รู้หรือไม่ อาหารบางชนิดควรหลีกเลี่ยงเมื่อมีอาการร้อนในหรือเกิดแผลในปาก เพราะอาจทำให้แผลร้อนในอักเสบเพิ่มขึ้นและหายช้าลงได้ แต่หากคุณรู้ว่าเมื่อเป็นร้อนในห้ามกินอะไร คุณก็จะสามารถระมัดระวังในการเลือกกินอาหาร และสามารถช่วยบรรเทาอาหารอักเสบเจ็บปวดของแผลร้อนในได้
แผลร้อนในส่วนใหญ่จะมีอาการไม่รุนแรงและสามารถหายเองได้โดยไม่จำเป็นต้องรักษา โดยจะมีอาการเจ็บปวดภายในปากบริเวณที่เป็นแผลประมาณ 3–5 วัน และมักจะหายดีภายในเวลา 2 สัปดาห์ ซึ่งในระหว่างที่มีแผลร้อนในนั้น ควรหลีกเลี่ยงอาหารบางชนิดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการอักเสบรุนแรงขึ้น และอาจช่วยให้แผลร้อนในหายได้เร็วขึ้นได้ด้วย
อาหาร 4 ชนิดที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อเกิดแผลร้อนใน
หากสงสัยว่าเมื่อเป็นร้อนในห้ามกินอะไร บทความนี้จะพาไปรู้จักกับอาหาร 4 ชนิดที่อาจทำให้อาการอักเสบของแผลร้อนในรุนแรงขึ้นได้ เพื่อให้ผู้อ่านทุกคนสามารถหลีกเลี่ยงได้อย่างเหมาะสม ดังนี้
1. อาหารรสจัดและอาหารที่มีกรด
อาหารรสจัด โดยเฉพาะอาหารรสเผ็ดและอาหารรสเค็ม รวมถึงอาหารที่มีกรดเป็นส่วนประกอบ เช่น ส้มตำ ยำ ต้มยำ หรืออาหารที่มีส่วนผสมของเครื่องแกง เมื่อกินเข้าไปอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองแผลร้อนใน ทำให้รู้สึกเจ็บปวดมากขึ้น และอาจทำให้อาการอักเสบของแผลร้อนในรุนแรงขึ้นได้
2. ผลไม้รสเปรี้ยว
ผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้ม ส้มโอ สับปะรด หรือมะนาว ควรหลีกเลี่ยงเมื่อมีแผลร้อนใน เพราะผลไม้เหล่านี้มีกรดมาก จึงอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองแผลร้อนใน และทำให้อาการอักเสบของแผลร้อนในรุนแรงขึ้นได้ นอกจากนี้ น้ำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น น้ำส้ม หรือน้ำมะนาว ก็ควรหลีกเลี่ยงเช่นกัน
3. อาหารที่เคี้ยวยาก
อาหารที่ลักษณะกรอบ เหนียว หรือแข็ง เช่น ขนมขบเคี้ยว หมากฝรั่ง หรือลูกอม ควรหลีกเลี่ยงเมื่อเกิดแผลร้อนใน เพราะอาหารเหล่านี้เคี้ยวยาก และอาจเหนียวจนติดในซอกฟันจนต้องแปรงฟันอย่างรุนแรง ซึ่งการแปรงฟันอย่างรุนแรงสามารถทำให้แผลร้อนในอักเสบมากขึ้นได้ นอกจากนี้ หากแปรงฟันไม่สะอาดก็อาจทำให้เกิดการสะสมของแบคทีเรีย และส่งผลให้แผลอักเสบมากขึ้นด้วย
4. เครื่องแอลกอฮอล์ คาเฟอีน และน้ำอัดลม
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น เบียร์ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ ชา รวมถึงน้ำอัดลม เป็นเครื่องดื่มที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อเกิดแผลในปาก เพราะอาจทำให้อาการระคายเคืองและอาการอักเสบของแผลร้อนในรุนแรงขึ้น และทำให้แผลร้อนในหายช้าได้
วิธีง่าย ๆ ในการดูแลแผลร้อนในให้หายเร็ว
นอกจากการรู้ว่าเมื่อเป็นร้อนในห้ามกินอะไร และสามารถเลือกกินอาหารได้อย่างเหมาะสมแล้ว การรู้วิธีดูแลแผลร้อนในง่าย ๆ ด้วยตัวเองก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยวิธีการดูแลแผลร้อนในให้หายเร็วมีหลายวิธี ดังนี้
- รับประทานอาหารอ่อน เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก หรือต้มซุป เพื่อช่วยลดอาการระคายเคืองของแผลร้อนใน
- ดื่มน้ำมาก ๆ ตามปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันอย่างเพียงพอ
- บ้วนปากด้วยน้ำเกลืออุ่นวันละประมาณ 2–3 ครั้ง เพื่อช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียในช่องปาก
- ควรแปรงฟันตามปกติเพื่อป้องกันการสะสมของแบคทีเรียที่อาจทำให้อาการอักเสบของแผลร้อนในรุนแรงขึ้นได้ แต่ควรใช้แปรงสีฟันขนอ่อน และแปรงฟันเบา ๆ เพื่อช่วยลดความเจ็บปวด
- ใช้ไหมขัดฟันและน้ำยาบ้วนปากเพื่อทำความสะอาดช่องปากร่วมด้วย แต่ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองแผลร้อนในได้
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และรับประทานอาหารครบ 5 หมู่ เพื่อให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วนและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
บทความนี้คงจะช่วยไขข้อข้องใจของใครหลายคนที่ว่าเมื่อเป็นร้อนในห้ามกินอะไร และช่วยให้สามารถเลือกรับประทานอาหารที่ไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองในช่องปากได้แล้ว อีกทั้ง วิธีการดูแลตัวเองข้างต้นก็คงจะช่วยให้สามารถรับมือเมื่อเกิดแผลร้อนในได้อย่างเหมาะสม และส่งผลให้แผลร้อนในหายเร็วขึ้นได้ด้วย