อาการปวดหัว หากเป็นบ่อยอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพร้ายแรงได้ โดยเฉพาะหากปวดหัวรุนแรงหรือผิดแปลกไปจากที่เคยเป็น อาการปวดหัวที่ถือว่าผิดปกติมีอะไรบ้าง ควรศึกษาไว้เพื่อเตรียมรับมือได้อย่างทันท่วงที
อาการปวดหัวที่ผิดปกติ
อาการปวดหัวที่ผิดปกติอาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพร้ายแรงได้ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือสมองอักเสบ โดยมักมีลักษณะอาการแตกต่างจากการปวดหัวทั่วไป สังเกตได้ดังนี้
- ปวดหัวแบบสายฟ้าฟาด เป็นอาการปวดรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนสายฟ้าฟาด มักเกิดขึ้นจากการมีเลือดออกในสมองเนื่องจากโรคต่าง ๆ เช่น หลอดเลือดสมองโป่งพอง โรคหลอดเลือดสมอง หรือได้รับอุบัติเหตุ
- ปวดหัวหลังจากการบาดเจ็บที่ศีรษะ ผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะและมีอาการปวดหัวควรได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที เพราะอาการดังกล่าวอาจบ่งบอกถึงการกระทบกระเทือนของสมองและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
- อาการปวดหัวร่วมกับมีไข้และคอแข็ง เป็นอาการผิดปกติที่อาจมีสาเหตุจากภาวะสมองอักเสบหรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ซึ่งเป็นการติดเชื้อที่อันตรายและอาจทำให้เสียชีวิตได้
ผู้ป่วยที่มีอาการข้างต้นควรรีบแจ้งหน่วยแพทย์ฉุกเฉินเพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะหากได้รับการรักษาล่าช้าอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและรุนแรงถึงชีวิต ส่วนผู้ที่มีอาการปวดหัวในลักษณะต่อไปนี้ ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษาเช่นกัน
- อาการปวดหัวรุนแรงขึ้นและไม่มีทีท่าว่าจะทุเลาลง
- ต้องรับประทานยาแก้ปวดทุกวันหรือเกือบทุกวัน และต้องเพิ่มปริมาณยาเพื่อให้อาการบรรเทาลง
- อาการปวดหัวส่งผลต่อกระทบต่อการทำงาน การนอน และการใช้ชีวิตประจำวัน
- อาการปวดหัวมีลักษณะผิดปกติและเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ เช่น ปวดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หรือปวดอย่างเฉียบพลันและรุนแรง
สัญญาณผิดปกติร่วมกับอาการปวดหัวมีอะไรบ้าง ?
โดยปกติแล้วอาการปวดหัวทั่วไปอาจไม่เป็นอันตรายใด ๆ แต่ในกรณีที่เกิดขึ้นร่วมกับอาการดังต่อไปนี้ ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์ทันที
- มีอาการปวดหัวหลังจากไอ ก้มตัว ออกกำลังกายอย่างหนัก หรือมีเพศสัมพันธ์
- มีอาการอ่อนแรง วิงเวียนศีรษะ มีปัญหาในการทรงตัว เป็นเหน็บชาตามร่างกาย หรือเคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้
- คลื่นไส้และอาเจียนอย่างรุนแรง
- มีอาการชัก
- รู้สึกมึนงง มีปัญหาในการพูด บุคลิกภาพและพฤติกรรมผิดปกติไปจากเดิม ไม่กระตือรือร้น
- มีไข้ หายใจถี่ คอแข็ง หรือมีผื่นขึ้นตามร่างกาย
- มีอาการปวดหัวร่วมกับปวดตาอย่างมากและตาแดง มองไม่ชัด เห็นภาพซ้อน หรือเกิดจุดบอดในการมองเห็น
- มีอาการปวดหัวที่ส่งผลให้ตื่นขึ้นกลางดึก
- มีอายุมากกว่า 55 ปี และเกิดอาการปวดหัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
- อาการปวดหัวในผู้ป่วยโรคมะเร็งหรือผู้มีระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง
อาการปวดหัวที่ผิดปกติเกิดจากสาเหตุใดบ้าง
สาเหตุของอาการปวดหัวอย่างผิดปกติที่อาจเป็นอันตรายนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่
- โรคหลอดเลือดสมอง ความผิดปกติของหลอดเลือดสมองเกิดได้จาก 2 สาเหตุหลัก คือ หลอดเลือดในสมองตีบ ทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนไปเลี้ยงสมอง ส่งผลให้เนื้อสมองตายลงช้า ๆ หรือหลอดเลือดในสมองแตก ทำให้เลือดกระจายอยู่ทั่วสมอง ซึ่งทั้ง 2 โรคนี้อาจส่งผลให้ผู้ป่วยเป็นอัมพาตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
- โรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง เป็นภาวะที่ผนังหลอดเลือดอ่อนแอจนเกิดการปริแตกและมีเลือดไหลคั่งในสมอง ส่งผลให้ผู้ป่วยเกิดอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง
- โรคเส้นเลือดขอดในสมอง เกิดจากกลุ่มหลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำในสมองบางตำแหน่งที่เชื่อมต่อกันอย่างผิดปกติ ส่งผลทำให้เกิดปัญหาตามมา เช่น การไหลเวียนเลือดผิดปกติ หลอดเลือดสมองแตกจนเกิดเลือดคั่งในสมอง เป็นต้น โดยโรคนี้มักเกิดความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด
- ภาวะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นกลาง เกิดจากการมีเลือดออกบริเวณระหว่างสมองกับเยื่อหุ้มสมอง ส่งผลให้เกิดอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรงได้
- ความดันโลหิตสูง ผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูงกว่าระดับปกติมาก ๆ อาจทำให้ความดันภายในกะโหลกสูงขึ้นตามจนเกิดอาการปวดหัว
- เนื้องอกที่สมอง อาการปวดหัวจากการมีเนื้องอกในสมองจะแตกต่างจากอาการปวดหัวอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด และมักมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน มีปัญหาด้านการพูด การได้ยิน การมองเห็น ความจำ เป็นต้น
- คาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษ การสูดดมก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์มากเกินไปอาจทำให้ร่างกายขาดออกซิเจนและมีอาการปวดหัวได้
- ภาวะโพรงสมองคั่งน้ำ การมีของเหลวคั่งภายในกะโหลกศีรษะจะส่งผลให้สมองถูกกดทับจนเกิดอาการบวม และทำให้รู้สึกปวดหัวต่างไปจากปกติได้
- ภาวะความดันในโพรงกะโหลกศีรษะสูง แรงดันในกะโหลกศีรษะที่มากขึ้นเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่อาจส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวผิดปกติ
- โรคหลอดเลือดขมับอักเสบ การอักเสบและบวมของหลอดเลือดซึ่งทำหน้าที่ส่งเลือดไปเลี้ยงศีรษะ ขมับ และคอ อาจทำให้เกิดอาการปวดหัวได้เช่นกัน
- การติดเชื้อในสมองหรือเยื่อหุ้มสมอง เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อรา อาจส่งผลให้สมองหรือเยื่อหุ้มรอบสมองและไขสันหลังบวมจนมีอาการปวดหัว มีไข้ หรือคอแข็งตามมา