ยาระบายเด็กเป็นยาที่ใช้ในการรักษาอาการท้องผูก ถ่ายไม่ออก และลดอาการปวดที่เกิดขึ้นขณะขับถ่าย โดยอาการปวดขณะขับถ่ายที่เกิดจากท้องผูกอาจทำให้เด็กหลีกเลี่ยงการเข้าห้องน้ำเพื่อขับถ่าย ซึ่งอาจทำให้อาการท้องผูกรุนแรงขึ้น เมื่ออาการท้องผูกรุนแรงหรือไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ก็อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น แผลบริเวณขอบทวาร ซึ่งจะทำให้เด็กรู้สึกปวดและไม่สบายตัวได้
ท้องผูกเป็นอาการที่เด็กมีการขับถ่ายน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ อุจจาระแข็ง ขับถ่ายยาก หรือต้องใช้แรงในการขับถ่ายเยอะ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น ดื่มน้ำน้อย รับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์ไม่เพียงพอ ความเครียด โดยหนึ่งในวิธีรักษาท้องผูกในเด็กคือการใช้ยาระบายเด็ก ซึ่งจะออกฤทธิ์แตกต่างกันไปตามชนิดของยา เช่น ช่วยให้อุจจาระนิ่ม ช่วยหล่อลื่นลำไส้ที่ช่วยให้อุจจาระเคลื่อนที่ง่ายขึ้น
ยาระบายเด็กที่ใช้ดีและปลอดภัยสำหรับลูกน้อย
ยาระบายเด็กเป็นยาที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปและมีรูปแบบยาหลากหลายให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม โดยยาระบายเด็กที่ใช้ดีและมีประสิทธิภาพ มีดังนี้
1. ยาดูฟาแลค (Duphalac) ขนาด 100 มิลลิลิตร
ยาระบายเด็กดูฟาแลคเป็นยาระบายชนิดน้ำที่มีส่วนประกอบของยาแล็กทูโลส 66.7 กรัม/มิลลิลิตร (Lactulose) โดยยาจะออกฤทธิ์ช่วยเพิ่มการดูดซึมน้ำจากลำไส้เข้าสู่อุจจาระ ซึ่งจะช่วยให้อุจจาระอ่อนตัวลงและทำให้เด็กขับถ่ายง่ายยิ่งขึ้น
การใช้ยาดูฟาแลครักษาอาการท้องผูกในเด็ก ควรรับประทานวันละ 1 ครั้ง โดยปริมาณอาจแตกต่างกันไป ดังนี้ เด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี รับประทานยาไม่เกิน 5 มิลลิลิตร เด็กอายุ 1–6 ปี รับประทานยา 5–10 มิลลิลิตร เด็กอายุ 7–14 ปี รับประทานยา 15 มิลลิลิตร หรืออาจรับประทานตามคำแนะนำของแพทย์และเภสัชกร ทั้งนี้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาหากมีอาการปวดท้องหรืออาเจียน เพราะอาจทำให้อาการดังกล่าวรุนแรงขึ้นได้
2. เอ็ม เอ็ม (MM) ขนาด 240 มิลลิลิตร
ยาระบายเด็กเอ็ม เอ็ม เป็นยารักษาอาการท้องผูกในเด็กที่มีส่วนผสมของมิลค์ออฟแมกนีเซีย (Milk of Magnesia) ซึ่งจะช่วยเพิ่มน้ำในลำไส้ ทำให้อุจจาระอ่อนตัวและขับถ่ายง่าย นอกจากนี้ เอ็ม เอ็มยังเป็นยาระบายสำหรับเด็กที่มีทั้งรสชาติเชอร์รีและรสมินต์ ซึ่งจะช่วยให้เด็กสามารถรับประทานยาได้ง่ายขึ้น
เด็กที่มีอาการท้องผูกสามารถรับประทานยาระบายเอ็ม เอ็ม วันละ 1 ครั้ง ก่อนนอนหรือหลังจากตื่นนอนตอนเช้า โดยเด็กอายุ 1–6 ปี ควรรับประทานยาครั้งละ 1–3 ช้อนชา เด็กอายุ 6–12 ปี รับประทานครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ และควรเขย่าขวดก่อนการใช้ยา
3. ยาสวนทวารยูนีซัน สำหรับเด็ก (Unison Enema For Children) ขนาด 10 ซีซี
ยาระบายเด็กยูนีซันเป็นยาสวนทวารที่ประกอบด้วยโซเดียมคลอไรด์ 15% (Sodium chloride) ซึ่งใช้ในการรักษาอาการท้องผูก โดยตัวยาจะเพิ่มปริมาณของน้ำในลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย ทำให้ลำไส้ใหญ่ส่วนปลายขยายตัวออก เกิดแรงดัน และขับอุจจาระออกมา
ปริมาณการใช้ยาระบายเด็กยูนีซันอาจแตกต่างกันไปตามอายุ โดยเด็กอายุ 1–6 ปี ใช้ยาครั้งละ 1 ลูก และ เด็กอายุ 6–12 ปี ใช้ยาครั้งละ 1–2 ลูก โดยวิธีการใช้ยายูนีซันสามารถเริ่มจากการล้างมือให้สะอาดและบิดฝาครอบปลายหลอดให้ขาดจากกัน บีบกระเปาะให้น้ำยาออกมาเล็กน้อยเพื่อหล่อลื่นปลายหลอด หรืออาจใช้วาสลีนหรือเจลหล่อลื่นทาปลายหลอดแทน
จากนั้นให้จัดท่าให้ลูกน้อยนอนตะแคงและชันเข่าเข้าหาอก สอดปลายหลอดเข้าไปทางทวารหนัก และค่อย ๆ บีบยาเข้าไปจนหมดหลอด ดึงหลอดยาออกและกลั้นอุจจาระไว้ประมาณ 5 นาทีหรือจนกว่าจะทนไม่ได้ แล้วจึงลุกไปถ่าย
4. ไฟเบอร์เมท คิดดี้ (FiberMate Kiddy) ขนาด 60 กรัม
ไฟเบอร์เมท คิดดี้ เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ใน 1 ช้อนโต๊ะจะประกอบไปด้วยไฟเบอร์ธรรมชาติจากถั่วกัวร์ (Guar) 2 กรัมหรือประมาณแอปเปิล 1 ลูก โดยไฟเบอร์จะช่วยปรับการทำงานของลำไส้ให้สมดุล ทำให้อุจจาระนิ่ม ขับถ่ายง่าย และบรรเทาอาการท้องผูกของลูกน้อยให้ดีขึ้น
ไฟเบอร์เมท คิดดี้ นั้นไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีรสชาติ อีกทั้งยังสามารถผสมได้กับเครื่องดื่มทุกชนิด ทั้งร้อนและเย็น จึงทำให้ลูกน้อยสามารถรับประทานง่ายยิ่งขึ้น โดยพ่อแม่สามารถผสมไฟเบอร์เมท คิดดี้ในเครื่องดื่มให้ลูกวันละ 1–2 ครั้ง โดยเด็กอายุ 0–3 ปี ควรผสมครั้งละ 1 ช้อนชา เด็กอายุ 4–6 ปี ควรผสมครั้งละ 1.5 ช้อนชา เด็กอายุ 7–12 ปี ควรผสมครั้งละ 2 ช้อนชา และเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป ควรผสมครั้งละ 2.5 ช้อนชา
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไฟเบอร์จะมีความปลอดภัย แต่ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการรับประทาน โดยเฉพาะเด็กที่มีโรคประจำตัวหรือกำลังรับประทานยาใดอยู่ เพราะอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพหรืออาจลดประสิทธิภาพของยาบางชนิดได้
5. ยาอีมัลแลกซ์ บิซาโคดิล (Emulax Bisacodyl) ขนาด 100 เม็ด
ยาอีมัลแลกซ์ บิซาโคดิลเป็นยาระบายเด็กที่มีตัวยาบิซาโคดิล 5 มิลลิกรัม (Bisacodyl) ซึ่งยานี้จะออกฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของลำไส้ ทำให้ลำไส้บีบตัวมากขึ้นเพื่อให้อุจจาระเคลื่อนที่ และเกิดการขับถ่ายอุจจาระออกมา
โดยยาอีมัลแลกซ์ บิซาโคดิล ควรรับประทานวันละ 1 เม็ดก่อนนอน ซึ่งการขับถ่ายอาจเกิดขึ้นประมาณ 6–12 ชั่วโมงหลังจากรับประทานยา ทั้งนี้ ยานี้มีส่วนประกอบของยาบิซาโคดิล ควรใช้ในเด็กที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไปภายใต้คำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อความปลอดภัยในการใช้ยา
ยาระบายเด็กต่าง ๆ ที่กล่าวมาสามารถช่วยบรรเทาอาการท้องผูกของลูกน้อยได้ อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการใช้ยาระบายเด็ก และปฏิบัติตามที่ฉลากยาแนะนำเพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย นอกจากนี้ ไม่ควรใช้ยาระบายเด็กเป็นประจำทุกวันหรือมากเกินกว่าที่แพทย์หรือฉลากแนะนำ เพราะอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ เช่น ภาวะขาดน้ำ เกลือแร่ในร่างกายขาดสมดุล ท้องผูกเรื้อรัง ลำไส้อุดตันได้
นอกจากการใช้ยาระบายเด็กแล้ว การป้องกันอาการท้องผูกในเด็กก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้หลายวิธี เช่น ให้ลูกดื่มน้ำและรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูงเพิ่มขึ้น เช่น ผักหรือผลไม้ พาลูกน้อยออกกำลังกายเป็นประจำ เพียงเท่านี้ก็อาจช่วยให้การขับถ่ายของลูกน้อยดีขึ้น
ทั้งนี้ หากอาการท้องผูกของลูกยังคงไม่ดีขึ้นหลังจากใช้ยาระบายเด็ก หรือมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น เช่น มีไข้ ไม่ยอมดื่มนมหรือรับประทานอาหาร ท้องบวม อุจจาระมีเลือดปน น้ำหนักลดลง ขับถ่ายแล้วปวดท้องอย่างรุนแรง ไส้ตรงปลิ้นออกมาด้านนอก ควรรีบพาลูกน้อยไปพบแพทย์ทันทีเพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาอย่างเหมาะสม