ยาแก้ท้องอืดมีสรรพคุณในการช่วยระบายแก๊สในระบบทางเดินอาหาร จึงสามารถช่วยให้อาการอึดอัด จุกเสียด และแน่นท้องจากอาการท้องอืดบรรเทาลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ยาแก้ท้องอืดมีหลายชนิด เช่น ยาขับลม ยาลดกรด ยาธาตุน้ำขาว ยาธาตุน้ำแดง และมีหลายรูปแบบ เช่น ยาเม็ด หรือยาน้ำ จึงควรศึกษาวิธีใช้ยาแก้ท้องอืดแต่ละชนิดอย่างถี่ถ้วนก่อน
การเลือกใช้ยาแก้ท้องอืดแต่ละชนิดจะต้องพิจารณาถึงสาเหตุของการเกิดอาการท้องอืดด้วย ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักมีสาเหตุมาจากการรับประทานอาหารมากเกินไปหรือเร็วเกินไป การรับประทานอาหารที่ย่อยยาก การรับประทานอาหารที่ทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหารเพิ่มขึ้น เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือน้ำอัดลม นอกจากนี้ อาจเป็นผลมาจากโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร เช่น โรคกรดไหลย้อน
ยาแก้ท้องอืดที่ปลอดภัยและหาได้ง่ายใกล้ตัวคุณ
หากคุณกำลังมองหาตัวช่วยในการขับลมในกระเพาะอาหารที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ควรเลือกยาที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อสุขภาพ โดยยาแก้ท้องอืดทั้ง 5 ชนิดที่จะแนะนำในบทความนี้ สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป ได้แก่
1. แอร์-เอ็กซ์ (AIR-X) 80 มิลลิกรัม บรรจุแผงละ 10 เม็ด
ยาแก้ท้องอืดแอร์เอ็กซ์เป็นยาไซเมทิโคน (Simethicone) ซึ่งเป็นยาขับลมที่มีสรรพคุณในการช่วยบรรเทาอาการจุกเสียด แน่นท้อง และท้องอืดจากการมีแก๊สส่วนเกินในระบบทางเดินอาหาร โดยตัวยาจะออกฤทธิ์ลดแรงตึงผิวของฟองแก๊สในระบบทางเดินอาหาร ทำให้ฟองแก๊สเหล่านี้ถูกขับออกมาได้ง่ายในรูปแบบของการเรอ
แอร์เอ็กซ์เป็นยารูปแบบเม็ดเคี้ยว มีรสมินต์ที่มีกลิ่นหอมและมีรสชาติหวานอ่อน ๆ ทำให้สามารถรับประทานได้ง่าย โดยนอกจากรสมินต์แล้ว แอร์เอ็กซ์ยังมีอีก 2 รสชาติ ได้แก่ รสส้มและรสมะนาว
ในส่วนของปริมาณยา ผู้ใหญ่ควรรับประทานยาครั้งละ 1 เม็ดเมื่อมีอาการ และรับประทานยาวันละ 4 ครั้ง แต่ไม่ควรรับประทานยาเกินวันละ 6 เม็ด อีกทั้งการรับประทานยาควรเคี้ยวตัวยาให้ละเอียดก่อนกลืน เพื่อให้ตัวยาสามารถออกฤทธิ์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพด้วย
2. ดิออกไซม์ (Dioxzye) 80 มิลลิกรัม บรรจุแผงละ 10 เม็ด
ยาแก้ท้องอืดดิออกไซม์เป็นยาไซเมทิโคน (Simethicone) จึงมีฤทธิ์ช่วยขับลม ลดแก๊สส่วนเกินในระบบทางเดินอาหาร และช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด แน่นท้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ยาดิออกไซม์เป็นยารูปแบบเม็ดเคี้ยว มีทั้งรสมินต์และรสส้ม ซึ่งมีกลิ่นหอมและมีรสชาติที่รับประทานง่าย อีกทั้งยาดิออกไซม์ยังไม่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบด้วย
การรับประทานยาดิออกไซม์ในผู้ใหญ่ ควรรับประทานยาครั้งละ 1 เม็ดเมื่อมีอาการ และรับประทานยาวันละ 4 ครั้ง แต่ไม่ควรรับประทานยาเกินวันละ 6 เม็ด และควรเคี้ยวยาให้ละเอียดก่อนกลืน
3. แอนตาซิล (Antacil) บรรจุแผงละ 10 เม็ด
แอนตาซิลเป็นยาลดกรด (Antacids) ในยา 1 เม็ดประกอบด้วยยาอะลูมิเนียม ไฮดรอกไซด์ (Aluminium Hydroxide) 250 มิลลิกรัม ยาแมกนีเซียม ไตรซิลิเกต (Magnesium Trisilicate) 350 มิลลิกรัม และยาคาโอลิน (Kaolin) 50 มิลลิกรัม โดยตัวยาจะออกฤทธิ์ช่วยปรับค่าความเป็นกรดในกระเพาะอาหารให้มีความเป็นกลางมากขึ้น
นอกจากยาแอนตาซิลจะมีคุณสมบัติในการช่วยลดกรดและเคลือบแผลในกระเพาะอาหารแล้ว ยังสามารถช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนกลางอกจากกรดไหลย้อน ช่วยบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อย และช่วยลดแก๊สส่วนเกินในระบบทางเดินอาหารที่ทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องอืด จุกเสียด และแน่นท้องด้วย จึงถือเป็นยาแก้ท้องอืดเช่นกัน
แอนตาซิลเป็นยาลดกรดในรูปแบบเม็ดเคี้ยว โดยควรรับประทานยาครั้งละ 1–2 เม็ด ประมาณวันละ 3–4 ครั้ง และควรเคี้ยวตัวยาให้ละเอียดก่อนกลืน รวมถึงดื่มน้ำตามหลังจากรับประทานยาด้วย ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่มีภาวะไตวายไม่ควรรับประทานยาชนิดนี้
4. แอนตาซิล เยล (Antacil Gel) ขนาด 450 มิลลิลิตร
แอนตาซิล เยล เป็นยาลดกรดชนิดน้ำ โดยในตัวยา 1 ช้อนโต๊ะจะประกอบไปด้วยตัวยาอะลูมิเนียม ไฮดรอกไซด์ (Aluminium Hydroxide) 960 มิลลิกรัม ยาแมกนีเซียม ไฮดรอกไซด์ (Magnesium Hydroxide) 330 มิลลิกรัม และยาไซเมทิโคน (Simethicone) 60 มิลลิกรัม ซึ่งมีสรรพคุณช่วยลดกรดและแก๊สในกระเพาะอาหาร ที่เป็นสาเหตุของอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด และแน่นท้องนั่นเอง
การรับประทานยาแอนตาซิล เยลเพื่อเป็นยาแก้ท้องอืด ให้รับประทานยาในปริมาณครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ วันละ 4–6 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน โดยควรรับประทานยาชนิดนี้หลังอาหารประมาณ 1–2 ชั่วโมง เพื่อให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
5. ยาธาตุน้ำขาวตรากระต่ายบิน ขนาด 200 มิลลิลิตร
ยาธาตุน้ำขาวตรากระต่ายบินประกอบไปด้วยตัวยาฟีนิลซาลิไซเลต (Phenyl Salicylate) 2 กรัมและเมนทอล (Menthol) 0.156 กรัม ซึ่งตัวยามีฤทธิ์ในการช่วยฆ่าเชื้อในลำไส้และช่วยขับลมในระบบทางเดินอาหาร จึงสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง ท้องอืด และท้องเฟ้อได้ รวมถึงยังช่วยบรรเทาอาการท้องเสียจากการติดเชื้อที่ไม่รุนแรงได้ด้วย
ยาธาตุน้ำขาวตรากระต่ายบินมีรสชาติหอมหวาน สามารถรับประทานได้ง่าย จึงเหมาะสำหรับเด็กเล็กที่รับประทานยายากด้วย
การรับประทานยาธาตุน้ำขาวตรากระต่ายบินเพื่อเป็นยาแก้ท้องอืด ควรเขย่าขวดก่อนการรับประทาน โดยเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 12 ปี ให้รับประทานยาในปริมาณครั้งละ 5 มิลลิลิตรหรือ 1 ช้อนชา วันละ 3 ครั้ง ส่วนเด็กที่มีอายุมากกว่า 12 ปีและผู้ใหญ่ ให้รับประทานยาในปริมาณครั้งละ 15 มิลลิลิตร หรือ 1 ช้อนโต๊ะ และรับประทานยาวันละ 3 ครั้งเช่นกัน
6. ยาธาตุน้ำแดงตราวิทยาศรม ขนาด 500 มิลลิลิตร
ยาธาตุน้ำแดงตราวิทยาศรมมีส่วนประกอบตัวยาโซเดียมไบคาร์บอเนต (Sodium Bicarbonate) โกฐน้ำเต้า น้ำมันเปปเปอร์มินต์ การบูร และแอลกอฮอล์ในปริมาณเล็กน้อย โดยตัวยาจะมีฤทธิ์เป็นยาระบายและยาลดกรด โดยตัวยาจะช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร ช่วยกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ และช่วยขับแก๊สส่วนเกินในระบบทางเดินอาหาร จึงสามารถช่วยบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้
การรับประทานยาธาตุน้ำแดงตราวิทยาศรมเพื่อเป็นยาแก้ท้องอืด ควรเขย่าขวดก่อนการรับประทาน โดยเด็กควรรับประทานยาในปริมาณครั้งละ 1 ช้อนชา วันละ 3 ครั้งก่อนมื้ออาหาร ส่วนผู้ใหญ่ควรรับประทานยาในปริมาณครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ และรับประทานยาวันละ 3 ครั้งก่อนมื้ออาหารเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เด็กที่มีอายุน้อยกว่า 3 ปี ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ และผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น โรคหัวใจ โรคตับ โรคไต และโรคความดันโลหิต ไม่ควรรับประทานยาชนิดนี้ อีกทั้ง ยาธาตุน้ำแดงยังมีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ จึงควรรับประทานยาด้วยความระมัดระวังด้วย
นอกจากยาแก้ท้องอืดแล้ว การรับประทานอาหารบางชนิดก็อาจช่วยบรรเทาอาการท้องอืดได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่มีโพรไบโอติกอย่างโยเกิร์ตและอาหารหมักดอง ผลไม้บางชนิดอย่างสับปะรดและกล้วย รวมถึงเครื่องดื่มอย่างน้ำขิงและชาสะระแหน่ ดังนั้น หากมีอาการท้องอืดเกิดขึ้นอาจลองเลือกรับประทานอาหารเหล่านี้ควบคู่ไปด้วย เพื่อช่วยบรรเทาอาการได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ สามารถป้องกันอาการท้องอืดได้ด้วยการรับประทานอาหารในปริมาณที่พอเหมาะ เคี้ยวอาหารช้า ๆ ให้ละเอียด และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่อาจทำให้เกิดอาการท้องอืดเพิ่มมากขึ้น เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และน้ำอัดลม ทั้งนี้ หากมีอาการท้องอืดเกิดขึ้นบ่อยครั้ง หรือมีอาการท้องอืดต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ควรไปพบแพทย์