HIFU เป็นนวัตกรรมเพื่อสุขภาพและความงามที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน ทางการแพทย์นิยมนำมาใช้รักษาโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก เพราะมีผลข้างเคียงน้อยกว่าการรักษารูปแบบอื่น แต่ HIFU คืออะไร มีข้อดี ข้อเสีย และขั้นตอนการทำอย่างไร ผู้ป่วยที่ต้องการเข้ารับการรักษาด้วยวิธีนี้ควรศึกษาไว้เพื่อเตรียมความพร้อม
การรักษามะเร็งต่อมลูกหมากด้วยการทำ HIFU (High Intensity Focus Ultrasound) คือการปล่อยคลื่นอัลตราซาวด์ที่มีความร้อนสูงไปทำลายเนื้อเยื่อที่มีเซลล์มะเร็งโดยตรง แพทย์จะใช้วิธีนี้กับผู้ป่วยที่เซลล์มะเร็งยังไม่ลุกลามไปส่วนอื่นของร่างกาย โดยอาจแนะนำให้เข้ารับการทำ HIFU ก่อนการรักษาด้วยวิธีอื่น หรือในกรณีที่การฉายแสงใช้ไม่ได้ผล รวมถึงผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาแล้วแต่เกิดเชื้อมะเร็งที่ต่อมลูกหมากขึ้นอีก
ข้อดีและข้อเสียของการทำ HIFU
ผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมากที่ต้องการเข้ารับการรักษาด้วยวิธีนี้อาจเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของการทำ HIFU เพื่อประกอบการตัดสินใจ ดังนี้
ข้อดีของ HIFU
- ไม่ต้องพักฟื้นร่างกายในโรงพยาบาลหลังเข้ารับการทำ HIFU และไม่ทำให้รู้สึกเจ็บมากนัก เนื่องจากไม่ต้องใช้การผ่าตัดหรือการฉายรังสีในการทำ
- เสี่ยงเกิดภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศหรือภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่หลังเข้ารับการรักษาได้น้อยกว่าวิธีอื่น
- สามารถเข้ารับการรักษาด้วยวิธีอื่นได้หากอาการป่วยไม่ดีขึ้นหรือเกิดเนื้องอกซ้ำ ต่างจากการรักษาด้วยวิธีอื่นที่อาจเข้ารับการรักษาซ้ำไม่ได้ เนื่องจากเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงได้สูง
ข้อเสียของ HIFU
- ใช้ได้เฉพาะกับผู้ป่วยที่เซลล์มะเร็งยังอยู่ภายในบริเวณต่อมลูกหมากเท่านั้น ไม่ใช้ในกรณีที่เซลล์มะเร็งลุกลามไปยังอวัยวะอื่นของร่างกาย
- การใช้ HIFU สำหรับรักษามะเร็งต่อมลูกหมากยังไม่แพร่หลายในโรงพยาบาลมากนัก
- แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำ HIFU นั้นมีน้อย
เตรียมตัวอย่างไรเมื่อเข้ารับการรักษาด้วย HIFU
ผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมากที่เซลล์มะเร็งยังไม่ลุกลามไปอวัยวะส่วนอื่นของร่างกายอาจปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการทำ HIFU ก่อนการรักษาด้วยวิธีอื่น โดยควรซักถามข้อสงสัยเกี่ยวกับสุขภาพโดยรวมของตนเองและผลข้างเคียงจากกระบวนการดังกล่าว หากตัดสินใจเข้ารับการทำ HIFU ผู้ป่วยจะต้องงดน้ำและอาหารเป็นเวลา 6 ชั่วโมงก่อนทำ
กระบวนการทำ HIFU เป็นอย่างไร
การรักษามะเร็งต่อมลูกหมากด้วยการทำ HIFU นั้นจะใช้คลื่นอัลตราซาวด์ที่มีอุณหภูมิความร้อนสูงถึง 32 องศาเซลเซียส ฉายผ่านผนังลำไส้ตรงเข้าไปยังบริเวณที่มีเซลล์มะเร็งเพื่อกำจัดเซลล์ดังกล่าว ใช้เวลาประมาณ 1-4 ชั่วโมง มีขั้นตอน ดังนี้
ก่อนทำ HIFU
- แพทย์จะสวนลำไส้ของผู้ป่วยให้เกิดการขับของเสียออกมา เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอาหารหรือน้ำอยู่ในร่างกายก่อนทำ HIFU
- ให้ยาสลบเพื่อให้ผู้ป่วยไม่รู้สึกเจ็บระหว่างเข้ารับการรักษา
ระหว่างทำ HIFU
- แพทย์จะสอดท่อเล็ก ๆ ผ่านหัวองคชาตเข้าไปยังกระเพาะปัสสาวะผู้ป่วย เพื่อขับน้ำปัสสาวะออกมาในระหว่างทำการรักษา
- สอดอุปกรณ์อัลตราซาวด์ขนาดเล็กเข้าไปที่ลำไส้ตรงหรือใช้การทำ MRI เพื่อช่วยให้มองเห็นภาพต่อมลูกหมากภายในร่างกาย
- แพทย์จะดูภาพดังกล่าวเพื่อหาตำแหน่งเนื้องอก จากนั้นจึงยิงคลื่นอัลตราซาวด์ผ่านผนังลำไส้ตรงเข้าไปทำลายเซลล์มะเร็งที่อยู่ภายในต่อมลูกหมาก
หลังทำ HIFU
- แพทย์จะนำท่อขนาดเล็กที่สอดเข้าไปภายในองคชาตของผู้ป่วยออก หรืออาจทิ้งไว้ 1 สัปดาห์ แล้วนัดผู้ป่วยอีกครั้งเพื่อนำท่อดังกล่าวออกให้
- ผู้ป่วยสามารถกลับไปพักที่บ้านได้หลังการรักษาเสร็จสิ้นและยาสลบหมดฤทธิ์แล้ว
ผลข้างเคียงจากการทำ HIFU
การรักษามะเร็งต่อมลูกหมากด้วยการทำ HIFU มีผลข้างเคียงค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับการรักษาด้วยวิธีอื่น อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์ทันทีหากพบอาการผิดปกติ ดังนี้
- อวัยวะเพศแข็งตัวช้าหรือมีอาการนกเขาไม่ขัน ซึ่งจะหายไปได้เอง แต่ผู้ป่วยอาจใช้ยาสำหรับรักษาอาการดังกล่าวตามที่แพทย์แนะนำในระหว่างฟื้นฟูร่างกายควบคู่ไปด้วย
- ปัสสาวะลำบากหรือมีปัสสาวะเล็ด
- มีเลือดออกปนมากับปัสสาวะ
- เกิดการติดเชื้อที่ระบบทางเดินปัสสาวะหรือลูกอัณฑะ
- รู้สึกเจ็บบริเวณระหว่างลูกอัณฑะกับลำไส้ตรง