ผึ้งต่อยและวิธีดูแลตนเองเบื้องต้นที่ควรรู้

ผึ้งต่อยเป็นอาการบาดเจ็บที่พบได้ทั่วไปเมื่ออยู่กลางแจ้ง โดยส่วนใหญ่แล้วคนที่โดนผึ้งต่อยจะรู้สึกคล้ายถูกเข็มแทง รู้สึกปวด ร้อน หรือคันบริเวณที่โดนต่อยในทันที แต่อาการเจ็บปวดมักจะหายไปเองในช่วง 2–3 ชั่วโมง 

อย่างไรก็ตาม บางรายอาจเกิดอาการแพ้ชนิดรุนแรง (Anaphylaxis) จากการถูกผึ้งต่อยได้ แม้ว่ามีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก แต่ก็ร้ายแรงจนเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ ด้วยเหตุนี้ เราจึงควรเรียนรู้วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างถูกวิธีและสัญญาณของอาการแพ้อย่างรุนแรง เพื่อให้สามารถรับการรักษาได้ทันท่วงที

Bee,Stings,In,The,Hand,Of,A,Person

ผึ้งต่อย อาการเป็นอย่างไร 

ความรุนแรงจากการถูกผึ้งต่อยอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน มีทั้งอาการไม่รุนแรงไปจนถึงผู้ที่มีอาการแพ้อย่างรุนแรง

ในผู้ที่มีอาการไม่รุนแรงนั้นจะรู้สึกปวดแสบปวดร้อนทันทีบริเวณที่ถูกต่อย ไม่สบายตัวชั่วขณะ เกิดจุดสีแดงและมีรอยบวมขึ้นรอบ ๆ จุดนั้น หรือมีอาการคัน ซึ่งอาการเหล่านี้จะดีขึ้นและหายไปภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง

ในผู้ที่มีอาการรุนแรงปานกลางจากการถูกผึ้งต่อย มักจะมีอาการบวมแดงอย่างรุนแรง โดยอาจบวมมากขึ้นหลังถูกต่อยแล้ว 1–2 วัน และอาการเหล่านั้นอาจดีขึ้นภายในเวลา 5–10 วัน

ส่วนผู้ที่มีอาการแพ้อย่างรุนแรงหลังถูกผึ้งต่อย จะมีผื่นคันหรือมีอาการคันอย่างรุนแรง ลิ้นและคอบวม คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย เวียนหัว หมดสติ หายใจลำบาก ชีพจรเต้นเร็วหรือเบา และผิวเป็นสีซีด แม้ว่าจะพบผู้ที่มีอาการแพ้อย่างรุนแรงได้น้อย แต่หากถูกผึ้งหรือแมลงชนิดอื่น ๆ ต่อยซ้ำ ความเสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้พิษผึ้งอย่างรุนแรงก็อาจเพิ่มขึ้นได้ในอนาคตเช่นกัน

โดนผึ้งต่อย ควรทำอย่างไร

เมื่อถูกผึ้งต่อยแล้ว ควรรีบนำเหล็กในออกจากแผลทันทีโดยใช้ปลายเล็บหรือมุมบัตรแข็งดันเหล็กในออกมา จากนั้นล้างแผลให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่เพื่อบรรเทาความรุนแรงของอาการ ประคบน้ำแข็งบริเวณที่โดนต่อยประมาณ 20 นาที ทุก ๆ 1 ชั่วโมง

หากมีอาการคันหรือบวม สามารถกินยาแก้แพ้ (Antihistamines) เช่น ยาไดเฟนไฮดรามีน (Diphenhydramine) หรือยาลอราทาดีน (Loratadine) หรือหากรู้สึกปวดก็สามารถกินยาพาราเซตามอล (Paracetamol) หรือยาไอบูโพรเฟ่น (Ibuprofen) เพื่อบรรเทาอาการ

นอกจากนี้ แผลผึ้งต่อยยังสามารถบรรเทาอาการในเบื้องต้นได้ด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น

  • ทาน้ำผึ้งลงบนบริเวณที่ถูกต่อยเล็กน้อย เพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บ คัน และรักษาบาดแผล
  • นำเนื้อของใบว่านห่างจระเข้สดมาประคบลงบนแผลเพื่อบรรเทาความเจ็บ
  • นำเบคกิ้งโซดา (Baking Soda) ผสมน้ำเล็กน้อย ทาลงบนแผลและปิดปากแผลด้วยพลาสเตอร์ เพื่อบรรเทาอาการเจ็บ คันและบวมที่เกิดจากพิษของผึ้ง
  • ผสมน้ำมันลาเวนเดอร์เข้ากับน้ำมันมะพร้าว และหยดลงบนบาดแผล 2–3 หยด ซึ่งน้ำมันลาเวนเดอร์มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและบรรเทาอาการบวม
  • ทายาไฮโดรคอร์ติโซน (Hydrocortisone) หรือคาลาไมน์ (Calamine Lotion) เพื่อลดรอยแดงและบรรเทาอาการคัน

อาการผึ้งต่อยที่ควรไปพบแพทย์

ผู้ที่ถูกผึ้งต่อยควรสังเกตอาการของตนเองอยู่เสมอ หากอาการผึ้งต่อยไม่ดีขึ้นภายในเวลา 2–3 วัน ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม แต่หากมีอาการแพ้อย่างรุนแรง เช่น เกิดผื่นลมพิษ หายใจเป็นเสียงหวีดหรือหายใจลำบาก กลืนลำบาก เวียนหัว รู้สึกคล้ายจะเป็นลม หรือมีอาการไม่สบาย ควรเรียกรถฉุกเฉินเพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด เนื่องจากอาการแพ้ที่เกิดขึ้นหลังการถูกผึ้งต่อยนั้นอาจรุนแรงจนทำให้เสียชีวิต

ทั้งนี้ การป้องกันตนเองจากการถูกผึ้งต่อยทำได้ด้วยการระมัดระวังการดื่มเครื่องดื่มที่มีรสหวานกลางแจ้ง สวมเสื้อผ้าที่ปกปิดร่างกายอย่างมิดชิด ปิดภาชนะบรรจุอาหารและถังขยะให้มิดชิด ทำความสะอาดร่างกายอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่มีกลิ่นหอมหวานดึงดูดผึ้ง ทำความสะอาดบริเวณบ้านไม่ให้มีเศษอาหาร เศษผลไม้หรือมูลสัตว์ และสิ่งสำคัญคือ หากมีผึ้งหรือแมลงมีพิษเข้ามาใกล้ ไม่ควรใช้มือปัดเพราะอาจทำให้ถูกแมลงกัดหรือต่อยได้