วิธีเลิกบุหรี่ไฟฟ้าคือแนวทางที่อาจช่วยให้ผู้สูบสามารถลดหรือเลิกสูบบุหรี่ไฟฟ้าได้ ซึ่งจะส่งผลให้สุขภาพของผู้สูบดีขึ้น และป้องกันผลกระทบต่าง ๆ จากการใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกาย เช่น ปอดเสียหาย โรคหืด โรคปอดอักเสบจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้า (EVALI) โดยวิธีเลิกบุหรี่ไฟฟ้าสามารถทำได้ด้วยตนเอง หรืออาจไปพบแพทย์ก็ได้เช่นกัน
บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าทำให้เกิดความร้อนและไอน้ำ ประกอบไปด้วยนิโคตินและสารเคมีต่าง ๆ เพื่อสูบเข้าสู่ร่างกายเหมือนบุหรี่ทั่วไป หลายคนอาจมองว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าการสูบบุหรี่ธรรมดา แต่ในความจริงแล้ว ทั้งนิโคตินและสารเคมีต่าง ๆ ในบุหรี่ไฟฟ้าอาจส่งผลให้เกิดการเสพติดนิโคตินรวมถึงผลกระทบต่อสุขภาพต่าง ๆ จากสารเคมีในบุหรี่ไฟฟ้า
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยได้กำหนดให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ผิดกฎหมาย โดยอ้างอิงตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 ผู้ที่ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าหรือจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอาจมีความผิดทางกฎหมายได้
วิธีเลิกบุหรี่ไฟฟ้าให้เห็นผล
การเลิกบุหรี่ไฟฟ้าอาจเป็นเรื่องท้าทายสำหรับใครหลาย ๆ คน เนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้ามีนิโคติน ซึ่งอาจทำให้ผู้ที่สูบมีอาการเสพติดได้ อย่างไรก็ตาม วิธีเลิกบุหรี่ไฟฟ้ามีหลายวิธีที่ผู้ติดบุหรี่ไฟฟ้าอาจเลือกไปใช้ เช่น
1. ค้นหาแรงจูงใจ
ผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ไฟฟ้าอาจลองค้นหาแรงจูงใจในการหยุดใช้บุหรี่ไฟฟ้า โดยลองนึกถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการที่เลิกบุหรี่ไฟฟ้าได้ เช่น เลิกบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อรักษาสุขภาพ เลิกบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อไม่ให้คนรักต้องสูดดมควันบุหรี่มือสอง เลิกบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อช่วยให้ประหยัดเงินมากขึ้น ซึ่งการมีแรงจูงใจที่ดีอาจช่วยให้สามารถเลิกบุหรี่ไฟฟ้าสำเร็จได้ง่ายยิ่งขึ้น
2. กำหนดวันที่เลิกสูบบุหรี่ไฟฟ้า
การกำหนดวันที่จะเลิกสูบบุหรี่ไฟ้ฟ้าก็เป็นอีกหนึ่งวิธีเลิกบุหรี่ไฟฟ้าที่สำคัญ เพราะการเลือกวันที่มีความหมาย เช่น วันเกิดของตนเอง วันเกิดลูก วันปีใหม่ อาจช่วยสร้างแรงจูงใจให้แก่ผู้ที่กำลังจะเลิกสูบบุหรี่ไฟฟ้าให้เลิกบุหรี่ไฟฟ้าได้สำเร็จ
3. เลือกวิธีหยุดสูบทันทีหรือค่อย ๆ ลดปริมาณลง
การเลิกบุหรี่ไฟฟ้าสามารถทำได้ทั้งแบบหักดิบ ซึ่งก็คือการหยุดการสูบบุหรี่ไฟฟ้าแบบทันที หรืออาจค่อย ๆ ลดปริมาณการสูบลง ซึ่งผู้ที่ต้องการเลิกสูบควรเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตนเอง
โดยวิธีเลิกบุหรี่ไฟฟ้าแบบหักดิบอาจทำให้บางคนมีอาการขาดนิโคติน เช่น หงุดหงิด วิตกกังวล อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ ไม่มีสมาธิ อาการเหล่านี้อาจดีขึ้นได้เอง ในระหว่างนี้อาจลองหากิจกรรมอื่น ๆ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ เช่น ออกกำลังกาย เล่นเกม หากไม่สามารถใช้วิธีเลิกบุหรี่ไฟฟ้าแบบหักดิบได้ อาจลองใช้วิธีลดความถี่ในการสูบบุหรี่ไฟฟ้าลงจนสามารถเลิกบุหรี่ไฟฟ้าได้ในที่สุด
4. จัดการกับต้นเหตุที่กระตุ้นให้สูบบุหรี่ไฟฟ้า
วิธีเลิกบุหรี่ไฟฟ้าอีกหนึ่งวิธีคือการจัดการกับต้นเหตุที่กระตุ้นให้เกิดการสูบบุหรี่ไฟฟ้า โดยการเข้าใจต้นเหตุที่กระตุ้นให้สูบบุหรี่ไฟฟ้าอาจช่วยให้รับมือกับสิ่งเหล่านั้นได้ดี ซึ่งต้นเหตุอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน เช่น
- การสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพราะความเครียด ผู้สูบอาจลองหาวิธีคลายเครียดอื่น ๆ เช่น ออกกำลังกาย ท่องเที่ยว
- การสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพราะอยู่ในสังคมที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า หากไม่สามารถออกห่างจากสังคมนั้นได้ การฝึกปฏิเสธที่จะสูบบุหรี่ไฟฟ้าอาจช่วยได้
5. พูดคุยกับบุคคลที่ไว้ใจ
การพูดคุยกับเพื่อน ครอบครัว หรือบุคคลที่ไว้ใจอาจเป็นวิธีเลิกบุหรี่ไฟฟ้าที่ช่วยให้การเลิกบุหรี่ไฟฟ้าสำเร็จง่ายยิ่งขึ้น เพราะบุคคลเหล่านี้อาจช่วยให้กำลังใจ เตือนสติ หรือให้ความช่วยเหลือในด้านอื่น ๆ ในระหว่างการเลิกบุหรี่ไฟฟ้าได้
6. ปรึกษาสายด่วนเลิกบุหรี่
ในปัจจุบันได้มีสายด่วนที่ช่วยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการเลิกบุหรี่ รวมถึงบุหรี่ไฟฟ้า ผู้ที่ต้องการใช้วิธีนี้เป็นวิธีเลิกบุหรี่ไฟฟ้าสามารถโทรหาสายด่วน 1600 ซึ่งจะมีผู้ให้คำปรึกษาเพื่อปรับพฤติกรรมและสร้างแรงจูงใจในการเลิกบุหรี่ไฟฟ้า อีกทั้งยังมีการติดตามผลเพื่อช่วยให้ผู้สูบสามารถเลิกบุหรี่ไฟฟ้าได้สำเร็จ
7. ปรึกษาแพทย์
ผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ไฟฟ้าสามารถขอปรึกษาจากแพทย์ได้ โดยแพทย์อาจให้คำแนะนำและช่วยวางแผนการเลิกบุหรี่ไฟฟ้าที่เหมาะสมกับแต่ละคน นอกจากนี้ แพทย์อาจแนะนำวิธีเลิกบุหรี่ไฟฟ้าอย่างการใช้สารนิโคตินทดแทน (Nicotine replacement therapy) เช่น แผ่นแปะนิโคติน สเปรย์นิโคติน หมากฝรั่งนิโคติน โดยแพทย์จะค่อย ๆ ลดปริมาณนิโคตินลง ซึ่งจะช่วยให้เลิกบุหรี่ไฟฟ้าได้ และยังป้องกันการเกิดอาการขาดนิโคตินอีกด้วย
การมีความรู้สึกอยากกลับมาสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นเรื่องปกติที่พบได้ในผู้ที่กำลังเลิกบุหรี่ไฟฟ้า โดยอาจลองนึกถึงวันที่ผ่านมาที่สามารถงดสูบบุหรี่ไฟฟ้าได้สำเร็จ ไม่ว่าจะ 1 วันหรือกี่วันก็ตาม ก็ถือเป็นก้าวเริ่มต้นสู่ความสำเร็จในการเลิกบุหรี่ไฟฟ้าได้อย่างเด็ดขาด อีกทั้งยังอาจเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้สุขภาพของตนเองกลับมาแข็งแรงยิ่งขึ้น
