ฝันเปียก เป็นอาการที่ผู้ชายตื่นขึ้นมาแล้วพบว่ามีคราบน้ำอสุจิเหนียวแฉะหลั่งออกมาจากอวัยวะเพศ โดยที่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์จริง ๆ หรือมีการช่วยตัวเองแต่อย่างใด แต่เกิดจากการฝันเกี่ยวกับเรื่องเพศหรือฝันว่ามีเพศสัมพันธ์ในขณะนอนหลับ ทำให้ร่างกายมีการตอบสนองทางเพศจนไปถึงจุดสุดยอด (Orgasm) และหลั่งอสุจิออกมาโดยไม่รู้ตัว ซึ่งในบางครั้งอาจไม่สามารถจดจำความฝันที่ทำให้เกิดฝันเปียกได้
การฝันเปียกเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการเจริญเติบโตของผู้ชายในวัยเจริญพันธุ์ โดยร่างกายจะมีการผลิตฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน (Testosterone) ซึ่งฮอร์โมนนี้จะส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์ในรูปแบบของการผลิตสเปิร์มหรือน้ำอสุจินั่นเอง
ตอบคำถามเรื่องเกี่ยวกับฝันเปียกที่หนุ่ม ๆ ต้องรู้
หลายคนอาจมีข้อสงสัยเกี่ยวกับฝันเปียก ซึ่งพบแพทย์ได้รวบรวมข้อมูลที่คุณอยากทราบเอาไว้ในบทความนี้
1. ใครบ้างที่ฝันเปียกได้
ฝันเปียกมักเกิดขึ้นกับวัยรุ่นเพศชายที่กำลังเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ ตลอดจนชายหนุ่มในวัยเจริญพันธุ์ และเพศชายที่เป็นผู้ใหญ่เต็มตัว อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่จะเคยมีประสบการณ์ฝันเปียก
2. ผู้หญิงฝันเปียกได้หรือไม่
ผู้หญิงไม่สามารถหลั่งน้ำอสุจิออกมาเมื่อถึงจุดสุดยอดทางเพศสัมพันธ์ได้เหมือนผู้ชาย ผู้หญิงจึงไม่มีอาการฝันเปียก แต่ผู้หญิงสามารถฝันเกี่ยวกับเรื่องเพศ และมีการตอบสนองทางเพศต่อความฝันนั้นจนไปถึงจุดสุดยอดได้เช่นเดียวกัน เพียงแต่จะพบได้น้อยและไม่บ่อยเท่าในเพศชาย
3. ฝันเปียก เป็นความปกติหรืออาการเจ็บป่วยหรือไม่
ฝันเปียกไม่ใช่อาการเจ็บป่วยหรือสัญญาณของโรคร้ายแรง แต่เป็นเพียงหนึ่งในกระบวนการพัฒนาเติบโตตามวัยในเพศชายเท่านั้น
4. ไม่เคยฝันเปียกเลย ผิดปกติไหม
ไม่ผิดปกติ แม้ฝ้นเปียกจะเป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการตามวัยในเพศชาย แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เคยฝันเปียก บางคนอาจไม่เคยฝันเปียกมาก่อนเลย ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดปกติ
5. ฝันเปียกเป็นประจำ ผิดปกติหรือไม่
ฝันเปียกบ่อย ๆ ไม่ใช่เรื่องผิดปกติหรือน่าวิตกกังวล เนื่องจากฝันเปียกเป็นเรื่องปกติในพัฒนาการทางเพศของผู้ชาย ซึ่งแต่ละคนก็แตกต่างกันไป บางคนไม่เคยฝันเปียกเลย บางคนฝันเปียกหลายครั้งต่อสัปดาห์ โดยอาการฝันเปียกจะลดลงหรือหายไปเมื่อผู้ชายได้หลั่งอสุจิออกไปผ่านการช่วยตัวเองหรือการมีเพศสัมพันธ์
6. ควรทำอย่างไรเมื่อตื่นมาแล้วพบว่าฝันเปียก
เมื่อตื่นขึ้นมาพบคราบน้ำอสุจิจากการฝันเปียก ผู้ชายควรล้างทำความสะอาดอวัยวะเพศทั้งบริเวณองคชาต หนังหุ้มปลายองคชาต และถุงอัณฑะด้วยสบู่กับน้ำสะอาด
7. ทำไมจึงเกิดความฝันเรื่องเพศที่นำไปสู่ฝันเปียก
การฝันในขณะนอนหลับเกิดจากกิจกรรม ความคิด หรือเหตุการณ์ที่ถูกเก็บกดไว้ในจิตใต้สำนึก เรื่องเพศก็เป็นหนึ่งในแรงขับที่มีอิทธิพลต่อมนุษย์ แต่ด้วยปัจจัย กฎเกณฑ์ ศาสนา หรือข้อจำกัดต่าง ๆ ในการใช้ชีวิต ทำให้แรงขับและความต้องการทางเพศบางประการถูกเก็บกดไว้ในจิตใต้สำนึกลึก ๆ ของบุคคล และถูกปลดปล่อยออกมาในรูปแบบของความฝัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้
โดยตัวอย่างความฝันเรื่องเพศที่อาจเกิดขึ้นมีดังนี้
ประสบการณ์ในอดีต
อาจฝันถึงการมีเพศสัมพันธ์กับคนรักที่เพิ่งเลิกรากันไปแล้วยังไม่สามารถทำใจลืมได้ หรืออาจฝันถึงการมีเพศสัมพันธ์กับคนรักเก่าทั้ง ๆ ที่มีคนรักคนใหม่แล้ว เนื่องจากการมีเพศสัมพันธ์กับคนใหม่อาจไปกระตุ้นความคิดความรู้สึกที่อยู่ในความทรงจำลึก ๆ บางอย่างขึ้นมา แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความทรงจำทางเพศที่สร้างขึ้นกับคนรักใหม่จะทำให้ความทรงจำเกี่ยวกับคนรักเก่าค่อย ๆ เลือนหายไป
การเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า
อาจฝันถึงการมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าหรือคนที่ไม่รู้จักกันในชีวิตจริง โดยสมองจะปลดปล่อยความปรารถนาทางเพศในรูปลักษณ์หรือบุคคลแบบที่ตนชื่นชอบออกมา เช่น ดารานักแสดง บุคคลที่มีชื่อเสียง
การเติมเต็มเพศสัมพันธ์
อาจเป็นการฝันถึงขั้นตอนการพูดคุยก่อนการมีเพศสัมพันธ์ การเล้าโลม การกระตุ้นเร้าด้วยสิ่งแปลกใหม่เพิ่มความตื่นเต้นเร้าใจในเพศสัมพันธ์มากขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจเป็นสิ่งที่ขาดหาย ไม่กล้าพูดหรือกระทำกับคู่ของตนในชีวิตจริง แต่เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความพึงพอใจและความสุขทางเพศ
8. ฝันเปียก รักษาหรือป้องกันได้หรือไม่
ฝันเปียกเป็นเพียงการตอบสนองของร่างกายต่อฮอร์โมนเพศที่เปลี่ยนแปลงในเพศชาย คล้ายกับการมีประจำเดือนในเพศหญิง ไม่ใช่อาการเจ็บป่วยที่ต้องรักษา และไม่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพหรือกระทบต่อการเจริญพันธุ์แต่อย่างใด และเนื่องจากฝันเปียกเป็นกระบวนการตามธรรมชาติ จึงไม่มีวิธีที่จะสามารถป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม แม้เรื่องที่ฝันจะทำให้มีความสุข สนุก ผ่อนคลายจนนำไปสู่จุดสุดยอด และการเกิดฝันเปียกถือเป็นเรื่องธรรมชาติของผู้ชาย แต่หากความฝันเรื่องเพศที่ทำให้เกิดฝันเปียกนั้นรบกวนจิตใจ ทำให้เกิดความอับอาย รู้สึกผิด วิตกกังวล หรือหวาดหวั่นเกี่ยวกับสิ่งที่ฝัน เช่น ความรุนแรงทางเพศ การร่วมประเวณีในสายเลือด
ควรปรึกษาผู้ปกครอง อาจารย์ที่ปรึกษา หรือปรึกษาแพทย์ เพราะการพูดคุยทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น จะทำให้เกิดความสบายใจ ลดความวิตกกังวลลง ตลอดจนเข้าใจธรรมชาติของร่างกาย เพื่อเรียนรู้และปรับตัวตามขั้นพัฒนาการตามวัยได้อย่างเหมาะสม