5 วิธีลดไข้แบบเร่งด่วน ปลอดภัยและทำได้ง่าย ๆ ที่บ้าน

วิธีลดไข้อย่างเร่งด่วนมีอยู่หลายวิธี เช่น การลดอุณหภูมิของร่างกายลงด้วยการเช็ดตัวหรือการอาบน้ำ รวมถึงการรับประทานยาลดไข้ต่าง ๆ  ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาอาการไข้ได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ทุกคนควรศึกษาวิธีลดไข้อย่างถูกวิธี เพื่อให้สามารถรับมือเมื่อตัวเองหรือคนใกล้ชิดเกิดอาการไข้ได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย

แม้อาการไข้โดยส่วนใหญ่จะไม่เป็นอันตรายและสามารถหายได้เองภายในเวลาไม่กี่วัน แต่ในบางกรณี หากมีไข้สูงก็อาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะมาก ตัวร้อน ไม่สบายตัว และไม่มีแรงจนส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในเด็กเล็กหากมีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส ควรรีบหาวิธีลดไข้แบบเร่งด่วน เพื่อช่วยบรรเทาอาการไม่สบายตัว

วิธีลดไข้แบบเร่งด่วน

5 วิธีลดไข้แบบเร่งด่วนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

หากมีอากาศไข้ ปวดศีรษะ ตัวร้อน ไม่สบายตัว วิธีการอาจเหล่านี้อาจสามารถช่วยบรรเทาอาการได้ภายในเวลาไม่นาน

1. เช็ดตัว 

การเช็ดตัวเป็นวิธีลดไข้ที่ทำได้ง่าย ๆ และรวดเร็ว โดยให้นำผ้ามาชุบน้ำอุณหภูมิประมาณ 27–37 องศาเซลเซียส และไม่เกิน 40 องศาเซลเซียส จากนั้นบิดผ้าให้หมาดแล้วนำมาเช็ดเบา ๆ บนผิวหนังบริเวณหน้าผาก หลังคอ หน้าอก รักแร้ ขาหนีบ และข้อมือ เพราะเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดใหญ่ ซึ่งจะช่วยให้อุณหภูมิของร่างกายลดลง และช่วยให้รู้สึกสบายตัวมากขึ้น

2. อาบน้ำอุ่นหรือน้ำอุณหภูมิห้อง

การอาบน้ำอุ่นหรือน้ำอุณหภูมิห้องจะช่วยลดอุณหภูมิของร่างกายคล้ายกับการเช็ดตัว อีกทั้งยังช่วยคลายกล้ามเนื้อและช่วยให้รู้สึกสบายตัวมากขึ้นด้วย ซึ่งเหตุผลที่ควรอาบน้ำอุ่นหรือน้ำอุณหภูมิห้องแทนการอาบน้ำเย็น เพราะการอาบน้ำเย็นอาจส่งผลให้อุณภูมิของร่างกายเพิ่มมากขึ้นแทนที่จะเย็นลง และไม่ช่วยให้อาการไข้บรรเทาลงนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ไม่ควรอาบน้ำนานจนเกินไป โดยเฉพาะเมื่อรู้สึกหนาวควรเลิกอาบน้ำ เพราะอาจทำให้เกิดอาการหนาวสั่น และส่งผลให้อาการไข้รุนแรงกว่าเดิมได้

3. รับประทานยาลดไข้

การรับประทานยาลดไข้ที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป เช่น ยาพาราเซตามอล (Paracetamol) หรือยาในกลุ่มยาเอ็นเสด (NSAIDs) อย่าง ยาไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) ยานาพรอกเซน (Naproxen) และยาแอสไพริน (Aspirin) ก็เป็นวิธีลดไข้แบบเร่งด่วนที่สามารถช่วยลดอาการปวดศีรษะ ตัวร้อน ไม่สบายตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกวิธีหนึ่ง 

ทั้งนี้ ควรใช้ยาในปริมาณที่เหมาะสมตามคำแนะนำบนฉลากหรือคำแนะนำของเภสัชกรอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงต่อสุขภาพตามมา ผู้ที่มีโรคประจำตัวต่าง ๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทานยาเหล่านี้ และเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปีไม่ควรรับประทานยาแอสไพริน เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ด้วย

4. ดื่มน้ำตลอดทั้งวัน

เมื่อเป็นไข้ควรดื่มน้ำหรือจิบน้ำตลอดทั้งวัน เพื่อช่วยรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้เย็นลง ช่วยเติมน้ำเข้าสู่ร่างกายทดแทนน้ำที่สูญเสียไปจากการที่เหงื่อออกขณะเป็นไข้ และช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะขาดน้ำด้วย โดยอาจเลือกดื่มน้ำเปล่า น้ำผลไม้ ชาสมุนไพรที่ไม่มีคาเฟอีน หรือเครื่องดื่มเกลือแร่สำหรับนักกีฬาก็ได้เช่นกัน

นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ไม่ว่าจะเป็นกาแฟ ชา น้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มชูกำลัง เพราะอาจส่งผลให้เกิดภาวะขาดน้ำมากกว่าเดิม และทำให้อาการไข้ที่เป็นอยู่รุนแรงขึ้นได้

5. พักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ควรทำเมื่อเป็นไข้ เพราะการพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยให้ร่างกายสามารถฟื้นตัวจากอาการไข้ได้อย่างรวดเร็ว โดยเมื่อเป็นไข้ ควรนอนหลับวันละประมาณ 8–9 ชั่วโมง และควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องหักโหมหรือต้องเคลื่อนไหวร่างกายมาก เช่น การทำงานหนัก การเล่นกีฬา หรือการออกกำลังกายด้วย

เมื่อได้ทราบวิธีลดไข้แบบเร่งด่วนเหล่านี้แล้ว คุณก็จะสามารถรับมือเมื่อเกิดอาการไข้ได้อย่างทันท่วงที แต่หากใช้วิธีการเหล่านี้แล้วอาการยังไม่ดีขึ้นภายใน 5 วัน หรือมีอาการอื่น ๆ เกิดขึ้น เช่น มีไข้สูง วิงเวียนศีรษะ ปวดหัวอย่างรุนแรง มีอาการอาเจียนหรือท้องเสีย หายใจไม่ออกหรือหายใจลำบาก ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉันและการรักษาอย่างเหมาะสม

และในกรณีของเด็กทารกหรือเด็กเล็ก หากเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 3 เดือนมีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส เด็กที่มีอายุตั้งแต่ 3 เดือนถึง 2 ปีที่มีไข้สูงกว่า 39 องศาเซลเซียส และเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไปที่มีไข้สูงเกิน 40 องศาเซลเซียส ควรพาไปพบแพทย์เช่นกัน