Roxithromycin (รอกซิโทรมัยซิน)

Roxithromycin (รอกซิโทรมัยซิน)

Roxithromycin (รอกซิโทรมัยซิน) เป็นยาปฏิชีวนะที่จัดอยู่ในกลุ่มยาแมคโครไลด์ (Macrolide) ซึ่งมีกลไกการออกฤทธิ์ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย เพื่อรักษาโรคติดเชื้อภายในลำคอ ปอด และผิวหนัง

Roxithromycin เป็นยาต้านเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งนำมาใช้ในการรักษาโรคที่มาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น โรคหลอดลมอักเสบ โรคปอดอักเสบ โรคไซนัสอักเสบ หรือการติดเชื้อที่ผิวหนัง อย่างไรก็ตาม ยารอกซิโทรมัยซินมีข้อห้ามใช้และอาจเกิดผลข้างเคียงได้ ดังนั้นการใช้ยาควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์และเภสัชกร

Roxithromycin

เกี่ยวกับยา Roxithromycin

กลุ่มยา ยาปฏิชีวนะกลุ่มแมคโครไลด์ (Macrolides)
ประเภทยา ยาตามใบสั่งแพทย์ 
สรรพคุณ รักษาการติดเชื้อแบคทีเรีย
กลุ่มผู้ป่วย เด็กและผู้ใหญ่
การใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์ ยังไม่มีการจัดหมวดหมู่ของยาชนิดนี้จากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาหรือ FDA ซึ่งยาอาจส่งผลกระทบต่อมารดาหรือทารกในครรภ์ได้
การใช้ยาในผู้ให้นมบุตร ยานี้สามารถขับออกทางนมแม่สู่ทารกได้ ผู้ที่ให้นมบุตรควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อนใช้ยา 
รูปแบบของยา ยารับประทานชนิดแคปซูล ชนิดเม็ด ยาเม็ดแตกตัวในปาก และยาน้ำแขวนตะกอน

คำเตือนในการใช้ยา Roxithromycin

ข้อควรระวังที่ผู้ป่วยควรทราบก่อนใช้ยา Roxithromycin มีดังนี้

  • ควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบหากมีประวัติแพ้ยานี้หรือยากลุ่มแมคโครไลด์ (Macrolides) เช่น ยาอะซิโธรมัยซิน (Azithromycin) ยาอิริโทรมัยซิน (Erythromycin) ยาคลาริโธรมัยซิน (Clarithromycin) หรือยาอื่น ๆ
  • ผู้ที่เคยมีประวัติเป็นโรคไตหรือโรคตับ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยานี้
  • ควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ หากกำลังตั้งครรภ์ วางแผนจะตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
  • หากใช้ยาเป็นเวลานานควรติดตามการทำงานของตับ เนื่องจากยาอาจมีผลเสียต่อตับได้
  • ผู้ที่เคยมีประวัติภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เป็นโรคหัวใจ รวมถึงมีภาวะแมกนีเซียมหรือโพแทสเซียมในเลือดต่ำ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยานี้
  • ห้ามใช้ยานี้ในผู้ที่เป็นโรคพอร์ไฟเรีย (Porphyria) หรือผู้ที่มีภาวะภูมิไวเกิน (Hypersensitivity)
  • ห้ามใช้ยานี้ร่วมกับยารักษาไมเกรนในกลุ่มเออร์กอต อัลคาลอยด์ (Ergot Alkaloids)
  • ควรระมัดระวังในการขับขี่ยานพาหนะ เนื่องจากยานี้อาจทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะได้

ปริมาณการใช้ยา Roxithromycin

ยา Roxithromycin ใช้ในการรักษาการติดเชื้อจากแบคทีเรียได้หลายชนิด ปริมาณการใช้ยาจะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับอายุหรือเงื่อนไขต่าง ๆ ของผู้ป่วย

การติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจและผิวหนัง 

ผู้ใหญ่ รับประทานยาขนาด 150 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง หรือขนาด 300 มิลลิกรัม วันละครั้ง รับประทานเป็นระยะเวลา 5—10 วัน หรือตามที่แพทย์แนะนำ

เด็กที่มีน้ำหนักตัว 6—40 กิโลกรัม รับประทานขนาด 5—8 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว (กิโลกรัม) ต่อวัน หรือตามที่แพทย์แนะนำ

เด็กที่มีน้ำหนักตัวมากกว่า 40 กิโลกรัม รับประทาน 150 มิลลิกรัมต่อวัน โดยรับประทานเป็นระยะเวลา 5—10 วัน หรือตามที่แพทย์แนะนำ

ทั้งนี้ ปริมาณและระยะเวลาในการใช้ยาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา

การใช้ยา Roxithromycin

การใช้ยา Roxithromycin ให้ปลอดภัยควรอ่านฉลากวิธีการใช้ยาอย่างละเอียดก่อนการใช้ยา และหากมีความสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับการใช้ควรสอบถามแพทย์หรือเภสัชกร นอกจากนี้ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่าง ๆ ดังนี้ 

  • ควรใช้ยาตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด ซึ่งขนาดยาที่ใช้ทั่วไป คือ 150 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง หรือขนาด 300 มิลลิกรัม วันละครั้ง กลืนทั้งเม็ดพร้อมน้ำสะอาด ใช้เป็นระยะเวลา 5—10 วัน
  • ควรรับประทานยาในขณะที่ท้องว่างหรือก่อนอาหารอย่างน้อย 15 นาที
  • ผู้ป่วยควรใช้ยาอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะครบปริมาณตามที่กำหนดแม้ว่าอาการจะดีขึ้น ไม่ควรหยุดยาเอง เพื่อป้องกันการกลับมาของโรค แต่หากอาการยังไม่ดีขึ้นหรือมีอาการที่แย่ลงควรไปพบแพทย์
  • ในกรณีที่ลืมรับประทานยาตามเวลาที่กำหนด ให้รับประทานยาทันทีที่นึกขึ้นได้ แต่หากใกล้ถึงเวลารับประทานยาในรอบถัดไป ให้ข้ามไปรับประทานยาในรอบถัดไป ไม่ควรเพิ่มปริมาณเป็น 2 เท่าและหากมีอาการที่ผิดปกติเกิดขึ้น ควรไปพบแพทย์
  • ควรเก็บยาไว้ในภาชนะเดิมที่บรรจุมา ปิดภาชนะที่บรรจุให้สนิททุกครั้งหลังใช้ยา และเก็บให้พ้นมือเด็ก
  • ควรเก็บยาไว้ในอุณหภูมิห้อง เก็บให้พ้นจากความร้อน แสงแดด และความชื้น หากยาหมดอายุให้ทิ้งทันที

ปฏิกิริยาระหว่าง Roxithromycin กับยาอื่น 

ยา Roxithromycin อาจทำปฏิกิริยากับยาบางชนิดและส่งผลต่อร่างกายได้ โดยยาที่อาจทำปฏิกิริยากัน เช่น 

ยา Roxithromycin ยังอาจทำปฏิกิริยากับยาตัวอื่นนอกจากนี้ได้ จึงควรแจ้งกับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งก่อนใช้ยาตัวนี้ 

ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Roxithromycin 

ผลข้างเคียงหรืออาการอันไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดจากการใช้ยา มีดังนี้

หากเกิดอาการเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง มีอาการแย่ลง หรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ควรรีบไปพบแพทย์หรือแจ้งให้เภสัชกรทราบ 

สำหรับอาการแพ้หรืออาการอันไม่พึงประสงค์ที่ต้องแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทันที เช่น ลมพิษ ผื่นที่ผิวหนัง ลิ้นบวม ปากบวม หรือหน้าบวม กลืนหรือหายใจลำบาก ท้องเสียอย่างรุนแรง หรือปวดเกร็งท้อง นอกจากนั้น อาจมีผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งหากผู้ป่วยพบว่ามีความผิดปกติหรือเกิดผลข้างเคียงอื่นควรรีบไปพบแพทย์