ ออกกำลังกายเบา ๆ และสูดดมกลิ่นหรือนวดตัวด้วยน้ำมันหอมระเหย เช่น น้ำมันเปปเปอร์มินต์ ลาเวนเดอร์ เลมอน และขิง ซึ่งช่วยให้ผ่อนคลายและบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ

8. ใส่ใจการรับประทานอาหาร

อาหารบางอย่างอาจกระตุ้นให้เกิดอาการบ้านหมุนได้ ผู้ป่วยควรจำกัดปริมาณการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลและโซเดียมสูง หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ และดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำที่อาจทำให้เกิดภาวะบ้านหมุนตามมา

ผู้ป่วยบ้านหมุนที่เกิดจากโรคไมเกรนควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีสารไทรามีน (Tyramine) เช่น ไส้กรอก เบคอน ชีส โยเกิร์ต ผักดอง กล้วยหอม ส้ม และสับปะรด และช็อกโกแลต เนื่องจากสารไทรามีนอาจกระตุ้นให้เกิดบ้านหมุนจากไมเกรนได้

9. พักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนไม่พออาจทำให้มีอาการอ่อนเพลียและอาการวิงเวียนศีรษะ การนอนหลับให้เพียงพอจึงเป็นวิธีแก้อาการบ้านหมุนเบื้องต้นที่มีประสิทธิภาพ โดยทั่วไป ผู้ใหญ่ควรนอนหลับให้ได้ 7–9 ชั่วโมงต่อวัน หากรู้สึกอ่อนเพลียหรือเวียนศีรษะในระหว่างวัน ควรหยุดกิจกรรมที่กำลังทำอยู่และงีบหลับในช่วงสั้น ๆ อาจช่วยให้อาการบ้านหมุนดีขึ้น

10. รับประทานอาหารเสริม

การรับประทานวิตามินเสริมและสมุนไพรบางชนิดอาจเป็นวิธีแก้อาการบ้านหมุนเบื้องต้นได้ เช่น ขิง ซึ่งมีคุณสมบัติบรรเทาอาการเวียนศีรษะ แปะก๊วย (Ginkgo Biloba) ช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมองได้ตามปกติและบรรเทาอาการบ้านหมุน แคลเซียมและวิตามินดีที่ช่วยป้องกันการเกิดอาการบ้านหมุนซ้ำ เป็นต้น

อย่างไรก็ดี ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทานสมุนไพรและอาหารเสริมทุกชนิด โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือรับประทานยาชนิดใดอยู่ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ

หลายคนปฏิบัติตามวิธีแก้อาการบ้านหมุนเบื้องต้นแล้วอาจมีอาการดีขึ้น แต่กรณีที่มีอาการบ้านหมุนบ่อย เวียนศีรษะแบบเป็น ๆ หาย ๆ หรือมีอาการรุนแรงที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียด เนื่องจากอาการบ้านหมุนเกิดได้จากหลายสาเหตุและมีวิธีรักษาที่แตกต่างกัน เช่น การใช้ยา กายภาพบำบัด และการผ่าตัด