จมูกเล็บคืออะไร และวิธีดูแลจมูกเล็บให้สุขภาพดี

จมูกเล็บเป็นภาษาพูดที่คนไทยใช้เรียกผิวหนังรอบโคนเล็บ (Cuticles) ซึ่งในทางการแพทย์ไม่ได้ระบุคำที่ใช้เรียกผิวหนังส่วนดังกล่าวชัดเจน หรือบางคนอาจใช้ว่าจมูกเล็บในการเรียกผิวหนังส่วนเกินบริเวณซอกเล็บด้วยเช่นกัน 

เล็บ นิ้ว และมือเป็นอวัยวะที่มนุษย์เราใช้งานอยู่แทบจะตลอดเวลา ไม่ว่าจะใช้หยิบจับ เขียนหนังสือ และทำสิ่งต่าง ๆ มากมาย จมูกเล็บที่อยู่รอบเล็บและนิ้วจึงเสี่ยงต่อการได้บาดเจ็บหรือผลกระทบจากการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ง่าย ซึ่งการดูแลจมูกเล็บอย่างเหมาะสมอาจลดปัญหานี้ได้

จมูกเล็บคืออะไร และวิธีดูแลจมูกเล็บให้สุขภาพดี

ปัญหาของจมูกเล็บที่พบบ่อย

ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหาของจมูกเล็บที่ได้บ่อยที่จุด คือ จมูกเล็บลอก (Hangnail) เป็นปัญหาผิวหนังเหนือโคนเล็บหรือขอบเล็บลอกเป็นเส้นแนวตั้งเข้าหาตัว สามารถเกิดขึ้นกับนิ้วใดก็ได้หรือเกิดพร้อมกันหลายนิ้วในเวลาเดียวกัน และอาการลอกของผิวหนังพบได้ตั้งแต่ 1 จุดและหลาย ๆ พร้อมกัน

บางครั้งจมูกเล็บก็อาจหมายถึงเศษผิวหนังที่เกินออกมาตรงซอกเล็บ ซึ่งอาการจมูกเล็บลอกทั้งสองแบบนี้ มักสร้างความรำคาญให้กับผู้ที่เป็น และหลายคนก็อาจเลือกที่จะดึงเศษจมูกเล็บออกจนทำให้แผลขนาดใหญ่ขึ้น เจ็บมากขึ้น มีเลือดออก และเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น ทั้งบริเวณผิวหนังโคนเล็บและซอกเล็บ ซึ่งควรไปพบแพทย์และรักษาอย่างถูกต้อง

แม้ปัญหาเกี่ยวกับจะจมูกเล็บจะพบได้น้อย แต่บางปัจจัยก็อาจส่งผลต่อสุขภาพของจมูกเล็บได้ เช่น

  • ผิวแห้งจากสาเหตุต่าง ๆ
  • การสัมผัสกับอากาศเย็นจัดหรือร้อนจัด
  • การสัมผัสกับสารเคมี อย่างน้ำยาล้างจานและผงซักฟอก
  • มือเปียกหรือแช่น้ำนาน
  • ล้างมือบ่อยเกินไปหรือใช้สบู่ที่มีฤทธิ์แรง
  • พฤติกรรมแกะเล็บและพฤติกรรมดูดนิ้ว
  • ขาดสารอาหารประเภทโปรตีน
  • ตัดเล็บไม่ถูกวิธี ตัดขอบเล็บ
  • ทำเล็บหรือตกแต่งเล็บมากเกินไป

วิธีดูแลจมูกเล็บให้สุขภาพดี

แม้จมูกเล็บจะเป็นผิวหนังส่วนเล็ก ๆ แต่ก็ไม่ควรละเลย ซึ่งวิธีต่อไปนี้อาจช่วยดูแลจมูกเล็บให้แข็งแรง สุขภาพดี และลอกน้อยลง

  • ดูแลเล็บให้สะอาดอยู่เสมอ
  • ทาครีมหรือสารให้ความชุ่มชื้นทุกครั้งหลังล้างมือหรืออาบน้ำ
  • ตัดเล็บให้สั้นพอดี และไม่ตัดขอบเล็บเพื่ออาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
  • สวมถุงมือเมื่อต้องล้างจาน ทำสวน หรือใช้สารเคมีเพื่อป้องกันจมูกเล็บและผิวหนังบริเวณมือระคายเคืองและแห้ง
  • ไม่ควรดึงจมูกเล็บที่ลอกออกมา ให้ใช้วิธีในข้างต้นเพื่อดูแล
  • ลดและงดพฤติกรรมดูดนิ้ว กัดเล็บ และแกะเล็บ
  • ทำเล็บอย่างเหมาะสม ไม่บ่อยเกินไป และเลือกช่างทำเล็บที่มีความชำนาญ

เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้จมูกเล็บแข็งแรงและเสี่ยงต่อปัญหาเกี่ยวกับจมูกเล็บน้อยลงแล้ว อย่างไรก็ตาม หากจมูกเล็บบาดเจ็บ จมูกเล็บลอกรุนแรง เลือดออกมาก พบอาการติดเชื้อบริเวณจมูกเล็บ อย่างจมูกเล็บบวมแดง กดแล้วเจ็บ เป็นหนอง เล็บเปลี่ยนสี และเล็บเปราะ ควรไปพบแพทย์เพื่อป้องกันเชื้อโรคลามไปยังผิวหนังและเนื้อเยื่อภายในนิ้ว โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคเบาหวานและคนที่มีภาวะภูมิคุ้มกันอ่อนแอจากสาเหตุต่าง ๆ