เชื่อว่าปัญหารักแร้ดำ น่าจะเป็นหนึ่งในปัญหาที่ทำให้ใครหลายคนเกิดความรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง หรือเป็นกังวลว่าภายในร่างกายกำลังมีอะไรผิดปกติไปอยู่หรือไม่ ในบทความนี้พบแพทย์จึงจะมาไขข้อข้องใจของปัญหารักแร้ดำว่าอาจเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไรได้บ้าง และมีแนวทางการแก้รักแร้ดำด้วยตนเองอย่างไร
บางคนอาจเข้าใจว่าผิวหนังบริเวณรักแร้ที่มีสีออกคล้ำบ้างถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งอาจจะเกิดจากการเสียดสีบ่อย ๆ หรือการใช้ผลิตภัณฑ์บางชนิด แต่ในความเป็นจริงแล้ว สีของผิวหนังบริเวณรักแร้ที่ปกติควรจะมีสีเหมือนหรือคล้ายกับสีของผิวหนังบริเวณอื่น อย่างไรก็ตาม แม้รักแร้ดำอาจเป็นสัญญาณของความผิดปกติบางอย่าง แต่โดยมากมักไม่ได้เป็นกรณีที่รุนแรง และมักทำให้เกิดปัญหาด้านความมั่นใจเท่านั้น
สาเหตุที่พบได้บ่อยของปัญหารักแร้ดำ
โดยส่วนใหญ่แล้ว ปัญหารักแร้ดำมักเป็นผลมาจากภาวะผิดปกติทางผิวหนังชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า Acanthosis Nigricans ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายผลิตเซลล์ผิวหนัง เมลาโนไซต์ (Melanocytes) ที่อยู่บริเวณชั้นหนังกำพร้าออกมามากและเร็วผิดปกติ โดยสาเหตุของภาวะนี้ที่มักพบได้ เช่น
- ระดับอินซูลินในเลือดมากผิดปกติ
- ภาวะเบาหวานชนิดที่ 2
- โรคที่เกี่ยวกับฮอร์โมน เช่น กลุ่มอาการถุงน้ำจำนวนมากในรังไข่ (Polycystic Ovary Syndrome: PCOS) กลุ่มอาการคุชชิง (Cushing Syndrome) และภาวะขาดไทรอยด์ (Hypothyroidism)
- โรคมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งตับ และมะเร็งลำไส้ใหญ่ แต่เป็นกรณีที่พบได้ค่อนข้างน้อย
- การใช้ยาบางชนิด เช่น อินซูลิน ยาคุมกำเนิด ยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) และเอสโตรเจน
นอกจากนี้ ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงบางอย่างร่วมด้วย อาจยิ่งมีโอกาสเกิดปัญหารักแร้ดำหรือภาวะ Acanthosis Nigricans มากขึ้น เช่น มีภาวะน้ำหนักเกิน มีสีผิวเข้ม หรือคนในครอบครัวมีประวัติป่วยเป็นเบาหวาน ภาวะก่อนเป็นเบาหวานและภาวะ Acanthosis Nigricans
ทั้งนี้ นอกจากสาเหตุในข้างต้นแล้ว ในบางกรณี ปัญหารักแร้ดำก็อาจมีสาเหตุมาจากปัจจัยอื่น ๆ ได้อีกเช่นกัน เช่น สัญญาณของโรคสะเก็ดเงิน ภาวะการอักเสบของต่อมเหงื่อ (Hidradenitis Suppurativa) ภาวะเหงื่อออกมาก การโกนขนรักแร้อย่างรุนแรงจนเกิดการระคายเคือง หรืออาจเป็นผลมาจากสารบางชนิดในผลิตภัณฑ์ดูแลรักแร้
รับมือกับปัญหารักแร้ดำอย่างไรดี
ในเบื้องต้น ผู้ที่มีปัญหารักแร้ดำอาจจะลองทำตามวิธีดังต่อไปนี้
- ควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากภาวะอ้วน ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่อาจส่งผลให้เกิดปัญหารักแร้ดำได้ นอกจากนี้ การลดน้ำหนักยังเป็นผลดีต่อการลดความเสี่ยงหรือรักษาภาวะเบาหวานอีกด้วย
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์บริเวณรักแร้โดยไม่จำเป็น โดยผลิตภัณฑ์ที่ควรใช้ ควรเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ปราศจากน้ำหอม ปราศจากสารแต่งสี และปราศจากสารกันบูด
- หลีกเลี่ยงการโกนขนรักแร้ โดยอาจจะให้วิธีการแว็กซ์ หรือการเลเซอร์แทน
- สครับบริเวณรักแร้ แต่ควรสครับอย่างเบามือและควรสครับเพียง 2–3 วัน/สัปดาห์ เนื่องจากผิวหนังบริเวณรักแร้เป็นผิวหนังที่ค่อนข้างบอบบาง
- เลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่สวมใส่สบายและไม่รัดแน่น
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เนื่องจากบุหรี่อาจเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดจุดหรือรอยด่างดำได้
ทั้งนี้ วิธีที่กล่าวไปเป็นเพียงวิธีดูแลตัวเองในเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอย่างที่ได้กล่าวไปว่า ปัญหานี้อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งสาเหตุที่ไม่รุนแรงและสาเหตุที่ควรได้รับการดูแลจากแพทย์
ดังนั้น ผู้ที่มีปัญหารักแร้ดำ ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหาสาเหตุที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ใด ๆ เพื่อแก้ปัญหารักแร้ดำโดยไม่ปรึกษาแพทย์ก่อน โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาทางสุขภาพ อย่างภาวะเบาหวาน ภาวะขาดไทรอยด์ หรือมีอาการคันรักแร้ร่วมด้วย
แต่สำหรับผู้ที่พบว่า ปัญหารักแร้ดำเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ผิวหนังบริเวณอื่นเกิดสีคล้ำร่วมด้วย หรือพบอาการผิดปกติบางอย่างร่วมด้วย เช่น ประจำเดือนมาไม่ปกติ มีขนขึ้นตามร่างกาย หรือน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นผิดปกติ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที เนื่องจากอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณผิดปกติของโรคหรือภาวะบางอย่างที่มีความรุนแรงได้