อาการตับอ่อนอักเสบ เป็นกลุ่มอาการของโรคตับอ่อนอักเสบซึ่งอาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นประจำ ผู้ที่สูบบุหรี่ ผู้ที่มีภาวะอ้วน ผู้ป่วยนิ่วในถุงน้ำดี ผู้ป่วยเบาหวาน และผู้ที่คนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคตับอ่อนอักเสบ เนื่องจากโรคนี้เป็นโรคที่อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้หลายชนิด
ตับอ่อนเป็นอวัยวะสำคัญที่มีหน้าที่ผลิตเอนไซม์และฮอร์โมนหลากหลายชนิด เพื่อให้ร่างกายนำไปใช้ในกระบวนการทำงานต่าง ๆ โดยภาวะตับอ่อนอักเสบจะเกิดขึ้นเมื่อเอนไซม์ที่ถูกผลิตจากตับอ่อนเริ่มทำงานไวผิดปกติหรือทำงานตั้งแต่อยู่ในตับอ่อน จนส่งผลให้เซลล์ในตับอ่อนเกิดการอักเสบและนำไปสู่อาการต่าง ๆ
แนวทางการสังเกตอาการตับอ่อนอักเสบ
ภาวะตับอ่อนอักเสบเป็นภาวะที่สามารถเกิดได้หลัก ๆ 2 แบบ ได้แก่ แบบฉับพลัน และแบบเรื้อรัง โดยแบบฉับพลัน ผู้ป่วยจะพบว่าอาการตับอ่อนอักเสบมักเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วแต่จะเกิดเพียงไม่กี่วัน ส่วนแบบเรื้อรัง ผู้ป่วยมักพบว่าอาการต่าง ๆ มักเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ แต่จะเกิดอย่างเรื้อรังนานหลายปี
ในด้านลักษณะอาการ อาการตับอ่อนอักเสบมักแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละคน ขึ้นอยู่กับว่าผู้ป่วยมีอาการแบบฉับพลันหรือเรื้อรัง และปัจจัยทางด้านสุขภาพของแต่ละบุคคล แต่อาการหลัก ๆ ที่พบได้ในผู้ป่วยส่วนใหญ่คือ อาการปวดท้องส่วนบน ซึ่งบางคนอาจพบอาการปวดหลังร่วมด้วย
นอกจากนี้ ผู้ป่วยยังอาจพบอาการอื่น ๆ ได้อีกดังต่อไปนี้
ผู้ป่วยที่มีภาวะตับอ่อนอักเสบแบบฉับพลัน
ผู้ป่วยในกลุ่มนี้มักพบว่าอาการปวดท้องส่วนบนจะยิ่งแย่ลงเมื่อนอนหงายลงกับพื้น หรือหลังรับประทานอาหารเสร็จใหม่ ๆ โดยเฉพาะเมื่อรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง แต่อาการมักจะดีขึ้นภายในเวลาไม่กี่วัน
โดยนอกจากอาการปวดท้องส่วนบนกับอาการปวดหลังแล้ว ผู้ป่วยตับอ่อนอักเสบในกลุ่มนี้ยังอาจพบอาการในลักษณะดังต่อไปนี้ร่วมด้วย
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ท้องบวม และปวดเมื่อสัมผัส
- หัวใจเต้นเร็ว
- หายใจหอบถี่
- มีไข้
- ภาวะดีซ่าน ซึ่งเป็นภาวะที่ผู้ป่วยจะพบอาการตาเหลือง ผิวเหลือง
ทั้งนี้ ผู้ป่วยตับอ่อนอักเสบบางคนในกลุ่มนี้อาจเสี่ยงต่อการพัฒนาไปเป็นแบบเรื้อรังได้ หากตับอ่อนของผู้ป่วยเกิดการอักเสบบ่อย ๆ และในกรณีที่อาการตับอ่อนอักเสบมีความรุนแรงมาก ๆ ผู้ป่วยในกลุ่มนี้ก็อาจเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ตับอ่อนเกิดรอยแผลเป็นจนกระทั่งประสิทธิภาพในการทำงานลดลง หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงอื่น ๆ ที่อาจส่งผลให้เสียชีวิตได้
ผู้ป่วยที่มีภาวะตับอ่อนอักเสบแบบเรื้อรัง
อาการตับอ่อนอักเสบในกลุ่มนี้มักจะแตกต่างกับผู้ป่วยตับอ่อนอักเสบเฉียบพลันตรงที่อาการของผู้ป่วยกลุ่มนี้มักจะแย่ลงเรื่อย ๆ หากไม่ได้รับการรักษาจากแพทย์ อีกทั้งยังอาจสังเกตอาการได้ยากกว่า เนื่องจากบางคนอาจไม่พบอาการใด ๆ เลยจนกระทั่งการอักเสบเริ่มมีความรุนแรง
โดยอาการที่มักพบได้ในผู้ป่วยกลุ่มนี้ก็เช่น
- รู้สึกปวดท้องหลังรับประทานอาหาร
- เบื่ออาหาร
- น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- ท้องเสีย
- หน้ามืด
- คลื่นไส้ อาเจียน
- อุจจาระเหม็นและมันผิดปกติ โดยผู้ป่วยอาจสังเกตได้จากการที่น้ำในโถส้วมมักมีลักษณะคล้ายแผ่นฟิล์มเคลือบอยู่
วิธีรับมือกับอาการตับอ่อนอักเสบ
ภาวะตับอ่อนอักเสบเป็นภาวะที่ต้องได้รับการรักษาจากแพทย์เป็นหลัก เนื่องจากในการรักษา แพทย์จำเป็นต้องตรวจหาสาเหตุของผู้ป่วยแต่ละคนให้พบก่อนจึงจะสามารถพิจารณาวิธีการรักษาที่เหมาะสมและตรงจุดได้ โดยวิธีการรักษาที่แพทย์อาจใช้ก็มีตั้งแต่ การใช้ยา การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ ไปจนถึงการผ่าตัด
ดังนั้น ผู้ที่พบอาการตับอ่อนอักเสบ หรือแม้แต่ผู้ที่มีเพียงอาการปวดท้องที่เกิดขึ้นอย่างเรื้อรัง ควรหาเวลาไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจและการรักษาที่เหมาะสมตั้งแต่เนิ่น ๆ เนื่องจากภาวะตับอ่อนอักเสบเป็นภาวะที่อาจลุกลามหรือนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงชนิดอื่นได้
แต่สำหรับผู้ที่พบอาการดังต่อไปนี้ ได้แก่ ปวดท้องอย่างรุนแรง คลื่นไส้ อาเจียน หายใจไม่อิ่ม มีไข้ หนาวสั่น ตาเหลือง และผิวเหลือง ผู้ป่วยควรรีบไปแพทย์ทันที เนื่องจากอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของความผิดปกติที่รุนแรงในร่างกาย หรืออาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนรุนแรงจากอาการตับอ่อนอักเสบได้