กรดไหลย้อนกินอะไรหาย รู้จักอาหารที่ช่วยบรรเทากรดไหลย้อน

การเรียนรู้ว่าเป็นกรดไหลย้อนกินอะไรหายเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่อาจช่วยบรรเทาอาการจากภาวะกรดไหลย้อนได้ เนื่องจากอาการแสบร้อนกลางอกที่มักพบได้ในผู้ป่วยกรดไหลย้อนเป็นอาการที่อาจดีขึ้นหรือแย่ลงได้ด้วยปัจจัยหลายอย่าง ซึ่งรวมถึงการเลือกรับประทานอาหารด้วย

กรดไหลย้อน เป็นภาวะที่กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาทางหลอดอาหารอย่างเรื้อรังเนื่องจากหูรูดส่วนปลายของหลอดอาหารที่คอยเป็นตัวกั้นทำงานผิดปกติไป โดยหากผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม ภาวะกรดไหลย้อนเรื้อรังอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงทางหลอดอาหารได้

กรดไหลย้อนกินอะไรหาย

ซึ่งอย่างที่ได้กล่าวไปว่าอาหารก็เป็นส่วนสำคัญในการช่วยควบคุมหรือบรรเทาอาการจากภาวะกรดไหลย้อนได้ บทความนี้จึงได้รวบรวมข้อมูลที่สำคัญเพื่อตอบคำถามที่ว่า กรดไหลย้อนกินอะไรหาย มาให้ทุกคนได้ศึกษาและลองไปหามารับประทานกัน

กรดไหลย้อนกินอะไรหาย ตัวอย่างกลุ่มอาหารที่แนะนำ

สำหรับผู้ที่มีคำถามว่า กรดไหลย้อนกินอะไรหาย ก่อนอื่นควรเข้าใจก่อนว่า การเลือกอาหารเป็นเพียงหนึ่งในวิธีสำหรับบรรเทาอาการเท่านั้น ซึ่งผู้ป่วยจำเป็นต้องใส่ใจกับปัจจัยอื่นควบคู่ไปด้วย เช่น หมั่นออกกำลังกาย ไม่เอนตัวนอนหลังรับประทานอาหารทันที ยกหัวนอนให้สูง เลี่ยงอาหารบางชนิด เช่น อาหารรสเผ็ด คาเฟอีน และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และที่สำคัญควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างตรงจุด

ส่วนคำตอบของคำถามที่ว่า เป็นกรดไหลย้อนกินอะไรหาย ผู้ป่วยอาจจะลองเลือกรับประทานอาหารในกลุ่มดังต่อไปนี้ เพื่อช่วยบรรเทาอาการในเบื้องต้น เช่น 

1. อาหารที่มีใยอาหารสูง

อาหารที่มีใยอาหาร (fiber) สูงจะช่วยให้ผู้รับประทานรู้สึกอิ่มท้องได้นานขึ้น อีกทั้งยังช่วยควบคุมปริมาณอาหารที่รับประทานไม่ให้มากจนเกินไป เนื่องจากการรับประทานอาหารที่มากเกินพอดีถือเป็นปัจจัยสำคัญที่มักส่งผลให้ผู้ป่วยหลายคนมีอาการแสบร้อนกลางอกที่แย่ลง โดยตัวอย่างอาหารที่มีใยอาหารสูงก็เช่น ข้าวโอ๊ต ข้าวกล้อง บร็อคโคลี และปวยเล้ง

ทั้งนี้ ผู้ที่รับประทานอาหารที่มีใยอาหารสูง โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ค่อยได้รับประทานใยอาหารเป็นประจำ อาจจะมีอาการคลื่นไส้และท้องผูกได้ แต่อาการเหล่านี้เป็นอาการที่ป้องกันได้ โดยการดื่มน้ำให้มากขึ้นและค่อย ๆ เพิ่มปริมาณการรับประทานใยอาหารทีละน้อย

2. อาหารที่มีความเป็นด่าง

การรับประทานอาหารที่เป็นด่างจะช่วยลดความเป็นกรดในกระเพาะอาหารได้ โดยตัวอย่างอาหารในกลุ่มนี้ที่สามารถหาได้ใกล้ตัวก็เช่น กล้วย กะหล่ำดอก และถั่วต่าง ๆ

3. อาหารที่มีน้ำเป็นส่วนผสมหลัก

อาหารบางชนิดจะมีปริมาณน้ำเป็นส่วนประกอบค่อนข้างสูง โดยการที่ร่างกายได้รับปริมาณน้ำที่มากขึ้นและเพียงพออาจช่วยให้ความเป็นกรดในกระเพาะอาหารเจือจางลงได้บ้าง โดยอาหารในกลุ่มนี้ก็เช่น สตรอว์เบอร์รี กล้วย แตงโม แตงกวา และปวยเล้ง

4. ดื่มนม

แคลเซียมในนมวัวเป็นสารอาหารที่อาจมีส่วนช่วยควบคุมความสมดุลระหว่างความเป็นกรดและด่างในร่างกายได้ แต่ผู้ที่ต้องการดื่มนมเพื่อบรรเทาอาการกรดไหลย้อนควรเลือกนมสูตรที่ไม่มีไขมันหรือไขมันต่ำ เนื่องจากไขมันในนมอาจยิ่งส่งผลให้อาการแย่ลงได้

ทั้งนี้ ผู้ที่ดื่มนมเพื่อบรรเทาอาการจากภาวะกรดไหลย้อนควรค่อย ๆ ดื่มนมในปริมาณทีละน้อย และหมั่นสังเกตอาการในระหว่างนี้อยู่เสมอ เพราะแม้ว่าการดื่มนมจะอาจช่วยควบคุมหรือบรรเทาอาการจากกรดไหลย้อนได้ แต่ก็มีผู้ป่วยบางคนเช่นกันที่พบว่าอาการแสบร้อนกลางอกแย่ลงหลังจากดื่มนม

5. อาหารที่มีโปรตีนสูงที่มีไขมันต่ำ

การรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูงอาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการจากภาวะกรดไหลย้อนได้ แต่เพื่อความปลอดภัย ผู้ป่วยกรดไหลย้อนควรเลือกรับประทานจากแหล่งที่มีไขมันต่ำ อย่างเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน อาหารทะเล และไข่ข่าว และเลือกใช้วิธีปรุงอาหารที่ไม่ใช้ไขมันหรือใช้ไขมันต่ำแทน เช่น การต้ม การย่าง และการนึ่ง

6. ขิง

เนื่องจากขิงเป็นพืชที่มีความเป็นด่าง และยังมีสารบางชนิดที่อาจมีส่วนช่วยลดการอักเสบในร่างกายได้ ขิงจึงเป็นอีกตัวเลือกที่ผู้ป่วยกรดไหลย้อนสามารถเลือกรับประทาน หรืออาจจะเลือกดื่มน้ำขิง เพื่อควบคุมหรือบรรเทาอาการแสบร้อนกลางอกได้

อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกผู้ป่วยกรดไหลย้อนควรรับประทานหรือดื่มน้ำขิงในปริมาณครั้งละน้อย ๆ ก่อน และหมั่นสังเกตอาการตัวเองเสมอ เพราะก็มีผู้ป่วยกรดไหลย้อนบางคนอาจพบว่าอาการแสบร้อนกลางอกยิ่งแย่ลงหลังจากรับประทานขิงเข้าไป

7. เบกกิ้งโซดา

เบกกิ้งโซดาเป็นส่วนผสมที่มีความเป็นด่าง ซึ่งอาจมีส่วนช่วยลดความเป็นกรดในร่างกายได้ โดยผู้ป่วยกรดไหลย้อนสามารถรับประทานง่าย ๆ ด้วยการนำเบกกิ้งโซดาในปริมาณ 1 ช้อนชาผสมกับน้ำเปล่า 1 แก้ว

ทั้งนี้ การรับประทานเบกกิ้งโซดาในปริมาณมากบ่อย ๆ อาจส่งผลให้ผู้รับประทานมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน สับสน และกล้ามเนื้อหดตัวได้ อีกทั้งเบกกิ้งโซดายังมีปริมาณโซเดียมสูงอีกด้วย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือกำลังใช้ยาบางชนิดได้

ดังนั้น ผู้ที่ต้องการดื่มน้ำผสมเบกกิ้งโซดาควรดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ดื่มบ่อยเกินไป แต่หากมีโรคประจำตัวชนิดอื่นหรือกำลังใช้ยาใด ๆ อยู่ ควรปรึกษาแพทย์ผู้รักษาถึงความเหมาะสมก่อน

มาถึงตรงนี้ หลายคนคงพอทราบบ้างแล้วว่า กรดไหลย้อนกินอะไรหาย แต่อย่างที่ได้กล่าวไปว่า การเลือกรับประทานอาหารถือเป็นเพียงหนึ่งในอีกหลาย ๆ ปัจจัยที่ผู้ป่วยควรให้ความสำคัญ โดยเฉพาะการไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจและการรักษาที่เหมาะสม เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว

และในระหว่างที่ผู้ป่วยมีภาวะกรดไหลย้อนอยู่ หากผู้ป่วยพบว่าอาการที่มีอยู่เดิมแย่ลง หรือมีอาการผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้นใหม่ ผู้ป่วยก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการอิ่มไว เบื่ออาหาร น้ำหนักลดผิดปกติ ไอบ่อย อาเจียนบ่อย หายใจไม่อิ่ม กลืนอาหารลำบาก เสียงแหบ เจ็บหน้าอก อุจจาระสีดำผิดปกติ หรืออุจจาระปนเลือด