อาการน้ำตาลสูงในผู้ป่วยเบาหวานหรืออาการที่เกิดขึ้นเมื่อผู้ป่วยโรคเบาหวานมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง (Hyperglycemia) เป็นภาวะที่ผู้ป่วยโรคเบาหวานทุกคนควรป้องกันไม่ให้เกิด เพราะอาจนำไปสู่การเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่ร้ายแรงขึ้น เช่น การเกิดความเสียหายต่อดวงตา ไต เส้นประสาท หัวใจ และระบบหลอดเลือดส่วนปลายได้หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
อาการน้ำตาลสูงในผู้ป่วยเบาหวานเกิดขึ้นเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าเกณฑ์ปกติ เช่น สูงกว่า 125 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรหลังจากมื้ออาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง โดยอาจเป็นผลมาจากการที่ผู้ป่วยไม่ได้รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง รับประทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตมากเกินไปจนไม่สมดุลกับระดับอินซูลินในร่างกาย รวมถึงการรับประทานยาบางชนิด การเจ็บป่วยบางอย่าง และความเครียด
สัญญาณของการเกิดอาการน้ำตาลสูงในผู้ป่วยเบาหวาน
ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง คือภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดสูงกว่าเกณฑ์ปกติ ผู้ป่วยโรคเบาหวานสามารถทราบระดับน้ำตาลในเลือดได้โดยการตรวจระดับน้ำตาลในเลือด รวมทั้งสังเกตุจากอาการทางร่างกายดังต่อไปนี้
1. มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่า 125 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรหลังจากมื้ออาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง หรือมากกว่า 180 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรหลังจากมื้ออาหาร 2 ชั่วโมง จะถือว่ามีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
2. ผลการตรวจวัดระดับ HbA1c หรือการตรวจวัดระดับน้ำตาลในระยะยาวของผู้ป่วยโรคเบาหวานสูงมากกว่า 6.5% ด้วย
3. รู้สึกเหนื่อยล้าหรือง่วงมากกว่าปกติ
4. รู้สึกหิวหรือกระหายน้ำมากกว่าปกติ
5. ปัสสาวะมากกว่าปกติโดยเฉพาะตอนกลางคืน
6. น้ำหนักลดแม้จะมีพฤติกรรมการกินที่ปกติหรือมากกว่าปกติ
7. ปวดศีรษะ มองเห็นภาพซ้อน
นอกจากนี้ หากผู้ป่วยโรคเบาหวานมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงแต่ไม่ได้รับการรักษาหรือควบคุมอาการอย่างเหมาะสม สามารถนำไปสู่การเกิดภาวะเลือดเป็นกรด (Diabetic Ketoacidosis: DKA) ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายถึงชีวิตได้ด้วย
อาการที่อาจเป็นสัญญาณของการเกิดภาวะเลือดเป็นกรด มีดังนี้
- ลมหายใจมีกลิ่นเปรี้ยวผิดปกติ
- อาเจียน
- มีภาวะขาดน้ำ
- หัวใจเต้นเร็ว
- หายใจลำบากหรือหายใจไม่ออก
- เกิดความสับสน
- เกิดภาวะโคม่า
แนวทางการป้องกันการเกิดอาการน้ำตาลสูงในผู้ป่วยเบาหวาน
ผู้ป่วยโรคเบาหวานสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูงได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
- รับประทานยาหรือฉีดยาตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด ไม่ควรลืมรับประทานยาหรือหยุดใช้ยาเองโดยที่แพทย์ไม่ได้สั่ง
- หมั่นตรวจสอบและจดบันทึกระดับน้ำตาลในเลือดของตัวเองทุกวัน
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลในปริมาณมาก
- เน้นรับประทานอาหารที่เหมาะสำหรับคนเป็นเบาหวาน เช่น ปลา ไข่ ผักใบเขียว และธัญพืชที่มีใยอาหารสูง
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- จัดการความเครียดอย่างเหมาะสม
อย่างไรก็ตาม อาการน้ำตาลสูงในผู้ป่วยเบาหวานสามารถนำไปสู่การเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายถึงชีวิตได้ ผู้ป่วยโรคเบาหวานจึงควรไปพบแพทย์ทันทีหากมีระดับน้ำตาลในเลือดมากกว่า 13.3 มิลลิโมลต่อลิตร มีอาการของภาวะเลือดเป็นกรดเกิดขึ้น รวมถึงมีอาการผิดปกติอื่น ๆ เกิดขึ้น เช่น ปากแห้ง เกิดความสับสน อาเจียนหรือท้องเสียอย่างต่อเนื่อง มีไข้นานกว่า 24 ชั่วโมง และเกิดอาหารหายใจลำบาก