สาเหตุของ ลมพิษ
ลมพิษเกิดขึ้นเมื่อฮีสตามีนและสารเคมีอื่น ๆ ในร่างกายถูกปล่อยออกมาจากใต้ผิวหนังทำให้เนื้อเยื่อบวม ซึ่งลมพิษเฉียบพลันและลมพิษเรื้อรังมีสาเหตุแตกต่างกัน ดังนี้
ลมพิษเฉียบพลัน
ลมพิษเฉียบพลันอาจเกิดจาก
- อาหารที่กระตุ้นอาการแพ้ เช่น ถั่ว หอย ไข่ ชีส
- การรับประทานยาแก้ปวด อาหารเสริม หรือยาสมุนไพร
- น้ำหอม สีย้อมผม ผงซักฟอก ครีม โลชั่น ยาทาเล็บ หรือเสื้อผ้า
- สะเก็ดผิวหนังของสัตว์เลี้ยง เชื้อรา ละอองเกสรดอกไม้ ฝุ่น พืช สารเคมี
- การสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ เช่น ยางพารา นิกเกิลที่อยู่ในนาฬิกาหรือเครื่องประดับ
- ถููกแมลงสัตว์กัดต่อย
- การติดเชื้อ ตั้งแต่การเป็นหวัดไปจนถึงโรคเอดส์
- ความเครียด
- สิ่งกระตุ้นทางกายภาพ เช่น ผิวถูกบีบรัด การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ แสงแดด การออกกำลังกาย หรือน้ำ
ลมพิษเรื้อรัง
ลมพิษเรื้อรังอาจเกิดจากโรคที่เกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ หรือลูปัส (Lupus) หรืออาจเกี่ยวข้องกับอาการเจ็บป่วยเรื้อรังและการติดเชื้อ เช่น ไวรัสตับอักเสบ พยาธิลำไส้ และภาวะขาดไทรอยด์
ลมพิษเรื้อรังเป็นโรคที่เกิดขึ้นแล้วก็หายไป ในผู้ป่วยบางรายจะพบว่ามีบางอย่างที่กระตุ้นทำให้เกิดขึ้นใหม่ได้อีกครั้ง หรือทำให้อาการที่เป็นอยู่แย่ลง โดยสิ่งกระตุ้นอาจมีดังต่อไปนี้
- ความเครียด
- การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีน
- อุณหภูมิอุ่น ๆ
- การใส่เสื้อผ้าที่คับเกินไป หรือบีบรัดเป็นเวลานาน ๆ
- การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาลดการอักเสบ (NSAIDs)
- การบริโภคส่วนผสมอาหารบางชนิด เช่น ซาลิไซเลต (Salicylates) ซึ่งพบในมะเขือเทศ น้ำส้ม และน้ำชา
- การสัมผัสกับอากาศเย็น อากาศร้อน หรือน้ำ
- ถูกแมลงสัตว์กัดต่อย