ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้สุขภาพผมดี ผมสวย นั้นมีหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นพันธุกรรม การรับประทานอาหาร สภาพอากาศ และมลภาวะที่พบเจอในแต่ละวัน ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการมีผมสวยควรให้ความสำคัญกับการดูแลเส้นผมอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากการดูแลและบำรุงเส้นผมอย่างถูกวิธีเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยให้เส้นผมสวยและแข็งแรงได้
ความเชื่อและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการมีผมสวย
ปัจจุบันผู้คนต่างสรรหาวิธีดูแลสุขภาพเส้นผมให้สวยและแข็งแรง ทั้งนี้ ข้อมูลเกี่ยวกับการบำรุงเส้นผมนั้นมีปรากฏอยู่มากมาย มีทั้งข้อมูลที่กล่าวอ้างกันมาและข้อมูลที่พิสูจน์ได้จริงตามหลักวิทยาศาสตร์ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่ ความเชื่อเกี่ยวกับการมีผมสวย และข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการมีผมสวย ดังนี้
ความเชื่อเกี่ยวกับการมีผมสวย
- ตัดผมเป็นประจำทำให้ผมยาวเร็วขึ้น เนื่องจากเส้นผมไม่มีเส้นประสาทหรือหลอดเลือด จึงไม่ทำให้เกิดการตอบสนองหรือการเจริญเติบโตของเส้นผม การตัดผมจึงไม่ได้ช่วยกระตุ้นให้ผมยาวขึ้น
- ผมสวยเพราะแปรงผมบ่อย หลายคนเชื่อว่าก่อนนอนควรหวีผมจากโคนจรดปลายให้ครบ 100 ครั้ง เพื่อให้ผมยาวสลวย ทว่าวิธีนี้ไม่ได้ช่วยให้ผมเงางามขึ้น อีกทั้งอาจทำให้ผมลีบและพันกันยุ่ง
- กินเศษขนมปังช่วยให้ผมเป็นลอนสวย พันธุกรรมและจำนวนเส้นใยโปรตีนที่มีอยู่ในเส้นผมคือปัจจัยที่ทำให้เส้นผมมีลักษณะแตกต่างกัน การรับประทานเศษขนมปังกรอบจึงไม่อาจช่วยให้เส้นผมหยักศกเป็นลอนได้
- มีวิธีแก้ผมแตกปลายที่ดีกว่าการเล็มผม หากเปลือกผมถูกทำลาย จะทำให้ผมแตกปลายได้ โดยหลายคนเชื่อว่ามีวิธีรักษาผมแตกปลายวิธีอื่นที่ได้ผลกว่าการเล็มปลายผม แท้จริงแล้ว วิธีแก้ปัญหานี้ที่ดีที่สุดก็คือหมั่นเล็มปลายผมอย่างสม่ำเสมอ ผู้ที่ไม่ได้ดูแลผมด้วยวิธีดังกล่าวเป็นประจำจึงอาจเกิดเส้นผมแตกปลายได้
- ผมหงอกได้เพียงข้ามคืน ผู้ที่รู้สึกเครียดมาก ๆ อาจมีปัญหาผมร่วงเป็นหย่อม ๆ เนื่องจากความเครียดจะทำให้ผมค่อย ๆ ร่วงและบาง ส่งผลให้เห็นผมขาวได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ดี ผมหงอกหรือผมขาวไม่ได้เกิดขึ้นภายในข้ามคืน แต่ต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 วันหรือหลายสัปดาห์
- ดึงผมหงอก 1 เส้นจะขึ้นมาใหม่อีก 2 เส้น การถอนผมหงอกออกไป 1 เส้น ไม่ได้ทำให้ผมหงอกงอกขึ้นมาใหม่ 2 เส้นได้ แต่อาจทำให้ผมบางลง
- สระผมทุกวันทำให้ผมแห้ง ปัญหาผมแห้งเสียเกิดจากจัดแต่งทรงผมด้วยวิธีที่ใช้ความร้อน โดยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ทำผมที่ต้องใช้ความร้อนกับผมนั้นจะทำลายเส้นผม ส่วนการสระผมทุกวันไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ผมแห้งเสีย เพียงใช้ครีมนวดผมที่มีคุณภาพบำรุงผมหลังสระทุกครั้งก็พอ
- น้ำมะนาวกัดสีผมให้ซีด น้ำมะนาวไม่ได้มีฤทธิ์ทำลายสีผมให้จางลง เนื่องจากมีค่าความเป็นกรดน้อย ตรงกันข้าม กรดของน้ำมะนาวจะทำให้เส้นผมเรียบลื่นและเงางามมากขึ้น
- ใช้แชมพูและครีมนวดผมยี่ห้อเดิมทำให้เส้นผมเคยชิน เนื่องจากเส้นผมไม่มีหลอดเลือดหรือเส้นประสาทที่ตอบสนองต่อผลิตภัณฑ์เหล่านั้น ดังนั้น การใช้ยาสระผม ครีมนวดผม หรือผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมยี่ห้อเดิมไม่ได้ทำให้เส้นผมคุ้นชินกับผลิตภัณฑ์ที่ใช้จนใช้ไม่ได้ผลดีเหมือนเดิม
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผมสวย
- หมักครีมนวดผมข้ามคืนช่วยบำรุงผมมากขึ้น ครีมนวดผมช่วยบำรุงเส้นผมให้นุ่มชุ่มชื้น โดยเนื้อครีมจะซึมเข้าไปในเส้นผมได้มากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ใช้หมัก การหมักครีมนวดผมทิ้งไว้ข้ามคืนจะทำให้เส้นผมดูดซึมสารอาหารที่บำรุงเส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากครีมนวดผมบางชนิดใช้เวลาในการซึมเข้าสู่เส้นผมนานเป็นชั่วโมง การหมักผมข้ามคืนจึงช่วยให้เส้นผมดูดซึมสารอาหารได้อย่างครบถ้วน ต่างจากการหมักผมเพียงไม่กี่นาทีที่ทำให้เส้นผมดูดซึมสารอาหารจากครีมนวดผมได้ไม่เต็มที่
- ใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมอาจทำให้ผมเสียได้ เส้นผมจะขาดได้ง่ายหลังสระผม เน่ื่องจากเส้นผมสูญเสียความแข็งแรงเมื่อเปียกน้ำ จึงไม่ควรใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมแรง ๆ หลังสระผมหรือเม่ื่อเปียกน้ำ เพราะจะทำให้เส้นผมหักหรือทำลายผิวของเส้นผม ส่งผลให้ผมเสีย แตกปลาย หรือพันกันเป็นปม
- รวบผมตึงไปข้างหลังทำให้ศีรษะล้าน ผู้ที่มัดหรือรวบผมตึงมากเป็นเวลานานเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาผมร่วงได้ หรืออาจร้ายแรงจนทำให้ผมร่วงและไม่งอกขึ้นมาใหม่ ทางที่ดีจึงไม่ควรรวบผมตึงเป็นประจำ
- น้ำในสระว่ายน้ำเปลี่ยนสีผมได้ ผู้ที่ว่ายน้ำในสระกลางแจ้งอาจเสี่ยงสีผมเปลี่ยน แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าสถานที่ที่ว่ายน้ำนั้นเป็นสระในร่มหรือกลางแจ้ง เนื่องจากทองแดงหรือจุนสีที่อยู่ในท่อส่งน้ำของสระกลางแจ้งนั้นสามารถซึมเข้าไปภายในเส้นผมและทำลายสีผมได้
- ผมร่วงเพราะเครียดมาก ความเครียดนับเป็นปัจจัยหนึ่งที่อาจทำให้ผมร่วง อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นทันที แต่จะใช้เวลาหลายเดือน
- สระผมด้วยน้ำเย็นทำให้ผมเงางาม การสระผมด้วยน้ำเย็นจะช่วยให้เส้นผมเงางาม เนื่องจากน้ำเย็นกระตุ้นให้เปลือกผมปิดและเก็บกักความชื้นได้เร็ว ส่งผลให้ผมเงางามมากขึ้น
อยากผมสวยดูแลอย่างไรดี
วิธีบำรุงสุขภาพเส้นผมให้ดีและแข็งแรงนั้นมีหลากหลาย โดยการดูแลเส้นผมที่ปลอดภัยและได้ผลจริงเริ่มจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการบำรุงเส้นผมด้วยวิธีต่าง ๆ ดังนี้
การรับประทานอาหารเพื่อผมสวย
- เพิ่มโปรตีน การรับประทานอาหารที่ดีและครบถ้วนตามหลักโภชนาการช่วยให้สุขภาพผมและหนังศีรษะแข็งแรงได้ โดยเส้นผมที่มีสุขภาพดีจะประกอบด้วยโปรตีนจำนวนมาก จึงควรรับประทานโปรตีนให้ได้อย่างน้อยวันละ 45 กรัม เพราะหากร่างกายได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ อาจทำให้เส้นผมอ่อนแอ หักง่าย และสีผมจางลง ซึ่งอาหารที่เป็นแหล่งโปรตีนก็มีหลายอย่าง ได้แก่ เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เนื้อไก่ เนื้อเป็ด เนื้อปลา ถั่วต่าง ๆ ผลิตภัณฑ์เนยนมไขมันต่ำ และไข่ไก่ เป็นต้น
- กินธาตุสังกะสี ผู้ที่รับประทานธาตุสังกะสีน้อยเกินไปนั้นเสี่ยงเกิดสีผมจางได้ จึงควรรับประทานอาหารที่อุดมด้วยสังกะสีอย่างอัลมอนด์ วอลนัท ผักใบเขียว ผลไม้ รวมทั้งดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มที่ผสมวิตามินรวม หรืออาหารเสริมสังกะสีให้เพียงพอ เพื่อป้องกันปัญหานี้
- เสริมโอเมก้า 3 กรดโอเมก้า 3 จะช่วยกระตุ้นรูขุมขนและต่อมไขมันบนหนังศีรษะ ส่งผลให้สุขภาพหนังศีรษะดีขึ้น ซึ่งอาหารที่อุดมไปด้วยกรดไขมันชนิดนี้มีหลายอย่าง โดยมักพบในปลาน้ำเย็น เช่น แซลมอน ซาร์ดีน หรือทูน่า รวมถึงอาหารอื่น ๆ เช่น โยเกิร์ต คอตเทจชีส หรือธัญพืชต่าง ๆ
- รับประทานไบโอติน ผู้ที่ได้รับไบโอตินซึ่งเป็นวิตามินบีชนิดหนึ่งไม่เพียงพอ จะประสบภาวะขาดวิตามินบีอันเป็นเหตุให้ผมร่วงได้ โดยปรากฏหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชี้ให้เห็นว่าการรับประทานอาหารเสริมไบโอตินอาจช่วยลดปัญหาผมบาง อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานอาหารเสริมชนิดนี้
- กินธาตุเหล็กมากขึ้น การบริโภคธาตุเหล็กน้อยเกินไปอาจเสี่ยงต่อปัญหาผมหลุดร่วง จึงควรรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็กให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย เช่น หอยนางรม เนื้อสัตว์ ไข่แดง เครื่องในสัตว์ เมล็ดฟักทอง ผักปวยเล้ง หรือเมล็ดถั่วต่าง ๆ ส่วนผู้ที่ต้องการรับประทานอาหารเสริมธาตุเหล็กควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะการได้รับธาตุเหล็กจากอาหารเสริมในปริมาณมากอาจเป็นอันตรายได้
การบำรุงผมเพื่อผมสวย
- ดูแลผมให้เป็น การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมต่าง ๆ ควรพิจารณาเส้นผมของตนเองว่ามีลักษณะอย่างไร โดยดูชนิดหรือเนื้อเส้นผม ความถี่ในการดูแลเส้นผม และกิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อการเลือกใช้ยาสระผม ครีมนวดผม หรือผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมอื่น ๆ รวมทั้งเลือกวิธีดูแลเส้นผมที่เหมาะสมกับตนเอง เช่น ผู้ที่ผมมันง่ายอาจต้องสระผมทุกวัน หรือผู้ที่ผมแห้งควรเลี่ยงการสระผมบ่อย
- เลือกยาสระผม ควรเลือกยาสระผมและผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมที่เหมาะกับปัญหาและสภาพเส้นผมของตนเอง เนื่องจากการใช้ยาสระผมที่ไม่ตรงกับสภาพหรือปัญหาเส้นผมจะทำให้ผมเสียได้ ทั้งนี้ ควรเลี่ยงยาสระผมที่มีส่วนผสมบางอย่างที่อาจทำลายเส้นผม เช่น แอมโมเนียม ลอริล ซัลเฟต (Ammonium Lauryl Sulfate) หรือสารเอสแอลเอส (Sodium Lauryl Sulfate: SLS)
- ใช้ครีมนวดผม ครีมนวดผมจะช่วยให้ผมนุ่ม เงางาม และจัดทรงง่าย จึงควรบำรุงเส้นผมหลังสระทุกครั้งด้วยการหมักทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทั้งนี้ อาจเลือกครีมนวดผมคนละยี่ห้อกับยาสระผมที่ใช้ก็ได้ โดยเลือกครีมนวดผมที่ช่วยบำรุงเส้นผมตนเองอย่างเหมาะสม
- สระและแปรงผมให้ถูกวิธี โดยทั่วไปแล้ว ความถี่ในการสระผมของแต่ละคนขึ้นอยู่กับสภาพเส้นผม ผู้ที่ผมมันง่ายอาจสระผมวันละครั้ง ส่วนผู้ที่มีผมแห้งอาจสระผมวันเว้นวันหรือ 2วัน/ครั้ง โดยใช้ยาสระผมและครีมนวดผมในปริมาณที่พอเหมาะ รวมทั้งเลี่ยงใช้น้ำเย็นหรือร้อนมากเกินไปสระผม และไม่หวีผมหรือเช็ดผมด้วยผ้าขนหนูแรง ๆ ขณะผมยังเปียก
- บำรุงผมสม่ำเสมอ ควรดูแลและบำรุงเส้นผมให้ถูกต้องเป็นประจำ ดังนี้
- การเป่าผมควรเริ่มด้วยความร้อนระดับอ่อน แล้วค่อยเพิ่มระดับความร้อนตามต้องการ
- ปล่อยให้ผมแห้งเองตามธรรมชาติบ้าง ไม่ควรใช้ไดร์เป่าผมบ่อยเกินไป เพื่อเลี่ยงผมเสียจากการถูกความร้อนทำลาย
- ไม่ควรติดกิ๊บหรือปิ่นปักผมตรงบริเวณเดิมซ้ำ ๆ
- เลือกยาย้อมผมที่มีเฉดสีต่างจากสีผมธรรมชาติไม่เกินสามเฉดสี
- หมั่นนวดคลึงหนังศีรษะเป็นประจำ เพื่อกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนและช่วยให้เส้นผมงอกขึ้นมา
- ควรเล็มปลายผมทุก ๆ 10-12 สัปดาห์ เพื่อช่วยให้ผมแข็งแรงและป้องกันผมแตกปลาย