กรดไหลย้อน (Gastroesophageal Reflux Disease: GERD) เป็นภาวะที่สามารถเกิดได้กับทุกคนและยังเป็นภาวะที่พบได้บ่อย ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ที่มีภาวะนี้พบอาการแสบร้อนกลางอกได้ การเรียนรู้วิธีแก้กรดไหลย้อนเร่งด่วนติดตัวเอาไว้จึงเป็นสิ่งที่อาจช่วยได้
กรดไหลย้อนเป็นภาวะที่กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาที่หลอดอาหารอย่างเรื้อรัง โดยมีสาเหตุมาจากการที่หูรูดส่วนปลายของหลอดอาหารทำงานได้ไม่ดี ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษา ภาวะนี้อาจส่งผลให้หลอดอาหารเกิดการระคายเคืองและนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นหลอดอาหารอักเสบ หลอดอาหารตีบแคบ และภาวะหลอดอาหารบาร์เรตต์ (Barrett’s Esophagus)
8 วิธีแก้กรดไหลย้อนเร่งด่วน
ผู้ที่มีปัญหาจากภาวะกรดไหลย้อน อาจลองนำวิธีแก้กรดไหลย้อนเร่งด่วนเหล่านี้ไปปรับใช้
1. รับประทานยาลดกรด
การรับประทานยาลดกรด ซึ่งเป็นยาที่สามารถซื้อได้ทั่วไปตามร้านขายยา เป็นวิธีที่ช่วยลดอาการจากภาวะกรดไหลย้อนได้ค่อนข้างเร็ว โดยยาในกลุ่มนี้จะออกฤทธิ์ลดค่าความเป็นกรดของกรดในกระเพาะอาหาร อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ป่วยเป็นโรคไตเรื้อรังควรหลีกเลี่ยงการรับประทานยาลดกรดที่มีส่วนผสมของแมกนีเซียม เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
นอกจากนี้ ยังมียาชนิดอื่นที่สามารถใช้ได้เช่นกัน เช่น ยาในกลุ่มยาปิดกั้นตัวรับฮิสตามีนชนิดที่ 2 (H2 Blockers) ซึ่งเป็นยาที่ออกฤทธิ์ช่วยลดการผลิตกรดในกระเพาะอาหาร อย่างไรก็ตาม ยาในกลุ่มนี้เป็นยาที่ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์ อีกทั้งยังอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของยาบางชนิดได้หากใช้ร่วมกัน เช่น ยาต้านชัก ยาละลายลิ่มเลือด หรือยารักษาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
2. ดื่มนม
การดื่มนมอาจเป็นวิธีแก้กรดไหลย้อนเร่งด่วนสำหรับบางคนได้ เนื่องจากแคลเซียมในนมมีส่วนช่วยควบคุมความเป็นกรดและด่างของร่างกายได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ต้องการดื่มนมเพื่อช่วยบรรเทาอาการกรดไหลย้อนควรเลือกนมสูตรที่ไม่มีไขมัน เนื่องจากไขมันในนมอาจส่งผลให้อาการจากภาวะกรดไหลย้อนแย่ลงได้
3. ดื่มน้ำเย็น
การดื่มน้ำเย็นอาจมีส่วนช่วยลดอาการแสบร้อนกลางอกได้ อีกทั้งการดื่มน้ำหรือการรับประทานอาหารที่มีน้ำเป็นส่วนผสมมาก ๆ อย่างแตงโม แตงกวา หรือผักกาดหอม ยังอาจช่วยลดความเป็นกรดของกรดในกระเพาะอาหารได้อีกด้วย
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ต้องการดื่มน้ำเย็นเพื่อบรรเทาอาการแสบร้อนกลางอก อาจจะผสมเบกกิ้งโซดาลงในน้ำเปล่าในปริมาณเล็กน้อย หรือประมาณ 1 ช้อนชาต่อน้ำ 1 แก้ว เนื่องจากเบกกิ้งโซดาเป็นส่วนผสมที่มีส่วนช่วยลดความเป็นกรดในกระเพาะอาหารได้
อย่างไรก็ตาม เบกกิ้งโซดามักมีปริมาณโซเดียมที่ค่อนข้างสูง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของยาบางชนิดได้หากนำมารับประทานร่วมกัน ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยต่อร่างกาย ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำผสมเบกกิ้งโซดาบ่อย ๆ และหากใช้ยาชนิดใด ๆ อยู่ ก็ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเบกกิ้งโซดา หรือควรปรึกษาแพทย์ผู้รักษาก่อน
4. เคี้ยวหมากฝรั่ง
การเคี้ยวหมากฝรั่งเป็นหนึ่งในวิธีแก้กรดไหลย้อนเร่งด่วน เนื่องจากจะช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำลายของร่างกาย ซึ่งในน้ำลายจะมีเอนไซม์บางชนิดที่มีความเป็นด่างอยู่ การที่ร่างกายผลิตน้ำลายออกมามากขึ้นจึงอาจช่วยลดความเป็นกรดในกระเพาะอาหารได้
อย่างไรก็ตาม การเคี้ยวหมากฝรั่งก็อาจส่งผลเสียบางอย่างได้เช่นกัน เนื่องจากบางคนอาจพบอาการท้องเสียจากการรับประทานสารให้ความหวานแทนน้ำตาลบางชนิดในหมากฝรั่งได้ อีกทั้งหากหมากฝรั่งที่เคี้ยวมีส่วนผสมของมินท์ การเคี้ยวหมากฝรั่งก็อาจยิ่งส่งผลให้หูรูดส่วนปลายของหลอดอาหารยิ่งคลายตัว จนกรดไหลย้อนขึ้นมามากขึ้นได้
5. รับประทานอาหารที่มีความเป็นด่าง
การรับประทานอาหารที่มีความเป็นด่างอาจเป็นหนึ่งในวิธีแก้กรดไหลย้อนเร่งด่วนสำหรับหลาย ๆ คน เนื่องจากช่วยลดความเป็นกรดในกระเพาะอาหารได้ โดยตัวอย่างอาหารในกลุ่มนี้ก็เช่น กล้วย พืชตระกูลถั่วต่าง ๆ และเมล่อน
6. ยกหัวเตียงให้สูงขึ้น
สำหรับผู้ที่มีอาการกรดไหลย้อนในช่วงก่อนเข้านอน การยกหัวเตียงให้สูงขึ้นอาจช่วยบรรเทาอาการได้ โดยให้ใช้ของแข็งใด ๆ ก็ได้มาวางรับน้ำหนักช่วงหัวเตียงประมาณ 6 นิ้ว เพื่อให้ทั้งเตียงมีแนวในลักษณะลาดลง ทั้งนี้ ผู้มีอาการกรดไหลย้อนควรหลีกเลี่ยงการใช้หมอนหนุนเฉพาะส่วนศีรษะ เนื่องจากการยกเฉพาะส่วนศีรษะให้สูงขึ้นจะส่งผลให้ลำตัวพับงอและเกิดความดันในช่องท้องได้
7. หลีกเลี่ยงอาการที่กระตุ้นให้เกิดอาการ
อาหารบางชนิด เช่น อาหารที่มีส่วนผสมของมินท์ มะเขือเทศ กระเทียม หัวหอม ชา กาแฟ ช็อกโกแลต อาหารที่มีไขมันสูง อาหารรสเผ็ด และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ อาจส่งผลให้อาการจากภาวะกรดไหลย้อนยิ่งแย่ลงได้ จึงควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทนี้
8. หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นต่าง ๆ
นอกจากวิธีในข้างต้นแล้ว การหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นอาการกรดไหลย้อนต่าง ๆ ก็สำคัญเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมความเครียด หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ หรือหลีกเลี่ยงการเอนตัวลงนอนทันทีหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ
ทั้งนี้ วิธีในข้างต้นที่กล่าวเป็นเป็นเพียงวิธีแก้กรดไหลย้อนเร่งด่วนเท่านั้น เนื่องจากการรับมือกับภาวะกรดไหลย้อนที่เหมาะสมควรจะเป็นการดูแลจากแพทย์ร่วมด้วย เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ
ดังนั้น ผู้ที่มีภาวะกรดไหลย้อนควรหาเวลาไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยเฉพาะผู้ที่เกิดอาการอื่น ๆ ในลักษณะต่อไปนี้ร่วมด้วย ได้แก่ กลืนอาหารลำบาก รู้สึกเจ็บขณะกลืน เบื่ออาหาร อาเจียน อิ่มไวผิดปกติ น้ำหนักลดผิดปกติ และอุจจาระปนเลือด