วิธีตัดเล็บขบ เป็นวิธีที่ช่วยตัดส่วนเกินของเล็บ หรือส่วนที่ขบเข้าไปในเนื้อ ซึ่งทำให้เกิดบาดแผลและอาการเจ็บที่นิ้วออก โดยการเรียนรู้วิธีตัดเล็บขบที่ถูกต้องจะช่วยให้อาการเล็บขบไม่รุนแรง และลดความเสี่ยงติดเชื้อได้
เล็บขบเป็นอาการที่มุมเล็บงอกเข้าไปทิ่มเนื้อจนทำให้อาการเจ็บปวด แผลอักเสบ หรือแผลติดเชื้อ โดยเล็บขบนั้นเป็นอาการที่พบได้ทั่วไปจากการตัดเล็บไม่ถูกวิธี การใส่รองเท้าที่รัดแน่น การบาดเจ็บที่เล็บ และสาเหตุอื่น ๆ เนื่องจากเล็บขบมักเป็นอาการที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิต การรู้วิธีตัดเล็บขบที่ถูกต้องด้วยตนเองจึงอาจช่วยรักษาเล็บขบได้ดีขึ้น
วิธีตัดเล็บขบไม่ยากเพียง 3 ขั้นตอน
ก่อนเริ่มตัดเล็บขบนั้นควรรอให้เล็บยาวก่อน เนื่องจากการตัดเล็บให้สั้นมาก ๆ อาจส่งผลให้เล็บขบอาการหนักขึ้นได้ โดยระหว่างที่รอให้เล็บยาวนั้น เราสามารถดูแลเล็บได้ด้วยวิธี ดังนี้
1. แช่เท้าในน้ำ
การแช่เท้าในน้ำอุ่นที่ใส่เกลือจะช่วยลดอาการบวมอักเสบและอาการเจ็บที่เกิดจากเล็บขบ รวมถึงยังช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ด้วย โดยควรแช่เท้า 2—3 ครั้งต่อวัน เป็นเวลา 10—30 นาที การแช่เท้าก่อนถึงเวลาตัดเล็บยังช่วยให้เล็บอ่อนลงและสามารถตัดเล็บได้ง่ายขึ้นเช่นกัน
2. ใช้สำลีสอดใต้เล็บ
หลังจากแช่เท้าแล้วให้เช็ดด้วยผ้าสะอาด จากนั้นให้นำสำลีสอดใต้มุมเล็บขบเพื่อป้องกันไม่ให้เล็บงอกผิดที่ และทิ่มเนื้อจนเกิดแผล โดยควรเปลี่ยนสำลีทุกวันหรือเปลี่ยนเมื่อสำลีสกปรก
นอกจากนี้ แพทย์อาจแนะนำให้ทายาปฏิชีวนะวันละ 2 ครั้งบนจุดที่เกิดการระคายเคืองเพื่อป้องกันการติดเชื้อและช่วยลดอาการปวดได้เช่นกัน โดยควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับการใช้ยา และปฏิบัติตามเพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัย
3. ตัดเล็บขบที่งอกออกมา
หลังจากเล็บยาวขึ้น 1—2 มิลลิเมตรแล้วถึงสามารถเริ่มขั้นตอนการตัดได้ โดยให้เริ่มจากทำความสะอาดกรรไกรตัดเล็บด้วยแอลกอฮอล์หรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide) เพื่อป้องกันการติดเชื้อ แล้วตัดเป็นเส้นตรง ไม่ตัดเป็นแนวโค้ง จากนั้นตัดเล็บส่วนเกินที่งอกออกมาบริเวณมุมเล็บ ซึ่งส่วนนี้หากใช้กรรไกรตัดเล็บธรรมดาไม่สะดวก ให้ใช้กรรไกรตัดเล็บขบโดยเฉพาะที่เหมาะกับการตัดส่วนมุมมากกว่า
ในระหว่างที่เป็นเล็บขบนั้น นอกจากการดูแลเท้าให้สะอาดและรอเล็บยาวก็ควรสวมรองเท้าแตะ หรือรองเท้าที่เปิดปลายเท้าเพื่อป้องกันไม่ให้ปลายขอบรองเท้ากระทบกับเล็บขบ ซึ่งอาจทำให้ยิ่งเจ็บขึ้น
วิธีป้องกันเล็บขบง่าย ๆ
เพื่อป้องกันเล็บขบไม่ให้เกิดซ้ำอีกครั้ง เราจึงควรเรียนรู้วิธีดูแลเล็บให้ถูกต้อง ดังนี้
- ดูแลรักษากรรไกรตัดเล็บ ตะไบ หรืออุปกรณ์ตัดแต่งเล็บอื่น ๆ ให้สะอาดเสมอ
- ไม่แกะหรือฉีกเล็บ
- ควรตัดเล็บเป็นเส้นตรงเสมอ ไม่ตัดเป็นเส้นโค้งหรือตัดเป็นตัววี รวมถึงไม่ตัดสั้นเกินไป โดยควรปล่อยให้มุมขอบเล็บยาวเหนือผิวหนัง
- ตะไบเล็บบางส่วนแทนการตัดเพื่อป้องกันไม่ให้ตัดสั้นเกินจนเสี่ยงเกิดเล็บขบ
วิธีตัดเล็บขบและดูแลให้ถูกต้องอาจช่วยให้เล็บขบหายเร็วขึ้นได้ แต่หากลองแล้วยังไม่หายดี และมีสัญญาณของการติดเชื้อ เช่น ผิวเป็นสีแดงหรือสีอื่น ๆ ที่ดูผิดปกติ มีการบวมเพิ่ม มีเลือด หนอง หรือกลิ่นเหม็นโชยออกมา ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม