ยาคุมรักษาสิว คือยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดที่ช่วยในการรักษาสิว ซึ่งนอกจากจะใช้เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์แล้ว ยังสามารถช่วยปรับระดับฮอร์โมนที่ทำให้เกิดสิวได้ด้วย ทั้งนี้ ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดประกอบด้วยฮอร์โมนที่แตกต่างกัน ซึ่งมีคุณสมบัติและผลข้างเคียงที่ควรทราบ จึงควรเลือกใช้ยาคุมรักษาสิวให้เหมาะสมภายใต้คำแนะนำของเภสัชกร
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดสิวคือฮอร์โมนกลุ่มแอนโดรเจน (Androgen) เช่น เทสโทสเทอโรน (Testosterone) ที่กระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตไขมันเพิ่มขึ้น ทำให้รูขุมขนอุดตันได้ง่ายและเกิดการสะสมของแบคทีเรีย จึงทำให้เกิดสิวตามมา
ยาคุมรักษาสิวจะเป็นยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ซึ่งประกอบด้วยฮอร์โมน 2 ชนิด คือฮอร์โมนกลุ่มเอสโตรเจน (Estrogen) และโปรเจสติน (Progestin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนสังเคราะห์ การใช้ยาคุมรักษาสิวเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยควบคุมระดับฮอร์โมนและลดการเกิดสิว โดยจะใช้สำหรับผู้ที่รักษาสิวด้วยวิธีอื่นแล้วอาการไม่ดีขึ้น หรือเป็นสิวรุนแรงจากระดับฮอร์โมนไม่สมดุล
5 ยาคุมรักษาสิวที่แนะนำ
ตัวอย่างยาคุมรักษาสิวที่หาซื้อได้เองตามร้านขายยา เช่น
1. ยาคุมไดแอน-35 (Diane-35) 21 เม็ด/แผง
ไดแอน-35 เป็นยาคุมรักษาสิวที่ประกอบด้วยฮอร์โมนเอทินิล เอสทราไดออล (Ethinyl Estradiol) ซึ่งเป็นฮอร์โมนกลุ่มเอสโตรเจน ในปริมาณ 0.035 มิลลิกรัม และมีฮอร์โมนไซโปรเตอโรน อะซีเตท (Cyproterone Acetate) ในปริมาณ 2 มิลลิกรัม ช่วยลดการผลิตฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน ซึ่งทำให้ผิวมันและเกิดสิว
ยาคุมไดแอนจึงใช้รักษาภาวะต่าง ๆ จากการมีฮอร์โมนกลุ่มแอนโดรเจนสูงกว่าปกติได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น สิว ผิวมันมาก และการมีขนดกมากในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ โดยยา 1 แผง มีตัวยาฮอร์โมนจำนวน 21 เม็ด บนแผงยาจะมีระบุวันของการรับประทานยาแต่ละเม็ดและลูกศรบอกทิศทางการรับประทานยา
ให้รับประทานวันละ 1 เม็ด ในเวลาที่ใกล้เคียงกัน เริ่มจากวันแรกของการมีประจำเดือน และรับประทานต่อเนื่องกันจนครบ 21 เม็ด จากนั้นให้งดรับประทานยาเป็นเวลา 7 วัน โดยในช่วงนี้อาจมีเลือดประจำเดือนออกเล็กน้อย จากนั้นจึงสามารถเริ่มรับประทานยาแผงใหม่ได้ในวันที่ 8 เป็นต้นไป
2. ยาคุมยาส (Yaz) 28 เม็ด/แผง
ยาสเป็นยาคุมรักษาสิวที่ประกอบด้วยฮอร์โมนเอทินิล เอสทราไดออล (Ethinyl Estradiol) 0.02 มิลลิกรัม และฮอร์โมนกลุ่มโปรเจสตินคือ ดรอสไพรีโนน (Drospirenone) 3 มิลลิกรัม เหมาะสำหรับใช้รักษาสิวที่มีระดับความรุนแรงปานกลางในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์
ในกล่องยาคุมรักษาสิวยาส ประกอบด้วยยาคุม 1 แผง ซึ่งมีเม็ดยาฮอร์โมนสีชมพู 24 เม็ด และเม็ดยาที่ไม่มีฮอร์โมนสีขาว 4 เม็ด และแผ่นสติกเกอร์ 7 แถบ แต่ละแถบแสดงถึงวันใน 1 สัปดาห์ หากเริ่มรับประทานยาเม็ดแรกในวันอังคาร ให้เลือกสติกเกอร์ที่ขึ้นต้นด้วยวันอังคารมาติดไว้ที่ด้านบนของแผงยา เพื่อให้ทราบถึงวันที่เริ่มรับประทานยา
เริ่มรับประทานยาที่มีฮอร์โมนวันละ 1 เม็ดจนครบ 24 เม็ด จากนั้นให้รับประทานยาคุมอีก 4 เม็ดที่เหลือวันละ 1 เม็ดจนหมดแผง เมื่อรับประทานยาแผงแรกหมดแล้ว สามารถรับประทานยาแผงใหม่ต่อได้ในวันถัดไปได้ โดยไม่ต้องเว้นช่วงหยุดรับประทานยา
ยาคุมรูปแบบนี้จะมีปริมาณฮอร์โมนกลุ่มเอสโตรเจนต่ำ จึงช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียงจากการรับประทานยาได้ ข้อดีอีกข้อหนึ่งของยาคุมรักษาสิวยาส คือมีจำนวนเม็ดยาที่ไม่มีฮอร์โมนเพียง 4 เม็ด ทำให้ฮอร์โมนไม่ผันผวนมากเท่าการรับประทานยาคุมชนิดที่มีเม็ดยาฮอร์โมน 21 และเม็ดยาที่ไม่มีฮอร์โมน 7 เม็ด
3. ยาคุมบีลาร่า (Belara) 21 เม็ด/แผง
ยาคุมรักษาสิวบีลาร่า ประกอบด้วยเอทินิล เอสทราไดออล (Ethinyl Estradiol) 0.03 มิลลิกรัม และฮอร์โมนคลอมาดิโนนอะซีเตท (Chlormadinone Acetate) 2 มิลลิกรัม ใช้รักษาสิวอักเสบระดับปานกลางในผู้หญิง หรือคนที่รักษาสิวด้วยวิธีอื่น ๆ แล้วไม่เห็นผล
โดยรับประทานยาเม็ดแรกในวันแรกของการมีประจำเดือน และรับประทานต่อเนื่องกันวันละ 1 เม็ดตามวันและทิศทางของลูกศรที่ระบุบนฉลากยาจนหมดแผง จากนั้นให้งดรับประทานยาเป็นเวลา 7 วัน แล้วค่อยรับประทานแผงใหม่ ซึ่งในช่วงที่เว้นระยะรับประทานยาอาจมีเลือดออกทางช่องคลอดเล็กน้อย 2–4 วันหลังจากรับประทานยาเม็ดสุดท้าย
4. ยาคุมพรีม 28 (Preme 28) 28 เม็ด/แผง
ยาคุมรักษาสิวพรีม 28 ประกอบด้วยฮอร์โมนเอทินิล เอสทราไดออล (Ethinyl Estradiol) 0.035 มิลลิกรัม และฮอร์โมนไซโปรเตอโรน อะซีเตท (Cyproterone Acetate) 2 มิลลิกรัม เหมาะสำหรับใช้รักษาสิว ผิวและผมมัน และขนดกในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์
ยาคุมรักษาสิวพรีม 28 มีจำนวนเม็ดยา 28 เม็ดต่อแผง ซึ่งประกอบด้วยเม็ดยาฮอร์โมนสีชมพู 21 เม็ด และเม็ดยาที่ไม่มีฮอร์โมนสีขาว 7 เม็ด โดยในวันแรกที่เริ่มมีประจำเดือนให้เริ่มรับประทานยาคุมพรีมเม็ดสีชมพูแถวด้านบนซ้ายที่มีเลข 1 กำกับอยู่ และรับประทานต่อเนื่องกันวันละ 1 เม็ดตามทิศทางของลูกศรบนแผงยาจนครบ 21 เม็ด
จากนั้นให้รับประทานเม็ดยาสีขาวที่มีเลข 22–28 กำกับบนแผงยาต่อเนื่องวันละ 1 เม็ดจนหมด เมื่อรับประทานยาคุมพรีม 28 หมด 1 แผง สามารถเริ่มรับประทานยาคุมแผงใหม่ในวันถัดไปได้ โดยไม่ต้องเว้นระยะเวลาใด ๆ
5. ยาคุมซูซี่ (Sucee) จำนวน 21 เม็ด/แผง
ซูซี่เป็นยาคุมรักษาสิวที่มีฮอร์โมนเอทินิล เอสทราไดออล (Ethinyl Estradiol) 0.035 มิลลิกรัม และฮอร์โมนไซโปรเตอโรน อะซีเตท (Cyproterone Acetate) 2 มิลลิกรัม ซึ่งช่วยยับยั้งการหลั่งฮอร์โมนกลุ่มแอนโดรเจน และช่วยลดการผลิตน้ำมันส่วนเกินที่ทำให้เกิดสิว เหมาะสำหรับรักษาสิว ผิวมัน และภาวะขนดก
วิธีรับประทานยาคุมซูซี่ให้รับประทานทุกวัน วันละ 1 เม็ดตามทิศทางของลูกศรบนแผงยา โดยเริ่มรับประทานตั้งแต่วันแรกที่มีประจำเดือน และรับประทานต่อเนื่องกันจนหมดแผง หากต้องการรับประทานยาคุมแผงใหม่ ให้เว้นระยะเป็นเวลา 7 วัน แล้วจึงรับประทานยาคุมแผงใหม่ ซึ่งในระหว่างนี้อาจมีเลือดออกทางช่องคลอดเล็กน้อยได้
ทั้งนี้ ผู้ที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตรไม่ควรรับประทานยาคุมรักษาสิวเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ ส่วนผู้ที่มีความดันโลหิตสูง คอเลสเตอรอลสูง ไมเกรน ลมชัก ผู้ที่สูบบุหรี่ และผู้ที่อายุมากกว่า 35 ปี ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาคุมรักษาสิว เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ
ทั้งนี้ การใช้ยาคุมรักษาสิวทุกประเภทอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ปวดหัว ไมเกรน เวียนหัว คลื่นไส้ คัดเต้านม น้ำหนักขึ้น มีเลือดออกกะปริบกะปรอยทางช่องคลอด อารมณ์แปรปรวนหรือซึมเศร้า อารมณ์ทางเพศลดลง จึงควรใช้ตามวิธีที่ระบุบนฉลากหรือตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกรอย่างเคร่งครัด
นอกจากการใช้ยาคุมรักษาสิว ผู้ที่เป็นสิวควรล้างหน้าและบำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ไม่มีสารที่ทำให้อุดตันรูขุมขน รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ ออกกำลังกายเป็นประจำ และผ่อนคลายความเครียด เพื่อช่วยให้สุขภาพผิวดีขึ้นและลดการเกิดสิว
