ใบหน้าเรียวเล็กเป็นค่านิยมด้านความงามที่หลายคนให้ความสนใจ คนที่มีแก้มเยอะจึงมักสรรหาวิธีลดแก้มเพื่อลดขนาดใบหน้าให้ดูเรียวขึ้น แต่ก่อนจะลองทำตามวิธีลดแก้มที่เห็นกันทั่วไป เราควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับขนาดของแก้มกันก่อน
ขนาดของแก้มนั้นอาจขึ้นอยู่กับไขมันสะสมภายในร่างกายเป็นหลัก ซึ่งการจะลดไขมันเฉพาะบริเวณแก้มอย่างเดียวเท่านั้นไม่สามารถทำได้ด้วยวิธีธรรมชาติ แต่จำเป็นต้องใช้ขั้นตอนทางการแพทย์เข้ามาแก้ไขปัญหานี้ แต่ใครที่ตั้งใจจะลดแก้ม ลดน้ำหนัก ลดไขมันสะสม และลดสัดส่วนร่างกาย วิธีธรรมชาตินับเป็นทางเลือกที่เหมาะสมและมีความเสี่ยงน้อยกว่า โดยในบทความนี้ได้รวบรวมวิธีลดแก้มหลากหลายวิธีมาให้ได้อ่านกัน
4 วิธีธรรมชาติลดแก้มด้วยตนเอง
อย่างที่ได้รู้ไปตอนต้นว่าการลดแก้มด้วยวิธีธรรมชาตินั้นไม่สามารถลดไขมันเฉพาะจุดได้ อีกทั้งต้องใช้เวลาและวินัย แต่ก็แลกมาด้วยสุขภาพที่ดีและความเสี่ยงที่น้อย หากใครที่ต้องการดูแลสุขภาพ ลดแก้ม และลดสัดส่วน วิธีเหล่านี้อาจช่วยได้ไม่น้อย
1. คาร์ดิโอ
ใครที่คาดว่าตนเองมีไขมันสะสมเยอะ การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดแก้มและสัดส่วน เพราะคาร์ดิโอขึ้นชื่อในเรื่องการกำจัดพลังงานส่วนเกินจากการกินอาหารมากเกินไปในแต่ละวัน และหากคาร์ดิโอต่อเนื่องกันจะช่วยลดไขมันสะสมภายในร่างกายได้
สำหรับใครที่อยากลดไขมัน ควรออกกำลังกายแบบคาร์ดิโออย่างน้อย 20-40 นาที/วัน หรือ 150-300 นาที/สัปดาห์เป็นประจำ ตัวอย่างการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เช่น เดิน เดินเร็ว วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน และเต้นซุมบ้า เป็นต้น นอกจากนี้คาร์ดิโอยังกระตุ้นการเผาผลาญพลังงานซึ่งอาจช่วยลดน้ำหนักได้
2. คุมอาหาร
เพื่อลดปริมาณไขมันสะสมอย่างเห็นผล ควรคุมอาหารด้วยวิธีการต่อไปนี้ควบคู่กับการออกกำลังกาย
- ลดปริมาณไขมันต่อวันเพื่อป้องกันการได้รับพลังงานส่วนเกินซึ่งอาจเพิ่มไขมันสะสมในร่างกาย ด้วยการเลี่ยงอาหารไขมันสูง ของทอด ของมัน ของหวาน และอาหารฟาสต์ฟู้ด เปลี่ยนไปกินอาหารไขมันต่ำและโปรตีนสูง อย่างอกไก่ เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เนื้อปลา และนมไขมันต่ำ
- คุมแป้งและน้ำตาล เพราะทั้ง 2 อย่างจัดเป็นคาร์โบไฮเดรตซึ่งเป็นสารอาหารที่ให้พลังงานสูง การกินอาหารประเภทนี้มากเกินไปในแต่ละวัน ร่างกายจะเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตเป็นไขมันสะสม จึงควรปรับปริมาณข้าวและแป้งให้น้อยลง หรือปรับเปลี่ยนกินคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง และธัญพืชขัดสีน้อย รวมถึงลดของหวาน น้ำหวาน น้ำอัดลม ขนมขบเคี้ยว
- จำกัดโซเดียม อย่างที่หลายคนเคยได้ยินมาว่าโซเดียมทำให้ตัวบวม ซึ่งความเชื่อนี้เป็นเรื่องจริง โซเดียมจะทำให้ร่างกายดูดน้ำไว้มากขึ้น ทำให้แก้มและร่างกายของเราดูบวมขึ้นได้ ดังนั้นการลดอาหารประเภทนี้ก็จะช่วยลดแก้มได้ หากใครชอบกินเค็ม อาหารสำเร็จรูป และอาหารรสจัดคงต้องลดให้น้อยลง
นอกจากนี้ควรกินผักผลไม้ที่มีไฟเบอร์หรือใยอาหารสูง เพราะงานศึกษาหลายชิ้นพบว่าการกินอาหารที่มีไฟเบอร์เป็นประจำมีส่วนช่วยลดไขมันสะสม อีกทั้งผักผลไม้ยังมีสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้สุขภาพดี และช่วยบำรุงผิวพรรณได้
3. ดื่มน้ำให้มากขึ้น
น้ำเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายทำงานได้เป็นปกติ ไม่เพียงเท่านั้น การดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญ ทำให้ร่างกายเราดึงพลังงานมาใช้ได้มากขึ้น จึงช่วยลดไขมันสะสมและพลังงานส่วนเกินที่อาจเป็นสาเหตุของสัดส่วนและแก้มที่เพิ่มขึ้น ด้วยเหตุนี้ เราควรดื่มน้ำให้เหมาะสมกับช่วงวัย เพื่อให้ร่างกายทำงานได้เป็นปกติ
4. ใช้เทคนิคและอุปกรณ์สำหรับลดแก้ม
แม้ว่าในทางวิทยาศาสตร์ เราจะไม่สามารถลดไขมันเฉพาะส่วนได้ แต่มีเทคนิคและอุปกรณ์บางอย่างที่เชื่อกันว่าช่วยปรับสมดุลของเหลวบนใบหน้า และช่วยบริหารกล้ามเนื้อใบหน้าซึ่งอาจส่งผลให้แก้มดูเล็กลงโดยไม่ต้องลดไขมัน โดยเทคนิคและอุปกรณ์เหล่านั้น ได้แก่
- การนวดและออกกำลังกายใบหน้า โดยการบริหารกล้ามเนื้อใบหน้าด้วยท่าทางต่าง ๆ อย่างการเป่าริมฝีปาก (Puckering Lips) การทำเแก้มป่อง การทำปากจู๋ การคลึงแก้มขณะยิ้ม อาจช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความกระชับของใบหน้า ซึ่งอาจช่วยลดแก้มและทำให้หน้าดูเรียวขึ้นได้
- ลูกกลิ้งนวดหน้า (Face Roller) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้คลึงตามใบหน้าแทนการนวดด้วยมือ โดยเชื่อกันว่าแรงกดจากลูกกลิ้งจะช่วยปรับสมดุลของเหลวของเซลล์ผิวหนังบนใบหน้า ทำให้กล้ามเนื้อกระชับและอาจช่วยให้หน้าเล็กลงชั่วคราว
ทั้งนี้เทคนิคในการลดแก้มเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันประสิทธิภาพ และควรศึกษาวิธีการทำที่ถูกต้องก่อนใช้เอง เพราะหากทำไปโดยขาดความรู้ก็อาจทำให้ใบหน้าบาดเจ็บ เป็นรอย และช้ำได้
อย่างไรก็ตาม ยังมีวิธีธรรมชาติสำหรับยามฉุกเฉินที่จะแนะนำ คือ การแต่งหน้า โดยเฉพาะการไฮไลท์และคอนทัวร์ตามส่วนโค้งเว้าบนใบหน้า ซึ่งจะช่วยทำให้หน้าดูหน้าเรียวได้ทันที
4 ขั้นตอนลดแก้มด้วยวิธีทางการแพทย์
หากวิธีลดแก้มแบบธรรมชาติไม่ทันใจ ขั้นตอนทางการแพทย์ต่อไปนี้สามารถช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวลงได้
1. ร้อยไหม
ร้อยไหม (Thread Lift) เป็นวิธีทางการแพทย์เพื่อความสวยงามที่ไม่ต้องผ่าตัด การร้อยไหม คือ ใช้ไหมทางการแพทย์ร้อยเข้าไปในกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ บนใบหน้าเพื่อปรับโครงสร้างใบหน้าเพื่อลดริ้วรอย เพิ่มความเต่งตึงของผิว ยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยบริเวณคิ้ว ใบหน้า แก้ม และคอ โดยผลลัพธ์จากการร้อยไหมอาจอยู่ได้ราว 1-2 ปี
2. ฉีดสลายไขมัน
การฉีดสลายไขมัน (Injection Lipolysis) เป็นขั้นตอนทางการแพทย์ที่ไม่ต้องผ่าตัดเช่นเดียวกัน แพทย์จะฉีดสารเคมีสำหรับสลายไขมันเข้าไปในชั้นไขมันใต้ผิวหนังตามจุดต่าง ๆ บนใบหน้าเพื่อกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาเคมีที่ทำให้เซลล์ไขมันสลายและตายลง เมื่อเซลล์ไขมันตายร่างกายก็จะกำจัดเซลล์เหล่านั้นออกจึงช่วยลดขนาดแก้มให้เล็กลง
3. ดูดไขมัน
การดูดไขมันบนใบหน้า (Facial Liposuction) อาจตอบโจทย์สำหรับคนที่อยากลดแก้มและเหนียงโดยเฉพาะ เพราะขั้นตอนนี้เป็นการผ่าตัดเพื่อสอดเครื่องดูดไขมันที่มีลักษณะเป็นท่อขนาดเล็กเข้าไปบริเวณแก้มเพื่อดูดเอาไขมันสะสมออก ซึ่งจะช่วยปรับรูปหน้าและขนาดแก้มได้อย่างตรงจุด
4. ดึงหน้า
การดึงหน้าหรือเฟสลิฟต์ (Facelift) เป็นการผ่าตัดเพื่อยกกระชับโครงสร้างเนื้อเยื่อบนใบหน้า ตั้งแต่ผิวหนังบริเวณหน้า หู แก้ม สันกราม และคอ ถือเป็นวิธีผ่าตัดที่ค่อนข้างซับซ้อน แต่อาจคงสภาพใบหน้าได้ราว 5-10 ปี โดยการผ่าตัดดึงหน้าอาจประกอบไปด้วยขั้นตอนย่อยหลายส่วน เช่น การดูดไขมันเพื่อลดเหนียงลดแก้ม การกระชับกล้ามเนื้อใบหน้าและการตัดผิวหนังใบหน้าบางส่วนออกเพื่อให้ผิวดูกระชับ เรียบเนียน และไร้ริ้วรอย
ขั้นตอนทางการแพทย์เพื่อลดแก้มเหล่านี้อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น เลือดออก แผลหายช้า หน้าบวม สัดส่วนของหน้าไม่เท่ากัน เป็นแผลเป็น และติดเชื้อ เป็นต้น ซึ่งผลข้างเคียงบางอย่างอาจไม่เป็นอันตรายและหายได้เองจากการพักฟื้นและการดูแลที่ถูกต้อง แต่ผลข้างเคียงบางอย่างก็อาจส่งผลต่อสุขภาพและความสวยงามได้ อีกทั้งวิธีเหล่านี้มีค่าใช้จ่ายที่ต่างกันไปตามความซับซ้อนของขั้นตอน ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ถึงความจำเป็น ความเสี่ยง และค่าใช้จ่ายก่อนตัดสินใจ นอกจากนี้ ควรเลือกโรงพยาบาลหรือคลินิกศัลยกรรมความงามที่น่าเชื่อถือ มีใบรับรองอย่างถูกต้อง และดำเนินขั้นตอนโดยแพทย์เท่านั้น
แม้คุณจะเลือกลดแก้มด้วยวิธีทางการแพทย์ แต่ผลลัพธ์ของวิธีเหล่านั้นอาจเสื่อมสภาพตามกาลเวลา การกินอาหารไขมันสูงหรือการกินอาหารมากเกินไปอาจย่นระยะเวลาของผลลัพธ์จากขั้นตอนเหล่านี้ได้ ดังนั้นหากต้องการรักษาใบหน้าที่เรียวเล็กไว้ให้อยู่นาน ๆ ควรดูแลตนเองด้วยวิธีธรรมชาติควบคู่ไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหารที่มีประโยชน์และการออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดไขมันสะสมภายในร่างกาย