สารส้ม รู้จักประโยชน์และข้อควรรู้เพื่อการใช้อย่างปลอดภัย

สารส้ม หรืออลัม (Alum) มีลักษณะเป็นก้อนผลึกสีใส มีคุณสมบัติในการช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย จึงนิยมนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นตัว เช่น สารส้มทารักแร้ นอกจากนี้ สารส้มมีราคาถูก หาซื้อง่าย และมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกหลายด้าน เช่น ใช้บำรุงผิวหลังจากการกำจัดขน หรือใช้แก้ปัญหาน้ำขุ่นในเบื้องต้นได้ด้วย

สารส้มเป็นแร่ธาตุ ที่ประกอบด้วยอะลูมิเนียมเป็นส่วนประกอบหลัก แบ่งได้เป็นหลายชนิด เช่น อะลูมิเนียมอลัม ซึ่งมักอยู่ในรูปแบบผลึกใสหรือสีขาว และโพแทสเซียมอลัม (Potassium Alum) ซึ่งนิยมใช้ในวงการเครื่องสำอาง สารส้มแต่ละชนิดมีประโยชน์และการใช้ที่แตกต่างกันไป จึงควรศึกษาวิธีการใช้ที่ถูกต้องเพื่อให้สามารถใช้สารส้มได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สารส้ม

4 คุณประโยชน์ของสารส้มที่คุณอาจยังไม่รู้

สารส้มเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่มีประโยชน์หลากหลายด้าน โดยเฉพาะประโยชน์ในการดูแลสุขภาพ ตัวอย่างประโยชน์ของสารส้มที่คุณอาจยังไม่รู้มีดังนี้

1. ช่วยระงับกลิ่นตัวและกลิ่นใต้วงแขน

สารส้มชนิดโพแทสเซียมอลัมมักถูกนำมาใช้เป็นผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย เช่น สารส้มทารักแร้ เพราะมีคุณสมบัติในการช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย จึงสามารถช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ใต้วงแขนหรือกลิ่นตัวต่าง ๆ ได้ รวมถึงสามารถช่วยให้ใต้วงแขนแห้งสบาย ไม่เหนียวเหนอะหนะตลอดทั้งวันด้วย

นอกจากสารส้มทารักแร้จะอยู่ในรูปแบบก้อนแล้ว ในปัจจุบันยังมีผลิตภัณฑ์จากสารส้มที่อยู่ในรูปแบบของสเปรย์ โรลออน เจล หรือผงแป้งด้วย ซึ่งสามารถเพิ่มความสะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น 

โดยสารส้มทารักแร้มักไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำหอม สารระงับเหงื่อ หรือสารกันเสียอย่างพาราเบน เหมือนกับที่ทารักแร้ชนิดอื่น  แต่อาจมีการใส่ส่วนผสมจากธรรมชาติอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น สารสกัดจากขมิ้น ว่านหางจระเข้ หรือน้ำมันมะพร้าว จึงสามารถช่วยดูแลปัญหาผิวใต้วงแขนอย่างอ่อนโยน โดยไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองตามมา

2. ช่วยดูแลผิวหนังหลังจากการกำจัดขน

สารส้มอาจช่วยดูแลและปลอบประโลมผิวหนังหลังจากการกำจัดขนด้วยการโกน เช่น การโกนหนวด ได้ โดยคุณสมบัติในการช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียของสารส้มจะช่วยลดอาการระคายเคืองและการอักเสบของผิวหนัง รวมถึงอาจช่วยห้ามเลือดในบริเวณผิวหนังที่อาจโดนคมของใบมีดบาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วย

วิธีการใช้สารส้มหลังจากการโกนผิวหนังคือ

  • หลังจากโกนขนเสร็จให้ใช้น้ำเย็นล้างสบู่หรือครีมโกนขนออกจากผิวหนังให้หมด
  • จุ่มผลึกสารส้มลงในน้ำเย็นให้พอเปียก แล้วนำมาทาลงบนผิวหนังให้ทั่ว หรือใช้สารส้มแบบแท่ง (Styptic Pencil) ทาที่ผิวหนัง แล้วทิ้งไว้ประมาณ 15–20 วินาที 
  • เมื่อครบเวลาให้ใช้น้ำเย็นล้างทำความสะอาดผิวหนังอีกครั้ง ซับให้แห้งและทาครีมบำรุงผิวได้ตามปกติ

3. อาจช่วยลดสิวและรอยสิว

สารส้มอาจช่วยรักษาปัญหาสิวและรอยสิวบนผิวหนังได้ เพราะสารส้มมีคุณสมบัติในการช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและทำความสะอาดรูขุมขน ซึ่งรูขุมขนที่ไม่สะอาดมักเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิวได้ อีกทั้งยังอาจช่วยสมานแผลจากรอยสิว ทำให้รอยสิวดูจางลง และส่งผลให้ผิวหนังโดยเฉพาะผิวหน้าดูเรียบเนียน กระชับ หรือกระจ่างใสขึ้นได้

อย่างไรก็ดี ยังไม่มีผลการศึกษาที่ระบุชัดเจนเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการใช้สารส้มในการลดสิวและรอยสิว จึงอาจต้องรอการศึกษาเพิ่มเติมในอนาคตต่อไป

4. อาจช่วยแก้ปัญหาน้ำขุ่นในเบื้องต้น

สารส้มอาจมีคุณสมบัติในการช่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำที่ขุ่นและมีตะกอนให้สามารถนำไปใช้ในครัวเรือนได้ โดยการนำสารส้มมาแกว่งในน้ำ จะช่วยให้น้ำตกตะกอนและใสขึ้น จึงสามารถนำน้ำไปกรองต่อโดยไม่เกิดการอุดตันของตะกอนในเครื่องกรองน้ำ หรือช่วยให้เครื่องกรองน้ำไม่ทำงานหนักจนเกินไป นอกจากนี้ สามารถนำน้ำไปบริโภคได้แต่ต้องผ่านการต้มก่อน

ข้อควรรู้เพื่อการใช้สารส้มอย่างถูกต้องและปลอดภัย

การรู้วิธีการใช้สารส้มอย่างถูกต้อง รวมถึงข้อควรระวังต่าง ๆ จะช่วยให้คุณสามารถใช้สารส้มได้อย่างปลอดภัยและเกิดประโยชน์มากที่สุด โดยสิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้สารส้มมีดังนี้

  • ก่อนนำสารส้มมาใช้ทาผิวหนัง ควรตรวจสอบสารส้มว่าเรียบเนียน ไม่มีรอยแตกหรือเหลี่ยมมุมที่แหลมคม เพราะอาจบาดผิวหนังจนเกิดบาดแผลได้
  • การใช้สารส้มทารักแร้ควรใช้หลังอาบน้ำทันทีในขณะที่ผิวเปียกหรือชื้นเล็กน้อย หรือนำสารส้มไปผ่านน้ำเพื่อให้สารส้มเปียกก่อน แล้วจึงนำมาทาผิวหนังบริเวณใต้วงแขนให้ทั่ว
  • การใช้สารส้มทารักแร้จะช่วยกำจัดแบคทีเรียใต้วงแขนและช่วยระงับกลิ่น แต่ไม่สามารถช่วยลดการหลั่งเหงื่อได้ ผู้ที่มีปัญหาเหงื่อออกมากอาจต้องใช้ผลิตภัณฑ์อื่น หรืออาจปรึกษาแพทย์
  • การใช้สารส้มทารักแร้อาจทำให้เกิดผื่นคัน รอยแดง หรือมีอาการระคายเคืองได้ในบางคน หากมีอาการระคายเคืองรุนแรงควรหยุดใช้สารส้มและใช้ผลิตภัณฑ์อื่นแทน หรืออาจปรึกษาแพทย์
  • การจัดเก็บสารส้มควรตากสารส้มให้แห้งสนิทก่อนและระมัดระวังเรื่องความอับชื้น โดยควรเก็บสารส้มไว้ในที่แห้ง เย็น และมีอากาศถ่ยเทสะดวก เพื่อรักษาอายุการใช้งานของสารส้ม

สารส้มมีหลายประเภท ซึ่งมีประโยชน์และวิธีใช้ที่แตกต่างกัน ควรศึกษาวิธีการใช้หรือข้อควรระวังของผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด โดยการอ่านฉลากอย่างถี่ถ้วนก่อนใช้งาน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพตามมา 

หากเกิดอาการระคายเคืองที่ผิวหนังหลังจากใช้สารส้ม เช่น ผิวแดง แห้งตึง แสบ คัน ควรล้างผิวหนังบริเวณที่ทาสารส้มออกให้สะอาด และหยุดใช้ต่อ กรณีที่เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง เช่น ผื่นลมพิษขึ้น ใบหน้าและปากบวม หายใจลำบากหรือมีเสียงหวีด หัวใจเต้นเร็ว คลื่นไส้ อาเจียน เป็นลม ควรรีบไปพบแพทย์ทันที