ปัสสาวะบำบัด คือ การรักษาหรือบำบัดโรคด้วยปัสสาวะ ทั้งด้วยวิธีการดื่มและทาตามร่างกาย บางคนอาจจะรู้แปลกและมีความรู้สึกทางลบเมื่อได้ยินการรักษาด้วยวิธีนี้ แต่ก็มีคนหลายกลุ่มที่นิยมใช้วิธีปัสสาวะบำบัดมาเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาโรค และบำรุงสุขภาพในชีวิตประจำวัน และคนเหล่านั้นก็ยืนยันในผลลัพธ์ที่อัศจรรย์ของปัสสาวะบำบัด อย่างไรก็ตาม ในทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่มีการยืนยันถึงประโยชน์ทางด้านการรักษาหรือบำรุงสุขภาพออกมาอย่างเป็นทางการ
ปัสสาวะบำบัดนั้นไม่ใช่การรักษารูปแบบใหม่หรือเพิ่งค้นพบไม่นานนี้ แต่เป็นศาสตร์การรักษาที่มีความเกี่ยวข้องกับศาสนาและความเชื่อที่มีมาแต่โบราณที่ส่งต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งยังมีหลายประเทศทั่วโลกที่ใช้ปัสสาวะบำบัดในการรักษาโรคบางโรค โดยจะพบมากในประเทศแถบเอเชีย ตะวันออกกลาง และอเมริกาใต้
ความเชื่อและสรรพคุณของปัสสาวะบำบัด
สรรพคุณของปัสสาวะบำบัดนั้นมีการอ้างอิงมาจากบันทึกโบราณ ซึ่งยังไม่มีกระบวนการหาข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ในขณะนั้น โดยการดื่มหรือทาผิวด้วยปัสสาวะเป็นประจำอาจช่วยบำบัดโรคและความผิดปกติ ดังนี้
- ลดสิว
- แก้คัดจมูก
- รักษาแผล
- ช่วยให้ฟันขาวขึ้น
- ลดการติดเชื้อและการอักเสบ
- แก้พิษจากแมงกะพรุน
- รักษาโรคภูมิแพ้
- รักษาโรคผิวหนัง
- รักษาอาการชักในเด็ก
- รักษาภาวะขาดน้ำ
- รักษาโรคร้ายแรง อย่างโรคมะเร็งและโรคหัวใจ
นอกจากนี้ ยังมีคำกล่าวอ้างถึงสรรพคุณจากครูสอนโยคะในประเทศอังกฤษที่นำปัสสาวะมาดื่มและทาอยู่เป็นประจำ โดยปัสสาวะบำบัดอาจช่วยลดอาการปวดเรื้อรัง เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และอาจช่วยล้างสารพิษบนผิวอีกด้วย
ความเสี่ยงของการทำปัสสาวะบำบัด
เนื่องจากในปัสสาวะนั้นมีส่วนประกอบจากสารมากมายที่ถูกขับออกมาจากร่างกาย สารเหล่านั้นอาจเกิดมาจากกระบวนของร่างกายรวมถึงสารที่อยู่ในอาหารหรือสิ่งที่บริโภคเข้าไป ซึ่งการนำปัสสาวะมาดื่มหรือทาอาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดปกติ ดังนี้
-
การติดเชื้อ
ตามอวัยวะและระบบต่าง ๆ ของร่างกายนั้นมีเชื้อแบคทีเรียอาศัยอยู่มากมายหลายชนิด โดยแบคทีเรียเหล่านั้นจะมีประโยชน์ต่อร่างกายเมื่ออยู่ในระบบหรืออวัยวะที่เหมาะสมกับเชื้อ แต่เมื่อร่างกายขับปัสสาวะออกมา น้ำปัสสาวะเหล่านั้นอาจชะล้างเอาเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในระบบขับถ่ายออกมาด้วย ซึ่งการนำมาดื่มหรือทาตามร่างกาย โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวบอบบาง หรือมีแผลทั้งในและนอกร่างกายอาจเกิดการติดเชื้อจากแบคทีเรียเหล่านั้นได้ โดยความเชื่อเรื่องการนำปัสสาวะมารักษาโรคผิวหนัง รักษาแผล หรือนำมาแก้พิษแมงกะพรุนอาจทำส่งผลให้อาการทางผิวหนังเหล่านั้นรุนแรงขึ้น และมีความเสี่ยงในการติดเชื้อได้
-
สารพิษในร่างกาย
ระบบขับถ่ายนั้นมีหน้าที่ในการกำจัดของเสียออกจากร่างกายผ่านทางปัสสาวะหรืออุจจาระ ซึ่งในปัสสาวะก็อาจมีสารพิษที่ร่างกายต้องการจะกำจัดปนออกมาด้วย ดังนั้น การดื่มน้ำปัสสาวะจึงอาจทำให้มีสารพิษสะสมในร่างกาย และเป็นอันตรายได้
-
การได้รับยาเกินขนาด
การรับประทานยาที่ได้มาจากแพทย์หรือยาที่สามารถหาซื้อได้เองตามร้านขายยานั้นได้ผ่านการคำนวณปริมาณของยาที่ร่างกายจะสามารถดูดซึมและนำไปใช้ได้ โดยยาส่วนที่เหลือจากการดูดซึมก็จะถูกขับออกในรูปแบบของของเสีย ดังนั้น หากคุณกำลังรับประทานยาหรืออาหารเสริมอยู่ การทำปัสสาวะบำบัดอาจส่งผลให้ได้รับยาเกินขนาดและส่งผลเสียมากกว่าผลดีได้
นอกจากนี้ ภาพการดื่มปัสสาวะเพื่อป้องกันการขาดน้ำที่หลายคนอาจเคยเห็นในภาพยนตร์ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรทำตามหากต้องประสบกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก เนื่องจากในปัสสาวะมีแร่ธาตุหลายอย่างที่อาจทำให้อาการขาดน้ำรุนแรงยิ่งขึ้น
แม้ว่าการดื่มปัสสาวะตนเองในผู้ที่ไม่มีอาการเจ็บป่วยอาจจะไม่ได้ส่งผลเสียที่เป็นอันตราย และยังคงมีผู้คนหลายกลุ่มที่เชื่อและได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจจากการทำปัสสาวะบำบัด แต่จากผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันก็ยังคงไม่พบประโยชน์ของปัสสาวะบำบัดและยังมีข้อกังขาทางการแพทย์อยู่ไม่น้อย ซึ่งหากมีความต้องการที่จะทำการรักษาด้วยวิธีนี้ควรไปปรึกษาแพทย์ถึงความเสี่ยงก่อนการบำบัด นอกจากนี้ ยังมีทางเลือกอื่น ๆ ที่อาจช่วยรักษาโรคและสุขภาพโดยไม่มีความเสี่ยงหรือความเสี่ยงน้อย อย่างการออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หรือการนั่งสมาธิ