เครื่องดื่มแก้ปวดหัว คือเครื่องดื่มที่อาจช่วยบรรเทาอาการปวดหัวได้ ซึ่งเครื่องดื่มแก้ปวดหัวที่หาได้ง่ายใกล้ตัวมากที่สุดก็คือน้ำเปล่า ซึ่งดูเหมือนจะธรรมดาแต่ก็มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมายและไม่ควรละเลย นอกจากนี้ เครื่องดื่มอย่างชา กาแฟ และน้ำผลไม้ต่าง ๆ ก็อาจช่วยบรรเทาอาการปวดหัวได้เช่นกัน
อาการปวดหัวสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น อาการปวดหัวไมเกรน อาการปวดหัวจากกล้ามเนื้อตึงตัว หรืออาการปวดหัวจากการเป็นไข้ ซึ่งจะแสดงอาการแตกต่างกันออกไป บางคนอาจมีอาการปวดหัวแบบตื้อ ๆ ชา ๆ เหมือนถูกกดทับ ปวดหัวตุบ ๆ เหมือนมีอะไรเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ปวดหัวข้างเดียว ปวดหัวบริเวณท้ายทอย หรือปวดหัวลามมายังกระบอกตาและใบหน้า
6 เครื่องดื่มแก้ปวดหัวที่หารับประทานได้ง่าย ๆ ใกล้ตัว
หากมีอาการปวดหัว มึนหัว รู้สึกหนัก ๆ ตื้อ ๆ หรือชา ๆ ตั้งแต่บริเวณศีรษะ กระบอกตา กกหู ไปจนถึงท้ายทอย อาจลองดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้เพื่อช่วยบรรเทาอาการ
1. น้ำเปล่า
บ่อยครั้งอาการปวดหัวโดยเฉพาะอาการปวดหัวไมเกรน ก็มีสาเหตุมาจากการเกิดภาวะขาดน้ำ โดยเกิดจากการที่เราดื่มน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน ดังนั้น จึงควรดื่มน้ำให้เพียงพออยู่เสมอ โดยเฉพาะเมื่อต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งในวันที่อากาศร้อนอบอ้าว หรือเมื่ออยู่ในที่ที่มีคนแออัดจนอากาศถ่ายเทไม่สะดวก
อย่างไรก็ตาม ไม่ควรดื่มน้ำในปริมาณมากเกินไปและเร็วเกินไป ควรค่อย ๆ จิบน้ำทีละน้อย และจิบอย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งวัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงต่อร่างกายตามมา
2. กาแฟ
หลายคนเชื่อว่าการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนโดยเฉพาะกาแฟ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการปวดหัว แต่กาแฟก็อาจเป็นเครื่องดื่มแก้ปวดหัวที่มีประสิทธิภาพได้เหมือนกัน เนื่องจากคาเฟอีนในปริมาณที่เหมาะสมสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนได้
นอกจากนี้ หากผู้ที่ดื่มกาแฟเป็นประจำเลิกดื่มกาแฟอย่างกะทันหันก็อาจทำให้เกิดอาการปวดหัวได้ จึงควรค่อย ๆ ลดปริมาณการดื่ม หรือดื่มในปริมาณที่เหมาะสม คือวันละไม่เกิน 4–5 แก้ว หรือคาเฟอีนไม่เกิน 400 มิลลิกรัม ส่วนผู้ที่ตั้งครรภ์ควรดื่มกาแฟวันละไม่เกิน 2–3 แก้ว หรือคาเฟอีนไม่เกิน 200 มิลลิกรัม และควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟในช่วงบ่ายและช่วงเย็น เพราะอาจส่งผลต่อการนอนหลับในเวลากลางคืน
3. ชาเขียว
ชาเขียวเป็นเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนน้อยกว่ากาแฟประมาณครึ่งหนึ่ง จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีอาการปวดหัวไมเกรนหรือปวดหัวจากการเลิกดื่มกาแฟอย่างกะทันหัน ซึ่งหากหันมาดื่มชาเขียวแทนกาแฟ ก็จะได้รับคาเฟอีนในปริมาณที่น้อยลง และสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดหัวได้โดยไม่จำเป็นต้องดื่มกาแฟที่อาจมีปริมาณคาเฟอีนมากเกินไป
4. ชาสมุนไพรที่ไม่มีคาเฟอีน
สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน การดื่มชาสมุนไพร เช่น ชาเปปเปอร์มินต์หรือชาสะระแหน่ ชาคาโมมายล์ ชาขมิ้น ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเติมน้ำเข้าสู่ร่างกาย เพื่อไม่ให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ และอาจช่วยบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนได้ อีกทั้งชาสมุนไพรเหล่านี้ไม่มีคาเฟอีน จึงสามารถดื่มได้ตลอดเวลาโดยไม่ส่งผลต่อการนอนหลับด้วย
5. น้ำขิง
การดื่มน้ำขิงมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ไม่ว่าจะช่วยขับลม ช่วยบรรเทาอาการท้องอืดจากอาหารไม่ย่อย และยังสามารถเป็นเครื่องดื่มแก้ปวดหัวได้ด้วย โดยการดื่มน้ำขิงจะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวแบบวิงเวียน รวมถึงช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียนที่เป็นผลมาจากอาการปวดหัวไมเกรนได้ด้วย นอกจากนี้ ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์สามารถดื่มได้อย่างปลอดภัยด้วย
6. น้ำผลไม้รสเปรี้ยว
การดื่มน้ำผลไม้รสเปรี้ยว เช่น น้ำส้ม น้ำองุ่น หรือน้ำเกรปฟรุต จะให้ความรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และอาจช่วยบรรเทาอาการปวดหัวได้ เพราะน้ำผลไม้รสเปรี้ยวเหล่านี้มีแมกนีเซียมสูง ซึ่งการได้รับแร่ธาตุแมกนีเซียมอย่างเพียงพอจะสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนได้ อย่างไรก็ตาม ควรเลือกดื่มน้ำผลไม้สดที่ไม่ผสมน้ำตาลเพิ่ม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมา
ทั้งนี้ ควรเลือกเครื่องดื่มแก้ปวดหัวที่เหมาะสมกับตัวเอง และหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่อาจทำให้อาการปวดหัวแย่ลง เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่ใส่สารให้ความหวานแทนน้ำตาล
นอกจากนี้ สามารถบรรเทาอาการปวดหัวได้ด้วยวิธีการอื่น ๆ เช่น การนอนพักผ่อนในห้องที่เงียบสงบ มืด และมีอากาศเย็น การประคบเย็นบริเวณศีรษะ และการรับประทานยาแก้ปวดหัวทั่วไป