ประโยชน์ของฟักทองนอกจากจะใช้เติมเต็มอาหารจานหลัก ของหวาน สลัด หรือซุปต่าง ๆ แล้ว ยังช่วยเพิ่มสารอาหารดี ๆ ให้กับมื้ออาหาร และอาจเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของเราได้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพสายตา ระบบภูมิคุ้มกัน ผิวพรรณ รวมถึงการลดน้ำหนักด้วย
การรับประทานฟักทองอาจส่งผลดีต่อสุขภาพในหลายด้าน เนื่องจากฟักทองอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลากชนิด มีแคลอรีต่ำ และอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ มาดูกันว่าประโยชน์ของฟักทองจะมีอะไรกันบ้าง
1. ปกป้องสายตา
ฟักทองอุดมไปด้วยวิตามินเอที่มาจากสารเบต้าแคโรทีน (Beta Carotene) ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดสีส้ม สีแดง หรือสีเหลืองในฟักทอง โดยวิตามินเอนั้นมีส่วนช่วยบำรุงสายตา และป้องกันโรคเกี่ยวกับดวงตา อย่างตาบอดกลางคืน
นอกจากนี้ ฟักทองยังมีลูทีน (Luteins) และซีแซนทีน (Zeaxanthin) อันมีส่วนช่วยชะลอความเสื่อมของดวงตาจากอายุที่มากขึ้น อย่างโรคจอประสาทตาเสื่อมและต้อกระจก รวมไปถึงมีวิตามินซีและวิตามินอีที่ช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระที่มาทำร้ายดวงตา
2. เสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกาย
ฟักทองเป็นแหล่งของวิตามินเอที่มีประโยชน์ต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกาย หนึ่งในนั้นคือ ระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งวิตามินเอนั้นมีบทบาทในการผลิตและการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวหรือระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคต่าง ๆ ดียิ่งขึ้น และวิตามินซีเองอาจช่วยบรรเทาอาการจากหวัดได้ด้วย
3. ช่วยในการลดน้ำหนักและการย่อยอาหาร
ขึ้นชื่อว่าเป็นผลไม้ ฟักทองย่อมมีปริมาณไฟเบอร์หรือใยอาหารมากไม่แพ้ผลไม้ชนิดอื่น ซึ่งการรับประทานไฟเบอร์นั้นจะช่วยให้เราอิ่มนานขึ้น ลดความอยากอาหารไปได้มาก อีกทั้งยังช่วยให้กระบวนการย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ป้องกันปัญหาท้องผูกได้ดี
จุดเด่นของฟักทองอีกอย่างหนึ่งก็คือ มีแคลอรีต่ำและมีปริมาณน้ำสูง โดยฟักทองปริมาณ 245 กรัมจะให้พลังงานต่ำกว่า 50 กิโลแคลอรี และให้ปริมาณน้ำเกือบ 90% โดยสามารถรับประทานแทนข้าวหรือมันฝรั่งที่ให้พลังงานสูง ประโยชน์ของฟักทองข้อนี้น่าจะถูกอกถูกใจคนที่กำลังลดน้ำหนักหรือชอบการออกกำลังกายเป็นอย่างมาก
4. เสริมสุขภาพผิวพรรณ
สารเบต้าแคโรทีนอย่างวิตามินเอ รวมถึงลูทีนและซีแซนทีน ล้วนมีประโยชน์ต่อสุขภาพผิวพรรณทั้งสิ้น โดยจะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและอันตรายจากรังสี UV ทำให้ผิวหนังดูอ่อนเยาว์และมีสุขภาพดี ปัญหาผิวที่เกิดจากแสงแดดอย่างริ้วรอยดูลดลง
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีวิตามินซีที่ใช้ในการผลิตคอลลาเจนซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนี่งที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของผิวหนัง หากเราขาดคอลลาเจนไป ก็อาจมีปัญหาเกี่ยวกับผิวในอนาคตได้ ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยบนใบหน้า ผิวหนังแห้ง และขาดความชุ่มชื้น
5. ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง
คงมีหลายคนที่ไม่เคยรู้ประโยชน์ของฟักทองในด้านนี้มาก่อน ที่จริงมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับอาหารที่มีเบต้าแคโรทีนสูงแล้วพบว่าอาจช่วยลดโอกาสของการเกิดโรคมะเร็งบางชนิดได้ เช่น มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งคอ มะเร็งตับอ่อน มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งเต้านม
ด้วยคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งสร้างความเสียหายต่อเซลล์ภายในร่างกายและอาจนำไปสู่โรคมะเร็งได้ จึงคาดกันว่าสารเบต้าแคโรทีนเป็นหัวใจสำคัญในการป้องกันเซลล์ต่าง ๆ จากอนุมูลอิสระนั่นเอง
นอกจากนี้ ประโยชน์ของฟักทองที่ได้รับการศึกษาวิจัยยังมีอีกหลายประการ เช่น ช่วยป้องกันโรคหืดและโรคหัวใจ ลดความเสี่ยงของโรคอ้วน หรือกระทั่งเสริมสุขภาพเส้นผม ทว่าการรับประทานฟักทองเพื่อประโยชน์ทางด้านรักษาโรค ควรรอการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันประสิทธิภาพ และควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคประจำตัว ผู้สูงอายุ เด็ก และสตรีมีครรภ์
แม้ว่าประโยชน์ของฟักทองจะมีมากมาย แต่ควรรับประทานฟักทองอย่างพอดีพอเหมาะจะดีที่สุด และควรระมัดระวังการรับประทานฟักทองที่นำไปแปรรูปเป็นอาหารหรือขนมชนิดต่าง ๆ เพราะอาจมีส่วนผสมของน้ำตาลในปริมาณมากได้