วิตามินลดสิวอาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการรักษาสิว รวมถึงอาการอื่น ๆ ที่เกิดจากสิว โดยวิตามินลดสิวส่วนใหญ่มักพบได้ในอาหารต่าง ๆ รวมถึงผลิตภัณฑ์บำรุงและดูแลผิว และผลิตภัณฑ์อาหารเสริมบางชนิดอีกด้วย
สิวอาจเกิดขึ้นได้เมื่อรูขุมขนเกิดการอุดตันไปด้วยน้ำมัน เซลล์ผิวที่ตายแล้ว และแบคทีเรีย ซึ่งอาจทำให้เกิดการอักเสบและเกิดเป็นสิวตามมา โดยสิวเป็นปัญหาทางผิวหนังที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงบางอย่างอาจมีโอกาสเกิดสิวมากขึ้น เช่น ฮอร์โมนแปรปรวน การใช้ยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ ความเครียด
วิตามินลดสิวที่ไม่ควรพลาด
วิตามินบางชนิดอาจช่วยลดปัญหาสิวได้ เช่น
1. วิตามินเอ
วิตามินเออาจช่วยบำรุงผิวหนังได้ในหลาย ๆ ด้าน รวมถึงปัญหาเรื่องสิว โดยวิตามินเอที่ใช้สำหรับการรักษาสิวอาจเรียกว่า เรตินอลหรือเรตินอยด์ ซึ่งพบได้บ่อยในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่าง ๆ โดยเรตินอลหรือเรตินอยด์ จะช่วยผลัดเซลล์ผิวและกำจัดสิ่งสกปรกที่อุดตันอยู่ในรูขุมขน ซึ่งจะช่วยป้องกันและลดโอกาสการเกิดสิวได้
นอกจากจะพบวิตามินเอในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแล้ว ยังอาจพบได้ในอาหาร เช่น ไข่ ปลา นม กุ้ง แคร์รอต ฟักทอง
2. วิตามินบี 3
วิตามินบี 3 หรือเรียกอีกชื่อว่าไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) เป็นวิตามินลดสิวที่มีคุณสมบัติช่วยต้านการอักเสบ จึงอาจช่วยลดรอยแดงและบรรเทาอักเสบของสิวให้ดีขึ้น วิตามินบี 3 สามารถพบได้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว รวมถึงอาหารต่าง ๆ เช่น ไข่ ผักใบเขียว ถั่ว ปลา
3. วิตามินซี
วิตามินซีเป็นอีกหนึ่งวิตามินลดสิวที่มีคุณสมบัติช่วยต้านการอักเสบ ซึ่งอาจช่วยลดรอยแดงจากสิว และลดอาการบวมอักเสบของสิว นอกจากนี้ วิตามินซียังอาจช่วยลดรอยดำและรอยสิวอีกด้วย โดยวิตามินซีพบได้มากในผลไม้รสเปรี้ยว รวมถึงอาหารอื่น ๆ เช่น มะเขือเทศ บรอกโคลี ผักใบเขียว
อย่างไรก็ตาม การใช้วิตามินซีเพื่อลดสิวอาจเห็นผลได้ดีกว่าเมื่อใช้วิตามินซีในรูปแบบผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ใช้ทาบนผิวหนัง
4. วิตามินดี
ภาวะขาดวิตามินดีมักพบได้บ่อยในผู้ที่เป็นสิว ดังนั้น การที่ร่างกายได้รับวิตามินดีอย่างเพียงพอจึงอาจช่วยลดปัญหาสิวได้ โดยร่างกายสามารถได้รับวิตามินดีผ่านการสัมผัสแสงแดด หรือจากอาหารบางชนิด เช่น ปลา ไข่แดง เห็ด ตับ
5. วิตามินอี
วิตามินอีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระและมีส่วนช่วยต้านการอักเสบ จึงอาจช่วยลดและป้องกันการเกิดสิวได้ นอกจากนี้ ผู้ที่มีภาวะขาดวิตามินอีมักมีปัญหาสิวเกิดขึ้นร่วมด้วย ดังนั้น การรับประทานวิตามินอีเป็นวิตามินลดสิวจึงอาจช่วยลดโอกาสในการเกิดสิวได้
นอกจากวิตามินลดสิวเหล่านี้แล้ว ยังอาจมีสารอาหารอื่น ๆ ที่ช่วยเรื่องสิวได้เช่นกัน โดยเฉพาะแร่ธาตุสังกะสี (Zinc) ที่อาจช่วยลดการอักเสบของสิวได้ โดยสังกะสีสามารถพบได้ในอาหาร เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู ปลา และอาหารทะเลต่าง ๆ
หากต้องการเริ่มรับประทานวิตามินลดสิวในรูปแบบผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานเพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว และกำลังรับประทานยาหรือผลิตภัณฑ์อาหารเสริมใดอยู่
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีปัญหาสิวควรใช้วิธีดูแลตัวเองต่าง ๆ ร่วมกับการรับประทานวิตามินลดสิวด้วย เช่น ล้างหน้าหรือบริเวณที่เป็นสิววันละ 2 ครั้ง ใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน หลีกเลี่ยงการบีบหรือแกะสิว หากสิวยังคงไม่ดีขึ้นหรือมีอาการรุนแรงขึ้น ควรไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป