หายใจไม่อิ่ม อาการอันตรายที่ควรรักษา

หายใจไม่อิ่ม (Shortness of Breath, Dyspnea) คือ อาการหายใจเหนื่อยหอบ หายใจไม่ทัน แน่นหน้าอก โดยมักจะเกิดเมื่อเคลื่อนไหวร่างกายอย่างต่อเนื่อง อย่างขณะออกกำลังกายหรือเดินขึ้นบันได บางครั้งอาจเป็นผลกระทบจากอารมณ์ความกลัวหรือความเครียด นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกก็อาจกระตุ้นให้เกิดอาการได้ เช่น อากาศที่ไม่ถ่ายเท มลพิษทางอากาศ อากาศร้อน หรืออยู่ในที่สูง 

นอกจากนี้ ผู้ที่มีโรคประจำตัวจะมีความเสี่ยงในการเกิดอาการหายใจไม่อิ่มสูงกว่าและรุนแรงกว่าคนทั่วไป บางครั้งอาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ เพราะอาการนี้มักจะเกี่ยวข้องกับโรคร้ายแรง เช่น โรคหอบหืด แพ้อาหาร โรคอ้วน โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจ โรคเลือดจาง ภาวะเส้นเลือดปอดอุดตัน หรือโรคปอดบวม ดังนั้น เราควรเรียนรู้ถึงสัญญาณอันตรายและไม่ควรละเลยอาการผิดปกติที่เกิดขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอาการหายใจไม่อิ่ม

หายใจไม่อิ่ม

สัญญาณอันตรายจากอาการหายใจไม่อิ่ม

แม้ว่าอาการหายใจไม่อิ่มโดยทั่วไปอาจบรรเทาและหายได้เองจากการตัดปัจจัยกระตุ้นที่ไม่เหมาะสมออกไป ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย ภาวะทางอารมณ์ หรือสิ่งแวดล้อม แต่ควรไปพบแพทย์ทันทีหากพบอาการในลักษณะต่อไปนี้ 

  • มีอาการแบบฉับพลันรุนแรง
  • อาการไม่ทุเลาหลังจากตัดปัจจัยกระตุ้นออกไปแล้ว
  • เท้าและข้อเท้าบวม
  • นิ้วมือและริมฝีปากเป็นสีม่วงหรือเขียว
  • หายใจไม่ออ แน่นหน้าอก
  • หายใจมีเสียงหวีดหรือแหบพร่า
  • มีไข้สูง หนาวสั่น ไอ
  • อาการรุนแรงขึ้นหลังจากใช้ยาพ่น
  • คลื่นไส้
  • เป็นลม

สำหรับผู้ที่มีอาการหายใจไม่อิ่มเป็นบางครั้งบางคราว อาการอยู่ในระดับที่ไม่รุนแรง และกระทบต่อการดำเนินชีวิตก็ควรไปพบแพทย์เช่นกัน เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขและป้องกันอาการในอนาคต

รับมืออาการหายใจไม่อิ่มด้วยเทคนิคการหายใจ

เทคนิคการหายใจเป็นอีกวิธีง่าย ๆ ที่อาจช่วยปรับการหายใจให้ปกติและบรรเทาอาการหายใจไม่ทันหรือหายใจไม่อิ่ม โดยสามารถทำได้ตามคำแนะนำต่อไปนี้

  • เมื่อเกิดอาการหายใจไม่อิ่ม ควรนั่งพักบนเก้าอี้เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการเป็นลม
  • พยายามผ่อนคลายร่างกายให้มากที่สุด โดยเฉพาะกล้ามเนื้อคอและไหล่
  • วางมือไว้บนหน้าท้องและหายใจเข้าผ่านทางจมูกช้า ๆ หากทำถูกต้องจะสังเกตเห็นได้ว่าหน้าท้องนั้นจะพองออก
  • เมื่อหายใจเข้าจนสุด ให้หายใจออกผ่านทางปากช้า ๆ จนหน้าท้องยุบ
  • ทำซ้ำจนอาการดีขึ้น แต่หากอาการไม่ดีขึ้นควรโทรเรียกรถพยาบาล

ป้องกันอันตรายจากอาการหายใจไม่อิ่ม

อาการหายใจไม่อิ่มอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตราย จึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาโรคที่เป็นสาเหตุของอาการและเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้อง ในขณะเดียวกันควรมีการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์บางอย่างที่อาจช่วยลดการเกิดอาการนี้ได้ เช่น

  1. ใช้ยาอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อควบคุมและรักษาอาการของโรคที่เป็นอยู่
  2. ฝึกการควบคุมอารมณ์ด้วยวิธีต่าง ๆ อย่างการนั่งสมาธิหรือการทำงานอดิเรก
  3. ออกกำลังกายอย่างเหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์ เพราะการออกกำลังกายเป็นประจำอาจช่วยให้ปอดแข็งแรงและทำงานได้ดีขึ้น
  4. งดสูบบุหรี่ เนื่องจากสารเคมีในบุหรี่ส่งผลเสียต่อปอดโดยตรงและทำให้อาการรุนแรงขึ้น
  5. หลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นอาการ อย่างอากาศร้อนและฝุ่นควัน
  6. ผู้ป่วยที่ใช้ออกซิเจนสำรอง ควรตรวจสอบอุปกรณ์ให้มีความพร้อมอยู่เสมอ

นอกจากนี้ การศึกษาบางส่วนยังพบว่าน้ำหนักตัวที่มากเกินส่งผลให้ปอดและระบบทางเดินหายใจทำงานหนัก ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอาการหายใจไม่อิ่ม ดังนั้น ควรรักษาน้ำหนักให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมด้วยการควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างเหมาะสม เพราะอาจช่วยลดความเสี่ยงของอาการนี้ได้