หลายคนอาจสงสัยว่าคนโบราณในยุคแรกเริ่มวิวัฒนาการนั้นรับประทานอะไรกัน คำตอบ คือ อาหารที่หาได้ในยุคนั้น และในปัจจุบันก็มีกระแส Paleo Diet เกิดขึ้นด้วย ซึ่งเป็นสไตล์การรับประทานอาหารแบบมนุษย์ยุคหิน แต่อาหารลักษณะดังกล่าวจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพและดีต่อร่างกายของคนในยุคนี้หรือไม่ และมีข้อควรระวังใด ๆ ก่อนการรับประทานหรือไม่ ศึกษาได้จากข้อมูลต่อไปนี้
Paleo Diet คือ อะไร ?
Paleo Diet เป็นแนวทางการรับประทานอาหารตามแบบฉบับของมนุษย์ยุคหิน คาดว่าน่าจะอยู่ในช่วงประมาณ 2.5 ล้านถึง 10,000 ปีก่อน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอาหารประเภทเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ปลา ผัก ผลไม้ ถั่ว และเมล็ดพืชต่าง ๆ ที่สามารถหาได้ในช่วงเวลานั้นก่อนเกิดการเพาะปลูกและการทำไร่ไถนาขึ้นในภายหลัง
จุดประสงค์ของการรับประทานอาหารแบบ Paleo Diet คือ ย้อนรูปแบบการรับประทานอาหารให้กลับไปเหมือนมนุษย์ในยุคแรก ๆ ซึ่งสืบเนื่องมาจากแนวคิดที่ว่า ร่างกายมนุษย์อาจไม่เหมาะกับการรับประทานอาหารสมัยใหม่ เพราะบางคนเชื่อว่าอาหารทุกวันนี้อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ตามมา เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน หรือโรคหัวใจ เป็นต้น
ประโยชน์ของการรับประทานอาหารแบบ Paleo Diet
การรับประทานอาหารแบบ Paleo Diet ได้ถูกนำไปเปรียบเทียบกับการรับประทานอาหารชนิดอื่น ๆ เช่น อาหารสำหรับคนเป็นเบาหวาน อาหารแบบเมดิเตอเรเนียนที่รับประทานกันในประเทศแถบอิตาลีและกรีกในอดีต รวมถึงอาหารประเภทผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ธัญพืช และผลิตภัณฑ์จากนมไขมันต่ำ เป็นต้น ซึ่งจากการศึกษาพบว่า การรับประทานอาหารแบบ Paleo Diet มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งช่วยลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพ และอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านอื่น ๆ ด้วย เช่น ควบคุมระดับความดันโลหิต ช่วยให้ระดับน้ำตาลในการทดสอบความทนต่อกลูโคสดีขึ้น ลดระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือด และช่วยลดความอยากอาหาร เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติมในกลุ่มคนจำนวนมากเกี่ยวกับผลต่อสุขภาพจากการรับประทานอาหารแบบ Paleo Diet ในระยะยาวต่อไป เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค
แนวทางการรับประทานอาหารแบบ Paleo Diet
อาหารแบบ Paleo Diet ส่วนใหญ่จะเป็นวัตถุดิบที่ส่งตรงจากธรรมชาติ ปลอดสารเคมี ไม่ผ่านการแปรรูป ไม่ขัดสี ไม่ปรุงแต่งด้วยน้ำตาลหรือเกลือ และไม่ใช่อาหารที่ผลิตจากโรงงาน และแม้จะไม่มีการกำหนดรูปแบบการรับประทานอาหารแบบ Paleo Diet อย่างชัดเจน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำและอาหารที่มีโปรตีนสูง สลับกับการรับประทานเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน โดยเฉพาะสัตว์ที่กินหญ้าเป็นอาหารและเลี้ยงแบบปล่อยในธรรมชาติ ปลาชนิดต่าง ๆ โดยเฉพาะปลาที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 อย่างปลาแซลมอน ปลาแม็กเคอเรล หรือปลาทูน่าครีบขาว ผัก ผลไม้ ถั่ว รวมถึงน้ำมันจากพืชหรือถั่วอย่างน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันวอลนัต โดยดื่มน้ำและออกกำลังกายเป็นประจำ และควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารบางอย่างด้วย เช่น ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโอ๊ต ถั่วลิสง ถั่วลันเตา รวมถึงผลิตภัณฑ์จากนม เกลือ น้ำตาลทรายขาว มันฝรั่ง และอาหารแปรรูปชนิดต่าง ๆ เป็นต้น
ข้อชวนคิดในการรับประทานอาหารแบบ Paleo Diet
หากรับประทานอาหารตามแบบ Paleo Diet แล้วปรุงเอง อาจต้องใช้ความพิถีพิถันตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกวัตถุดิบ การเตรียม ไปจนถึงการปรุงรส อีกทั้งผัก ผลไม้ หรือเนื้อสัตว์ที่ติดฉลากว่าออแกนิคนั้นยังมีราคาสูงกว่าสินค้าอาหารทั่วไปด้วย หรือหากออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านก็คงต้องคิดทบทวนและสอบถามว่าพ่อครัวใช้น้ำมันอะไรในการประกอบอาหาร เนื้อสัตว์ที่ใช้ผ่านการเลี้ยงแบบไหนมา มีส่วนผสมของอาหารกระป๋องหรืออาหารแปรรูปหรือไม่ ซึ่งอาจทำให้เสียเวลามากกว่าเดิมได้
นอกจากนี้ การรับประทานอาหารแบบ Paleo Diet อาจทำให้ผู้บริโภคไม่ได้รับสารอาหารครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ตามที่ร่างกายต้องการ จึงอาจต้องรับประทานอาหารเสริมหรือชดเชยตามความจำเป็น และยังไม่มีหลักฐานใดที่บ่งบอกว่ามนุษย์ยุคหินมีสุขภาพที่ดีกว่ามนุษย์ในยุคปัจจุบัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว มนุษย์ยุคหินมีอายุขัยน้อยกว่ามนุษย์ในยุคปัจจุบันด้วยซ้ำไป ดังนั้น ผู้บริโภคจึงควรใช้วิจารณญาณในการเลือกรับประทานอาหารแต่ละประเภทเสมอ เพื่อสุขภาพที่ดีของตนเอง