ข้อศอกด้านคืออาการที่ผิวหนังบริเวณข้อศอกแห้งกร้าน เมื่อสัมผัสแล้วรู้สึกหยาบกระด้าง รวมถึงผิวหนังอาจลอกเป็นขุย ตกสะเก็ด เกิดอาการคันหรือระคายเคืองได้ในบางกรณีด้วย ข้อศอกด้านสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น การดูแลผิวที่ไม่เหมาะสม สภาพอากาศ อาการหรือภาวะแทรกซ้อนของโรคบางชนิด ผลข้างเคียงจากการใช้ยา หรือสภาพอายุที่เพิ่มมากขึ้นก็ได้เช่นกัน
ข้อศอกด้านเป็นปัญหาผิวหนังที่สามารถเกิดขึ้นได้ทั่วไปและไม่เป็นอันตราย แต่มักเป็นปัญหาที่กวนใจใครหลายคน เพราะนอกจากจะทำให้ผิวหนังแห้งกร้านไม่เรียบเนียนแล้ว ยังอาจส่งผลกระทบไปถึงความมั่นใจในการเลือกใส่เสื้อผ้าด้วย บทความนี้จึงจะมาแนะนำวิธีในการดูแลผิวหนังให้หายจากอาการข้อศอกด้านด้วยตัวเอง รวมถึงเคล็ดลับง่าย ๆ ในการป้องกันไม่ให้เกิดข้อศอกด้านด้วย
วิธีง่าย ๆ ในการรับมือกับข้อศอกด้านด้วยตัวเอง
หากใครมีอาการข้อศอกด้าน วิธีการเหล่านี้สามารถช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง และอาจช่วยฟื้นฟูผิวหนังบริเวณข้อศอกที่เคยด้านหรือแห้งกร้านให้กลับมานุ่มหรือเรียบเนียนได้ โดยการดูแลข้อศอกด้านด้วยตัวเองมีวิธีการง่าย ๆ ดังนี้
ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer) เช่น โลชั่น ครีมทาผิว หรือน้ำมันทาผิว ทาบริเวณข้อศอกทุกครั้งหลังจากอาบน้ำหรือเมื่ออากาศเปลี่ยนแปลง สามารถช่วยฟื้นบำรุงผิวที่เคยแห้งกร้านให้เนียนนุ่มขึ้นได้ โดยควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารที่ทำให้ผิวเนียนนุ่ม (Emollients) และกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง
นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่อาจทำให้ผิวขาดน้ำ เช่น ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ (Isopropyl Alcohol) เบนซิลแอลกอฮอล์ (Benzyl Alcohol) และซัลเฟต (Sulfate) รวมถึงควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอมด้วย
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการอาบน้ำ
การอาบน้ำอาจมีส่วนทำให้ผิวแห้งและนำไปสู่การเกิดอาการข้อศอกด้านได้ เช่น การอาบน้ำที่มีอุณหภูมิสูงเกินไป การอาบน้ำหรือแช่น้ำนานเกินไป ดังนั้นจึงควรอาบน้ำที่ไม่ร้อนจนเกินไป จำกัดเวลาการอาบน้ำให้เหมาะสม รวมถึงควรเลือกสบู่อาบน้ำที่อ่อนโยนต่อผิว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการระคายเคืองตามมาด้วย
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการว่ายน้ำ
หากคุณเป็นคนที่ชอบการว่ายน้ำ นี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการข้อศอกด้านได้ เนื่องจากน้ำในสระว่ายน้ำจะมีส่วนผสมของคลอรีน และการว่ายน้ำนานจนเกินไปสามารถทำให้ผิวแห้งได้ ดังนั้น คุณอาจจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการว่ายน้ำบางอย่าง เช่น ลดความถี่หรือลดระยะเวลาในการว่ายน้ำแต่ละครั้งลง รวมถึงเพิ่มการดูแลผิวหลังจากการว่ายน้ำให้มากขึ้นโดยการทาครีมบำรุงผิวด้วย
หลีกเลี่ยงอาหารหรือเครื่องดื่มบางอย่าง
อีกวิธีหนึ่งในการดูแลรักษาอาการข้อศอกด้านคือการปรับอาหารการกิน เนื่องจากอาหารหรือเครื่องดื่มบางชนิดอาจส่งผลให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ ทำให้เกิดอาการผิวแห้งและข้อศอกด้านตามมาได้นั่นเอง ซึ่งอาหารหรือเครื่องดื่มที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน รวมถึงอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของเกลือและน้ำตาล
หลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป
การอยู่ในที่ที่อากาศแห้งหรือมีอุณหภูมิเย็นจัด เช่น การอยู่ในห้องแอร์ทั้งวัน หรือการอยู่กลางแจ้งและโดนแสงแดดเป็นเวลานานสามารถทำให้ผิวแห้งได้ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีอุณหภูมิร้อนหรือเย็นจนเกินไป แต่หากจำเป็นต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมดังกล่าว ควรดูแลผิวหนังด้วยการทาครีมบำรุงผิว ทาครีมกันแดด และใส่เสื้อผ้าที่ช่วยปกป้องผิวหนังจากแสงแดดได้
เคล็ด (ไม่) ลับ ป้องกันข้อศอกด้านอย่างไรให้ได้ผล
นอกจากการดูแลรักษาข้อศอกด้านแล้ว การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจทำให้เกิดข้อศอกด้านก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน โดยการป้องกันไม่ให้เกิดอาการข้อศอกด้านสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้
- เลือกใช้สบู่อาบน้ำ ครีมบำรุงผิว และผลิตภัณฑ์ซักผ้าสูตรอ่อนโยนต่อผิวหนัง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการระคายเคืองผิวหนังตามมา
- เมื่ออาบน้ำเสร็จให้ใช้ผ้าเช็ดตัวซับผิวเบา ๆ ให้แค่พอหมาด จากนั้นควรเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวทันทีด้วยการทาครีมบำรุงผิว
- เลือกใส่เสื้อผ้าที่ผลิตจากเส้นใยที่มีคุณสมบัติอ่อนโยนต่อผิวหนัง เนื่องจากเสื้อผ้าบางชนิดอาจทำให้ผิวเกิดอาการระคายเคืองหรือแพ้ได้
- หากต้องนอนบนพื้นแข็งเป็นเวลานาน หรือต้องนั่งทำงานในลักษณะที่ต้องวางแขนบนโต๊ะซ้ำ ๆ ท่าเดิมทุกวัน ควรใช้ผ้าหรือแผ่นรองข้อศอกเพื่อลดการเสียดสีระหว่างผิวหนังกับพื้นผิวอื่น
- หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด เนื่องจากแสงแดดสามารถระเหยน้ำมันและความชื้นออกจากผิวหนังได้
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เนื่องจากสารนิโคตินจะลดการไหลเวียนของเลือดและอาจส่งผลให้ผิวหนังแห้งได้
- จัดการความเครียดอย่างเหมาะสม เพราะความเครียดอาจส่งผลให้ผิวหนังอักเสบหรือทำให้สภาพผิวหนังที่แห้งแย่ลงได้
- ระมัดระวังการใช้ยาบางชนิด เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาเรตินอยด์ (Retinoids) เพราะอาจทำให้ผิวแห้งหรือเกิดอาการข้อศอกด้านได้ หากหลังจากใช้ยามีอาการข้อศอกด้านเกิดขึ้นควรปรึกษาแพทย์
อย่างไรก็ตาม หากดูแลรักษาข้อศอกด้านด้วยวิธีการข้างต้นแล้วอาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการข้อศอกด้านมากเกินไปอย่างผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของโรคผิวหนังหรือโรคประจำตัวบางอย่างที่ควรได้รับการรักษาจากแพทย์ เช่น โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis) โรคสะเก็ดเงิน โรคเบาหวาน ควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรคและรับการรักษาอย่างเหมาะสม