รู้จักแมงกินฟัน พร้อมวิธีป้องกันก่อนเกิดฟันผุ

แมงกินฟันเป็นความเชื่อที่คนไทยหลายคนเคยได้ยินว่า ถ้าหากไม่แปรงฟันหรือไม่รักษาความสะอาดภายในช่องปาก อาจมีแมงมากินฟัน และทำให้เกิดฟันผุได้ อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจสงสัยว่าแมงกินฟันมีอยู่จริงหรือเป็นเพียงแค่ความเชื่อเท่านั้น ซึ่งการรู้คำตอบนี้อาจช่วยให้สามารถรับมือและป้องกันแมงกินฟันได้ดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ไม่ว่าฟันผุจะเกิดจากแมงกินฟันหรือเกิดจากสาเหตุอื่น ฟันผุยังคงเป็นปัญหาสุขภาพภายในช่องปากที่อาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เพราะอาจทำให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น ปวดฟัน เสียวฟัน ปวดฟันเมื่อเคี้ยวอาหาร ฟันเป็นรู และฟันหลุด หากสังเกตเห็นอาการฟันผุต่าง ๆ ควรรีบไปพบทันตแพทย์เพื่อทำการรักษาก่อนที่อาการจะรุนแรงยิ่งขึ้น

แมงกินฟัน

รู้จักแมงกินฟัน มีอยู่จริงหรือแค่ความเชื่อ

แมงกินฟันเป็นเพียงความเชื่อเท่านั้น โดยก่อนที่จะมีเทคโนโลยีหรืออุปกรณ์ที่ทันสมัยที่ช่วยในการวิเคราะห์สาเหตุของการเกิดฟันผุ มนุษย์อาจเชื่อว่ามีแมงตัวเล็ก ๆ คอยกัดกินเนื้อฟันอยู่ จึงทำให้ฟันเป็นรูและเกิดเป็นฟันผุขึ้น โดยความเชื่อเกี่ยวกับแมงกินฟันไม่ได้มีเพียงแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังอาจมีอีกหลายประเทศทั่วโลกที่มีความเชื่อคล้ายกัน

โดยปกติแล้ว ฟันผุมักเกิดจากคราบพลัคที่สะสมอยู่บนผิวฟัน ซึ่งเป็นคราบที่เกิดจากการรวมตัวกันของเศษอาหาร แบคทีเรียภายในช่องปาก และน้ำลาย 

เมื่อเศษอาหารที่มีน้ำตาลติดอยู่ตามซอกฟันเป็นเวลานาน โดยไม่มีการแปรงฟันหรือทำความสะอาดภายในช่องปาก แบคทีเรียในคราบพลัคอาจย่อยน้ำตาลออกมาเป็นกรด โดยกรดจะกัดกร่อนชั้นเคลือบฟัน และทำให้เกิดรูบนฟัน ซึ่งเป็นสัญญาณของอาการฟันผุ ดังนั้น แมงกินฟันจึงอาจหมายถึงเชื้อแบคทีเรียนั่นเอง

ทั้งนี้ หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา แบคทีเรียและกรดอาจแพร่กระจายเข้าสู่ชั้นโพรงประสาทฟัน อาจทำให้เกิดการติดเชื้อ และทำให้รู้สึกปวดฟันอย่างรุนแรงได้

วิธีป้องกันแมงกินฟันเพื่อลดโอกาสเกิดฟันผุ

ปัญหาแมงกินฟันหรือสาเหตุที่ทำให้เกิดฟันผุสามารถป้องกันได้ด้วยการรักษาสุขอนามัยภายในช่องปาก ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี เช่น 

  • แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ควรเลือกใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์และแปรงสีฟันที่มีขนแปรงนุ่ม อีกทั้งยังควรทำความสะอาดลิ้น เพราะแบคทีเรียสามารถเกาะอยู่บนลิ้นได้เช่นกัน
  • ใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง เพื่อขจัดเศษอาหารที่อาจติดอยู่ตามซอกฟัน
  • ใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนช่วยในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย อาจช่วยลดปริมาณของแบคทีเรียในช่องปาก ลดคราบพลัค และช่วยขจัดเศษอาหารที่อาจติดอยู่ตามซอกฟันได้ 
  • จำกัดปริมาณการกินของหวานหรือน้ำหวาน เพราะการกินของหวาน ลูกอม หรือน้ำหวานมากเกินไปอาจช่วยให้แบคทีเรียย่อยน้ำตาลออกมาเป็นกรด และกัดกร่อนชั้นเคลือบฟัน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดฟันผุตามมา 
  • ไปพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและทำความสะอาดฟัน โดยการไปพบทันตแพทย์อาจช่วยให้ตรวจพบปัญหาสุขภาพช่องปากตั้งแต่เนิ่น ๆ และได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

ถึงแม้ว่าแมงกินฟันจะไม่มีอยู่จริง แต่ปัญหาสุขภาพภายในช่องปากอย่างฟันผุยังคงไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม ดังนั้น การไปพบทันตแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการฟันผุจึงเป็นสิ่งสำคัญที่อาจช่วยป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงขึ้น หรือมีภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เกิดขึ้น เช่น ฟันหัก ฟันหลุด หรือฝีในฟัน นอกจากนี้ หากอาการฟันผุรุนแรงมาก อาจส่งผลให้ไม่สามารถรักษาได้และจำเป็นต้องถอนฟันซี่นั้นออก