ยาแก้โรคกระเพาะ คือยาที่ใช้ในการรักษาหรือบรรเทาอาการที่เกิดจากโรคกระเพาะอักเสบหรือแผลในกระเพาะอาหาร ยาแก้โรคกระเพาะมีหลากหลายรูปแบบ และมีส่วนประกอบของชนิดยาที่แตกต่างกัน การเลือกใช้ยาแก้โรคกระเพาะจึงควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของเภสัชกรเพื่อการบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นอย่างตรงจุดและเหมาะสมกับสุขภาพของแต่ละบุคคล
โรคกระเพาะหรือโรคกระเพาะอาหารอักเสบอาจทำให้มีอาการอาหารไม่ย่อย คลื่นไส้ อาเจียน ซึ่งเกิดได้ทั้งจากการติดเชื้อแบคทีเรีย H.pylori การดื่มแอลกอฮอล์จัด หรืออาจเป็นผลจากยากลุ่มเอ็นเสด (NSAIDs) ก็ได้ ยาแก้โรคกระเพาะจึงมีหลายชนิดและทำงานแตกต่างกันตามสาเหตุ โดยมีปริมาณการใช้ยาและข้อควรระวังที่ไม่เหมือนกัน ผู้ใช้ยาจึงควรศึกษาฉลากยาก่อนใช้ยาทุกครั้ง
แนะนำยาแก้โรคกระเพาะ ตัวช่วยบรรเทาอาการโรคกระเพาะอักเสบ
ตัวอย่างยาแก้โรคกระเพาะที่หาซื้อได้โดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยาจากแพทย์ และใช้ได้ผลดี เช่น
1. มาล็อกซ์ อะลั่มมิ้ลค์ (MAALOX Alum Milk) ขนาด 240 มิลลิลิตร
มาล็อกซ์ อะลั่มมิ้ลค์ เป็นยาแก้โรคกระเพาะอาหารที่มีส่วนประกอบของอะลูมิเนียมไฮดรอกไซด์ (Aluminum hydroxide) และแมกนีเซียมไฮดรอกไซด์ (Magnesium hydroxide) ที่ช่วยรักษาความสมดุลของกรดในกระเพาะ เพื่อบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อยและอาการปวดท้องจากแผลหรือกรดในกระเพาะอาหารได้อย่างรวดเร็วเนื่องจากเป็นยาชนิดน้ำ
ปริมาณการใช้ยา ผู้ใหญ่ควรกิน 1–4 ช้อนชา วันละ 3–4 ครั้ง เด็กวัย 6–12 ปี กิน 1–2 ช้อนชาวันละ 3–4 ครั้ง เด็กวัย 3–6 ปี ควรกินครึ่ง–1 ช้อนชา วันละ 3 ครั้ง โดยเขย่าขวดก่อนใช้และกินก่อนอาหารครึ่งชั่วโมง หรือหลังอาหาร 1 ชั่วโมง หรือเมื่อมีอาการ
นอกจากนี้ ไม่ควรกินยาติดต่อกันนานเกิน 2 สัปดาห์ยกเว้นกรณีแพทย์สั่ง และเป็นยาที่ห้ามใช้ในผู้ป่วยโรคหัวใจและโรคไต
2. แอร์เอ็กซ์ (Air-X) ขนาดแผงละ 10 เม็ด
แอร์เอ็กซ์ เป็นยาเม็ดชนิดเคี้ยว ซึ่งควรเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน เนื่องจากการเคี้ยวจะทำให้ตัวยาแตกตัวได้ดี และออกฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยาแก้โรคกระเพาะแอร์เอ็กซ์มี 3 รสชาติ ได้แก่ รสมิ้นท์ รสส้ม และรสมะนาว รวมทั้งมีสูตรไม่มีน้ำตาลอีกด้วย แอร์เอ็กซ์มีส่วนประกอบของไซเมทิโคน (Simethicone) 80 มิลลิกรัม ซึ่งไซเมทิโคนเป็นสารที่ออกฤทธิ์ในการขจัดแก๊สส่วนเกินในกระเพาะอาหาร ทำให้ช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ความรู้สึกไม่สบายท้อง
ผู้ใหญ่กินยาแอร์เอ็กซ์ด้วยการเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน ครั้งละ 1–2 เม็ด จำนวน 2–4 ครั้งต่อวัน แต่ไม่ควรกินเกิน 8 เม็ดต่อวัน โดยกินหลังอาหาร ก่อนนอน หรือตามแพทย์สั่ง สำหรับผู้สูงอายุที่เคี้ยวลำบากสามารถค่อย ๆ อมยาให้ละลายจนหมดได้
3. เบลสิด ซัสเพนชั่น (Belcid Suspension) ขนาด 240 มิลลิลิตร
เบลสิด ซัสเพนชั่นเป็นยาแก้โรคแผลในกระเพาะอาหารชนิดน้ำที่มีส่วนประกอบของอะลูมิเนียม ไฮดรอกไซด์และแมกนีเซียม ไฮดรอกไซด์ ซึ่งเป็นสารที่ออกฤทธิ์ร่วมกันเพื่อลดความเป็นกรดภายในกระเพาะ นอกจากนี้ยังมีไซเมทิโคนที่ทำหน้าที่กำจัดแก๊สส่วนเกินในกระเพาะอีกด้วย
ยาเบลสิด ซัสเพนชั่นจึงสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น รวมถึงบรรเทาอาการแสบร้อนกลางอกจุกเสียดจากโรคกรดไหลย้อนได้
ปริมาณการใช้ยา ควรกินก่อนอาหารครึ่งชั่วโมง หรือหลังอาหาร 1 ชั่วโมง หรือเมื่อมีอาการ ผู้ใหญ่กินครั้งละ 1–4 ช้อนชา เด็กอายุ 6–12 ปี กินครั้งละ 1-2 ช้อนชา เด็กอายุ 3–6 ปี กินครั้งละครึ่งช้อนชา-1 ช้อนชา โดยควรรับประทาน 4 ครั้งต่อวัน และไม่ควรรับประทานยาติดต่อกันเกิน 2 สัปดาห์ และห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยโรคหัวใจและโรคไต ผู้ที่มีโรคประจำตัวอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา
4. กาวิสคอน ดูอัล แอคชั่น (Gaviscon dual action) แบบผงละลายน้ำ ขนาดซองละ 10 มิลลิลิตร
กาวิสคอน ดูอัล แอคชั่น เป็นยาแก้โรคกระเพาะชนิดผงแบบละลายน้ำที่มีส่วนประกอบของโซเดียม อัลจิเนต (Sodium Alginate) ซึ่งทำหน้าที่เป็นเหมือนเจลช่วยเคลือบแผลในกระเพาะ โซเดียม ไบคาร์บอเนต (Sodium Bicarbonate) และแคลเซียม คาร์บอเนต (Calcium Carbonate) ซึ่งออกฤทธิ์ร่วมกันในการลดกรดในกระเพาะอาหาร นอกเหนือจากบรรเทาอาการแสบร้อนกลางอกจากกรดไหลย้อน กาวิสคอน ดูอัล แอคชั่นยังช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง และรักษาแผลในกระเพาะอาหารได้อย่างดีอีกด้วย
ปริมาณการใช้ยาเด็กและผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 12 ปี กิน 2 ซอง เด็กที่มีอายุ 6–12 ปี กิน 1 ซอง ไม่แนะนำให้เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีใช้ยา โดยการกินควรกินหลังอาหารและก่อนเข้านอน และไม่ควรกินเกิน 4 ครั้งต่อวัน ผู้ที่เป็นโรคไตควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา
5. โอเมพราโซล จีพีโอ (Omeprazole GPO) ขนาดแผงละ 10 เม็ด
โอเมพราโซล จีพีโอ เป็นยาแก้โรคแผลในกระเพาะอาหารที่มีส่วนประกอบของโอเมพราโซล ปริมาณ 20 มิลลิกรัม โอเมพราโซลทำหน้าที่ลดกรดในกระเพาะ สามารถใช้ในการป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ส่วนต้น รักษาการติดเชื้อ H.pylori และโรคหลอดอาหารอักเสบได้
ปริมาณการใช้ยาโอเมพราโซลขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการรักษา การใช้ยาจึงควรอยู่ในการแนะนำดูแลของแพทย์หรือเภสัชกรโดยเฉพาะเด็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่กำลังให้นมบุตร และผู้ที่ป่วยเป็นโรคตับ ในกรณีของผู้ใหญ่โดยทั่วไปที่กินยานี้เพื่อรักษาแผลในกระเพาะอาหาร แพทย์อาจแนะนำให้กินครั้งละ 2 เม็ด วันละ 1 ครั้ง ก่อนอาหาร หรือในปริมาณอื่นๆ ที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละคน
ผู้ป่วยควรเลือกใช้ยาแก้โรคกระเพาะที่เหมาะสมกับอาการของตน หลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดอาการของโรคกระเพาะ เช่น แอลกอฮอล์ อาหารรสเผ็ด ความเครียด รวมถึงการใช้ยากลุ่มเอ็นเสดโดยไม่จำเป็น หากอาการไม่ดีขึ้นเมื่อกินยาติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาด้วยวิธีอื่นต่อไป