หวัดเป็นโรคที่พบได้บ่อยทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เมื่อหลายคนเริ่มเป็นหวัดอาจนึกถึงการรับประทานยาเพื่อช่วยให้หายจากหวัดได้เร็ว แต่รู้หรือไม่ว่าวิธีแก้หวัดคัดจมูกที่ได้ผลดีที่สุดคือ การพักผ่อนและดื่มน้ำให้เพียงพอ เพราะโรคหวัดไม่มียาที่ใช้ฆ่าเชื้อไวรัสโรคหวัดได้โดยตรง และอาการหวัดมักจะดีขึ้นภายในประมาณ 7–10 วัน
ไข้หวัด (Common Cold) หรือโรคหวัดมักเกิดจากการติดเชื้อไรโนไวรัส (Rhinovirus) ในระบบทางเดินหายใจส่วนบน สามารถติดต่อได้ง่ายผ่านการหายใจเอาเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายและการสัมผัสของใช้ต่าง ๆ ที่ปนเปื้อนเชื้อแล้วมาสัมผัสตา จมูก หรือปาก ของตนเอง ซึ่งอาการที่พบได้บ่อยในช่วงแรกคือ เจ็บคอ คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ จาม บางครั้งอาจทำให้รำคาญใจและรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันได้ บทความนี้ได้รวบรวมวิธีแก้หวัดคัดจมูกอย่างง่าย ๆ แต่อาจช่วยให้หายสนิทเอาไว้แล้ว
วิธีแก้หวัดคัดจมูกง่าย ๆ ด้วยตัวเอง
ตามปกติแล้ว โรคหวัดหายได้ด้วยการดูแลตัวเองและไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะ เพราะโรคหวัดมักเกิดจากการติดเชื้อไวรัส แต่ยาปฏิชีวนะจะใช้ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย จึงไม่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ นอกจากนี้ การรับประทานยาปฏิชีวนะบ่อย ๆ อาจเสี่ยงต่อการดื้อยาและการเกิดผลข้างเคียงต่อร่างกายอีกด้วย
มาดู 7 วิธีแก้หวัดคัดจมูกที่อาจช่วยให้อาการของโรคหวัดดีขึ้นได้เองโดยไม่ต้องไปโรงพยาบาล
-
พักผ่อนมาก ๆ
การพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ฟื้นฟูและกำจัดเชื้อไวรัสออกจากร่างกายได้เร็วขึ้น หากเป็นหวัดควรพักผ่อนมาก ๆ ห่มผ้าให้ร่างกายอบอุ่น และอาจนอนหนุนหมอนให้ศีรษะสูงขึ้นเล็กน้อยเพื่อช่วยบรรเทาอาการคัดจมูก นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ใช้แรงมากและการออกกำลังหนักเป็นเวลา 2–3 วัน
-
ดื่มน้ำให้เพียงพอ
การดื่มน้ำอุ่นจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ คัดจมูก และป้องการการขาดน้ำ โดยอาจดื่มน้ำเปล่าหรือเครื่องดื่มอุ่น ๆ เช่น น้ำผึ้งผสมมะนาว ซุป และชาสมุนไพร เป็นต้น ในกรณีที่เป็นเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 6 เดือน ควรให้ดื่มนมแม่อย่างเดียว และเด็กที่อายุมากกว่า 6 เดือน อาจให้ดื่มนมแม่หรือนมผง และให้ลูกดื่มน้ำเปล่าบ่อย ๆ เพื่อชดเชยน้ำที่สูญเสียไป นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสเค็ม กาแฟ น้ำหวาน และเครื่องดื่มแอลกฮอล์เพราะอาจทำให้มีอาการขาดน้ำมากขึ้น
-
สั่งน้ำมูกออกบ้าง
หลายคนอาจเคยชินกับการสูดน้ำมูกเมื่อรู้สึกว่าน้ำมูกจะไหลออกมา ซึ่งความจริงแล้วการสั่งน้ำมูกออกจะช่วยกำจัดน้ำมูกที่ค้างอยู่ในทางเดินหายใจได้ดีกว่า อาจลองสั่งน้ำมูกออกทางรูจมูกทีละข้าง โดยใช้นิ้วปิดรูจมูกข้างหนึ่งไว้ แล้วค่อยสั่งน้ำมูกออกจากรูจมูกอีกข้างหนึ่งเบา ๆ ซึ่งจะช่วยให้น้ำมูกไหลออกมาได้ดีขึ้น แต่ไม่ควรสั่งน้ำมูกแรง ๆ เพราะจะทำให้หูอื้อ ปวดหู และอาจนำไปสู่การอักเสบในหูตามมา
-
สูดไอน้ำ
การสูดไอน้ำ (Steam Inhalation) เป็นวิธีแก้หวัดคัดจมูกได้อีกทาง เนื่องจากไอน้ำร้อนจะทำให้เยื่อบุจมูกหดตัวลงและช่วยให้เยื่อบุจมูกและลำคอชุ่มชื้นขึ้น จึงช่วยให้จมูกโล่ง หายใจได้สะดวก และน้ำมูกหรือเสมหะที่เหนียวข้นจะถูกขับออกมาง่ายขึ้น
การสูดไอน้ำร้อนทำได้โดยต้มน้ำให้เดือด เทน้ำเดือดใส่ชามหรืออ่าง ยื่นหน้าไปอังเหนือภาชนะที่มีน้ำร้อนอยู่ แล้วสูดหายใจเข้าออกตามปกติเป็นเวลาประมาณ 15 นาทีหรือจนกว่าไอจากน้ำจะหมด โดยอาจนำผ้าสะอาดผืนใหญ่มาคลุมศีรษะและภาชนะใส่น้ำเดือดเพื่อช่วยในสูดไอน้ำร้อนได้มากขึ้น ทั้งนี้ ควรระวังน้ำร้อนลวกและไอน้ำระเหยเข้าตาขณะสูดไอน้ำร้อน โดยเฉพาะเด็กที่อาจเกิดอันตรายจากน้ำร้อนลวกได้ง่าย
-
เพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ
อากาศแห้งอาจยิ่งทำให้รู้สึกระคายคอได้ง่าย หนึ่งในวิธีแก้หวัดคัดจมูกที่หลายคนนึกไม่ถึงคือ การเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ โดยสามารถใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ (Humidifier) เพื่อช่วยให้อากาศในบ้านชุ่มชื้นขึ้น ทำให้ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้
-
รับประทานยา
โรคหวัดไม่มียาที่ใช้รักษาโรคหวัดได้โดยตรง แต่การรับประทานยาจะช่วยบรรเทาอาการที่เกิดจากหวัดได้ เช่น ยาแก้คัดจมูก ยาแก้ไอ ยาละลายเสมหะ ยาแก้ปวดลดไข้ และยาแก้แพ้ (Antihistamines) ที่ช่วยลดน้ำมูกและบรรเทาอาการจาม นอกจากนี้ ยาอมและสเปรย์แก้เจ็บคอ ยาหยดจมูก และน้ำเกลือล้างจมูก อาจช่วยบรรเทาอาการจากโรคหวัดได้เช่นกัน
ยารักษาโรคหวัดส่วนมากหาซื้อได้เอง มักใช้ในผู้ใหญ่และเด็กที่อายุมากกว่า 5 ปี แต่การใช้ยารักษาโรคหวัดในเด็ก ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกรเสมอ เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียงจากใช้ยา
-
การรับประทานอาหารเสริม
หลายคนอาจมีวิธีแก้หวัดคัดจมูกด้วยการรับประทานอาหารเสริม อย่างวิตามินซี ซิงค์ (Zinc) และสมุนไพรต่าง ๆ เพื่อช่วยในการรักษาโรคหวัด โดยงานวิจัยบางส่วนระบุว่า การรับประทานวิตามินซีวันละ 1–2 กรัมต่อวัน ช่วยลดความรุนแรงและระยะเวลาในการเป็นหวัดได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ เช่นเดียวกับการรับประทานซิงค์ ซึ่งอาจช่วยให้อาการของโรคหวัดหายได้เร็วขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีผลการศึกษาที่ยืนยันประสิทธิภาพของการป้องกันและรักษาโรคหวัดด้วยการรับประทานอาหารเสริมอย่างแน่ชัด และการรับประทานอาหารเสริมปริมาณมากต่อเนื่องกันเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อร่างกายได้ จึงไม่ควรรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานานหรือเกินปริมาณกว่าคำแนะนำของแพทย์และเภสัชกร
วิธีแก้หวัดคัดจมูกที่ได้ผลดีที่สุดคือ การดูแลตัวเองด้วยการพักผ่อนมาก ๆ และดื่มน้ำให้เพียงพอ นอกจากนี้ ควรป้องกันการแพร่เชื้อให้ผู้อื่นโดยปิดจมูกและปากทุกครั้งเมื่อไอและจาม และล้างมือก่อนหยิบจับสิ่งของต่าง ๆ แต่หากอาการของโรคหวัดแย่ลง มีอาการนานกว่า 2 สัปดาห์ หรือมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น มีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส เจ็บหน้าอกอย่างรุนแรง และหายใจลำบาก ควรไปพบแพทย์โดยเร็ว