อาการลองโควิดหรืออาการที่เกิดขึ้นหลังจากที่หายจากโรคโควิดอาจเป็นได้หลายแบบ เช่น ไอแห้งเรื้อรัง ไม่ได้กลิ่น เหนื่อยง่าย หายใจลำบาก คิดหรือตัดสินใจได้ช้าลง หรือมีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ ทั้งนี้ อาการลองโควิดบางอย่างก็ไม่ควรที่จะละเลยเพราะอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่รุนแรงมากขึ้นได้ จึงควรสังเกตตัวเองและหาวิธีการรักษาอย่างเหมาะสม
อาการลองโควิดสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในผู้ที่มีอาการของโรคโควิดรุนแรงและไม่รุนแรง แต่ในผู้ที่มีปัญหาสุขภาพบางอย่างอาจทำให้เชื้อไวรัสส่งผลกระทบต่อระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายได้มากกว่าคนทั่วไป และนำไปสู่การเกิดอาการลองโควิดตามมา โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคอ้วน โรคเบาหวาน ภาวะความดันโลหิตสูง ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายอ่อนแอ หรือผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดด้วย
อาการลองโควิดเบื้องต้นที่ควรรู้
เมื่อหายจากโรคโควิดแล้ว ผู้ป่วยบางคนอาจเกิดความผิดปกติต่าง ๆ ของร่างกายที่มีผลมาจากอาการของโรคโควิดตามมา หรือที่เรียกว่าอาการลองโควิดนั่นเอง ซึ่งอาการลองโควิดอาจเกิดขึ้นต่อเนื่องยาวนานหลายเดือนหลังจากหายจากโรคโควิดเลยทีเดียว โดยสามารถปรากฎอาการได้หลายอย่าง ดังนี้
อาการลองโควิดทั่วไป
อาการลองโควิดทั่วไปสามารถพบได้ในผู้ป่วยหลายคน โดยมักจะมีอาการที่ไม่รุนแรง และสามารถดูแลตัวเองได้ที่บ้าน แต่ก็อาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันไม่น้อย ตัวอย่างอาการลองโควิดทั่วไป เช่น
- มีไข้
- เจ็บคอ
- ปวดศีรษะ
- สูญเสียการรับรสหรือสูญเสียการรับกลิ่น
- เหนื่อยง่ายแม้ในตอนที่อยู่เฉย ๆ รู้สึกเหนื่อยมากเมื่อทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายหรือออกแรงมาก เช่น เดินขึ้นบันได ออกกำลังกาย เล่นกีฬา
อาการในระบบทางเดินหายใจ
อาการลองโควิดที่สามารถพบได้มากคืออาการในระบบทางเดินหายใจ ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับอวัยวะในระบบทางเดินหายใจอย่างปอด ทั้งนี้ ในบางกรณีสามารถส่งผลกระทบรุนแรงต่อสุขภาพ และอาจทำเป็นต้องเข้ารับการรักษาทางการแพทย์เลยทีเดียว ตัวอย่างอาการในระบบทางเดินหายใจ เช่น
- มีอาการหอบ
- หายใจตื้น หายใจถี่
- รู้สึกหายใจลำบาก หรือหายใจไม่ออก
- มีอาการไอ โดยอาจมีลักษณะไอแห้ง
อาการในระบบย่อยอาหาร
อาการลองโควิดสามารถแสดงออกมาในรูปแบบของอาการที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหารเช่นกัน โดยมักปรากฎอาการต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- ท้องเสีย
- ปวดท้อง ไม่สบายท้อง
- รู้สึกเบื่ออาหาร หรือไม่อยากรับประทานอาหาร
อาการที่เกี่ยวข้องกับหัวใจ
อาการลองโควิดอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับหัวใจ และสร้างความวิตกกังวลให้แก่ผู้ป่วยได้เช่นกัน ทั้งนี้ หากเกิดอาการที่เกี่ยวข้องกับหัวใจไม่ควรปล่อยปละละเลย ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย ตัวอย่างอาการที่เกี่ยวข้องกับหัวใจ เช่น
- มีอาการเจ็บหน้าอก โดยรู้สึกเจ็บปวด บีบรัด หรือแน่นหน้าอก
- มีอาการใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว หรือหัวใจเต้นแรงผิดปกติ
- มีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
อาการทางระบบประสาทและสมอง
อาการทางระบบประสาทและสมอง หรืออาการที่เกี่ยวข้องกับการคิด วิเคราะห์ สามารถเกิดขึ้นได้ในที่ที่มีภาวะลองโควิดเช่นกัน โดยมักปรากฎอาการต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- สมองช้า ไม่มีสมาธิ คิด วิเคราะห์ หรือตัดสินใจอะไรได้ช้าลง อาจเรียกว่าภาวะสมองล้า (Brain Fog Syndrome)
- มีอาการวิงเวียนศีรษะคล้ายจะเป็นลมเมื่อลุกขึ้นยืน
- มีอาการเหน็บชา หรือรู้สึกเสียวแปลบตามร่างกาย
อาการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิต
เมื่อติดเชื้อโควิด อาจทำให้ผู้ป่วยเกิดความวิตกกังวลต่อสุขภาพของตัวเองหรือคนในครอบครัว รวมถึงอาจเกิดความวิตกกังวลจากสถานการณ์ของการแพร่ระบาดที่รุนแรง หรือการเปลี่ยนแปลงทางสังคมอย่างการว่างงาน การขาดการติดต่อพบปะผู้คน และส่งผลให้เกิดอาการลองโควิดที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิตตามมาได้
ซึ่งเป็นปัญหาที่ไม่ควรละเลยเพราะอาจทำให้เกิดอาการทางสุขภาพจิตที่รุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะภาวะซึมเศร้าได้ ตัวอย่างอาการทางสุขภาพจิตที่สามารถพบได้บ่อย เช่น
- เกิดภาวะเครียด
- มีอาการวิตกกังวล
- เกิดภาวะซึมเศร้า
- มีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับ เช่น นอนไม่หลับ
นอกจากนี้ ยังมีอาการอื่น ๆ ที่สามารถเกิดขึ้นร่วมด้วย เช่น เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ปวดเนื้อเมื่อยตัว ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ มีผื่นขึ้นตามตัว มีการเปลี่ยนแปลงของรอบประจำเดือน หรือเกิดภาวะลิ่มเลือดก็ได้เช่นกัน
วิธีรับมือกับอาการลองโควิดที่สามารถทำได้ง่าย ๆ และมีประสิทธิภาพ
หากมีอาการลองโควิดที่ไม่รุนแรง สามารถดูแลตัวเองได้ด้วยวิธีการเหล่านี้ เพื่อช่วยบรรเทาอาการ หรืออาจช่วยให้หายจากอาการลองโควิดได้รวดเร็วมากขึ้น เช่น
- นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอตามปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยควรรับประทานอาหารหลัก 5 หมู่อย่างครบถ้วนตามปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน
- รับประทานยาที่สามารถช่วยบรรเทาอาการลองโควิดทั่วไป เช่น ยาแก้ไอ หรือยาแก้ปวดศีรษะ
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเกินไป
- หมั่นเคลื่อนไหวร่างกาย หลีกเลี่ยงการนั่งหรือนอนในท่าเดิมติดต่อกันเป็นเวลานาน
- เคลื่อนไหวช้า ๆ เวลาเปลี่ยนท่าหรือลุกขึ้นยืน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ
- ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ไม่ควรหักโหมจนเกินไป โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการหอบ เหนื่อยง่าย หรือหายใจลำบาก โดยอาจลองออกกำลังกายในท่านอนก็ได้เช่นกัน
- ฝึกการสูดหายใจเข้าทางจมูกยาว ๆ อย่างคงที่ หลีกเลี่ยงการหายใจทีละสั้น ๆ หรือการหายใจตื้น
- ฝึกการดมกลิ่นหรือการรับรสชาติอาการ เพื่อให้สามารถรับรู้กลิ่นและรสชาติต่าง ๆ ได้เหมือนเดิม
- ปรึกษาแพทย์หากมีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ที่ไม่ปกติ เช่น รู้สึกเศร้า โดดเดี่ยว หดหู่ วิตกกังวล
อย่างไรก็ตาม หากมีอาการลองโควิดอย่างรุนแรงและยาวนานจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันควรไปพบแพทย์เมื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะเมื่อมีอาการผิดปกติที่รุนแรงเกิดขึ้นร่วมด้วย เช่น มีไข้สูง หายใจไม่ออก สับสน ไม่รู้สึกตัว มีอาการชัก หรือมีสัญญาณของการขาดออกซิเจน คือการที่ผิวหนัง ริมฝีปาก และเล็บมีสีเขียวอมม่วง ควรรีบไปพบแพทย์อย่างเร่งด่วน