อาการติดเชื้อเป็นอาการที่เกิดขึ้นเมื่อเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย โดยอาการอาจแตกต่างกันไปตามชนิดของเชื้อโรคและตำแหน่งที่เกิดการติดเชื้อด้วย ซึ่งอาการติดเชื้อที่พบได้ทั่วไปมักจะเป็นอาการเป็นไข้ ปวดตามร่างกาย และการอักเสบของอวัยวะต่าง ๆ
การสังเกตอาการติดเชื้อเป็นวิธีที่ช่วยให้ผู้ป่วยเข้ารับการตรวจและการรักษาอย่างถูกต้องได้ทันเวลา ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งในกรณีที่เป็นการติดเชื้อชนิดรุนแรง หรือเกิดการติดเชื้อในเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว
อาการติดเชื้อที่คุณควรรู้
ภาวะติดเชื้อของร่างกายเกิดจากเชื้อโรคเข้าสู่เซลล์ร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส และเชื้อรา ซึ่งส่งผลกระทบต่อร่างกาย ทำให้เกิดอาการต่าง ๆ แสดงออกมา บทความนี้ได้รวบรวมตัวอย่างอาการติดเชื้อที่พบได้บ่อยมาฝากกัน
อาการติดเชื้อทั่วไป
แม้ว่าเชื้อแต่ละชนิดจะส่งผลต่อร่างกายต่างกัน แต่ร่างกายมักจะตอบสนองต่อการติดเชื้อโดยทำให้เกิดอาการเหล่านี้
- เป็นไข้ ตัวร้อน พบได้ตั้งแต่เป็นไข้ต่ำถึงไข้สูง
- หนาวสั่น
- เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย
- ปวดหัว ปวดตามร่างกาย
- ต่อมน้ำเหลืองบวมบริเวณคอ รักแร้ และขาหนีบ
- เบื่ออาหาร
ในบางครั้งการติดเชื้ออาจไม่ได้ทำให้เกิดอาการเหล่านี้ทั้งหมด แต่หากพบอาการในกลุ่มดังกล่าวอาการใดอาการหนึ่งก็อาจเป็นสัญญาณว่าร่างกายกำลังติดเชื้อได้
หากพบว่าเป็นไข้ติดต่อกันหลายวัน เป็นไข้สูง ไข้ไม่ลดแม้ใช้ยาลดไข้หรือลดไข้ด้วยวิธีอื่น และอาการอื่น ๆ ไม่ดีขึ้น ควรเข้ารับการตรวจจากแพทย์ แต่หากพบอาการติดเชื้อทั่วไปในทารกและผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว แม้อาการจะไม่รุนแรงก็ควรพาไปพบแพทย์
อาการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ
การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจที่พบบ่อยมักเป็นการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจส่วนบน เช่น โรคหวัดและโรคไข้หวัดใหญ่ชนิดต่าง ๆ ซึ่งการดูแลตนเองร่วมกับการรักษาจากแพทย์จะช่วยให้อาการหายดีได้ แต่กรณีที่เชื้อโรคลุกลามสู่ปอดหรือได้รับเชื้อโรคอันตรายอาจทำให้เกิดอาการปอดติดเชื้อหรือที่หลายคนมักเรียกอาการปอดบวม
อาการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจอาจทำให้เกิดอาการติดเชื้อทั่วไปร่วมกับอาการต่อไปนี้
- เป็นไข้ พบได้ตั้งแต่เป็นไข้ต่ำถึงไข้สูง
- อาการไอ ทั้งไอแห้งและไอมีเสมหะ
- เจ็บคอ กลืนอาหารแล้วเจ็บ
- คัดจมูก น้ำมูกไหล
ในรายที่อาการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจรุนแรงอาจพบอาการอื่นที่รุนแรงขึ้นด้วย เช่น หายใจหอบ หายใจลำบาก แน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก และไอเป็นเลือด นอกจากนี้ การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจอาจแพร่สู่คนอื่นผ่านละอองฝอยจากการไอ จาม และพูดคุยได้ด้วย
อาการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร
อาการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารเป็นความผิดปกติที่พบได้บ่อย มักเกิดหลังจากการกินอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อโรค อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ และอาหารหมดอายุ โดยเชื้อก่อโรคที่พบได้บ่อยมักจะเป็นกลุ่มของเชื้ออีโคไล (Escherichia Coli) เชื้อลิสทีเรีย (Listeria) และเชื้อซาลโมเนลล่า (Salmonella)
ตัวอย่างของภาวะติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคอุจจาระร่วง โรคบิด โรคกระเพาะอาหารติดเชื้อ โรคลำไส้อักเสบ ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการปวดท้อง ตะคริวที่ท้อง ท้องเสีย ถ่ายเหลว เวียนหัว และคลื่นไส้อาเจียน หากเป็นติดต่อกันอาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำที่เป็นภาวะอันตราย โดยเฉพาะเมื่อเกิดในเด็ก
ดังนั้น เมื่อพบอาการอาเจียนไม่หยุด ท้องเสียติดต่อกันเกิน 3 วัน ร่วมกับสัญญาณของภาวะขาดน้ำ เช่น ปัสสาวะน้อย ปากแห้ง กระหายน้ำ และเวียนหัว ควรไปพบแพทย์
อาการติดเชื้อที่บาดแผล
บาดแผลตามร่างกายเป็นช่องทางที่เชื้อโรคสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อดูแลบาดแผลไม่ดีหรือไปสัมผัสกับสิ่งสกปรกที่มีเชื้อโรคปะปนก็อาจทำให้แผลติดเชื้อได้ เมื่อแผลเกิดการติดเชื้ออาจทำให้อาการต่อไปนี้
- ผิวหนังแดงคล้ายผื่นรอบบาดแผล
- แผลและผิวหนังรอบแผลบวม เมื่อสัมผัสจะรู้สึกอุ่นกว่าผิวหนังส่วนอื่น
- รู้สึกเจ็บหรือปวด โดยเฉพาะเมื่อกดหรือสัมผัสรอบ ๆ แผลติดเชื้อ
- เป็นหนอง
- แผลหายช้ากว่าปกติ
- แผลไหม้ส่งกลิ่นเหม็น
แม้จะเป็นการติดเชื้อที่ผิวหนังภายนอกร่างกาย แต่หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา เชื้อโรคอาจแพร่เข้าสู่ร่างกายได้ จึงควรไปพบแพทย์หากพบสัญญาณของแผลติดเชื้อ เพื่อรับการตรวจและรักษาอย่างเหมาะสม
นอกจากภาวะแผลติดเชื้อแล้ว ผิวหนังยังสามารถเกิดติดเชื้อได้แม้จะไม่มีแผล อย่างภาวะผิวหนังติดเชื้อราที่พบได้บ่อย ซึ่งการติดเชื้อบริเวณผิวหนังชั้นนอกมักไม่ทำให้เป็นไข้หรือเกิดอาการติดเชื้อทั่วไปในข้างต้น แต่อาจพบผื่นแดง คัน ผิวแห้งลอกแทน
อาการติดเชื้อจากโรคทางเพศสัมพันธ์
โรคทางเพศสัมพันธ์มีสาเหตุหลักมาจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัย โดยเชื้อที่ได้รับอาจต่างกันไปตามเชื้อที่อีกฝ่ายมี ซึ่งเชื้อจะเข้าผ่านทางอวัยวะเพศ ท่อปัสสาวะ และทวารหนัก
อาการทั่วไปของโรคทางเพศสัมพันธ์ ได้แก่
- มีของเหลวไหลออกมาตามอวัยวะเพศ ท่อปัสสาวะ และทวารหนัก โดยอาจมีสีหรือกลิ่นเหม็นด้วย
- มีอาการปัสสาวะแสบขัดหรือแสบร้อนขณะปัสสาวะ
- เกิดก้อนแข็งหรือติ่งเนื้อรอบอวัยวะเพศหรือทวารหนัก
- เกิดผื่นแดง คันรอบอวัยวะเพศหรือทวารหนัก
- เกิดแผลพุพองรอบอวัยวะเพศหรือทวารหนัก
โรคทางเพศสัมพันธ์แต่ละโรคอาจแสดงอาการที่แตกต่างกัน และการติดเชื้อในระยะแรกมักจะไม่พบอาการผิดปกติ โดยโรคทางเพศสัมพันธ์ที่คนคุ้นเคยมักจะเป็นโรคซิฟิลิส โรคหนองใน โรคพยาธิในช่องคลอด และโรคติดเชื้อเอชไอวี
โรคทางเพศสัมพันธ์ส่วนใหญ่รักษาได้ แต่บางโรคก็ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ด้วยเหตุนี้ ควรสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
อาการติดเชื้อรุนแรง
ภาวะติดเชื้อรุนแรงพบได้ยาก โดยอาจเกิดจากการได้รับเชื้อโรคที่เป็นอันตรายและปล่อยการติดเชื้อไว้โดยไม่ได้รักษา ทำให้เชื้อลุกลามมากขึ้น นอกจากนี้ คนที่มีปัญหาสุขภาพอาจมีความเสี่ยงภาวะติดเชื้อรุนแรงมากขึ้น เช่น โรคเบาหวาน ภาวะภูมิคุ้มกันอ่อนแอจากการใช้ยาและโรค
ตัวอย่างของอาการและภาวะติดเชื้อรุนแรง เช่น
- ภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากแบคทีเรีย (Bacterial Meningitis) ที่ส่งผลให้เกิดอาการปวดหัว คอหรือท้ายทอยแข็ง เป็นไข้ คลื่นไส้อาเจียน รู้สึกสับสน และไวต่อแสง
- ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด (Sepsis) จะทำให้เกิดอาการหายใจหอบเหนื่อย หัวใจเต้นเร็ว เป็นไข้ หนาวสั่น มีอาการสับสนและรู้สึกตัวน้อยลง และภาวะช็อค
ทั้งสองภาวะเป็นภาวะติดเชื้อที่รุนแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิต หากพบอาการที่เป็นสัญญาณในข้างต้น ควรไปพบแพทย์ทันที โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือมีความเสี่ยงของการติดเชื้อรุนแรง
ภาวะติดเชื้อเกิดได้กับอวัยวะและระบบร่างกายทุกส่วน ซึ่งการติดเชื้อแต่ละแบบอาจต้องการการรักษาที่แตกต่างกัน ในเบื้องต้นสามารถสังเกตอาการติดเชื้อทั่วไป อย่างเป็นไข้ หนาวสั่น และปวดเมื่อยตามตัว หากอาการเหล่านี้ไม่ดีขึ้นหรือรุนแรงขึ้น ควรเข้ารับการตรวจจากแพทย์ โดยเฉพาะเมื่อเกิดในทารกและผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว