วิตามินบำรุงผิวคือวิตามินที่มีคุณสมบัติในการบำรุงผิวให้มีสุขภาพดี ซึ่งมีอยู่หลายชนิด เช่น วิตามินซี วิตามินบี 3 หรือไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) และมักถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบหลักในผลิตภัณฑ์สกินแคร์ การรู้จักวิตามินบำรุงผิวชนิดต่าง ๆ จะช่วยให้คุณสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ได้เหมาะสมกับสภาพผิวมากยิ่งขึ้น และสามารถแก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด
วิตามินที่มีคุณสมบัติในการบำรุงผิวมักมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะช่วยชะลอหรือป้องกันผิวหนังไม่ให้เสื่อมลงและดูแก่ก่อนวัย รวมถึงวิตามินหลายชนิดยังมีประโยชน์ในการช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยซ่อมแซมเนื่อเยื่อ สมานแผล หรือลดริ้วรอยที่เกิดขึ้นบนผิวหนัง และอาจช่วยเสริมความแข็งแรงให้แก่ผิวหนังได้ด้วย
ซึ่งนอกจากวิตามินบำรุงผิวเหล่านี้จะอยู่ในผลิตภัณฑ์สกินแคร์แล้ว ยังสามารถพบได้ในอาหารหลากหลายชนิดที่เรารับประทานทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ พืชตระกูลถั่ว นม ไข่ไก่ และเนื้อปลาที่มีไขมันดีด้วย
6 วิตามินบำรุงผิวแสนทรงคุณค่าที่หาได้ง่ายใกล้ตัว
สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้ง ผิวมัน สีผิวไม่สม่ำเสมอ มีรอยดำหรือรอยแดงจากสิว และมีริ้วรอยก่อนวัย ควรมองหารายชื่อวิตามินเหล่านี้บนฉลากผลิตภัณฑ์สกินแคร์ เพื่อช่วยให้บำรุงผิวให้กลับมาดูสุขภาพดีอย่างที่ต้องการ วิตามินบำรุงผิวที่ควรทำความรู้จัก มีดังนี้
1. วิตามินเอ
วิตามินเอรูปแบบหนึ่งคือเรตินอล ซึ่งเป็นสารในกลุ่มเรตินอยด์ (Retinoids) ที่มีคุณสมบัติในการช่วยปรับปรุงสภาพผิวและสีผิว ช่วยขัดผิวที่หมองคล้ำให้ดูใสขึ้นได้ อีกทั้งยังมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถช่วยต้านการอักเสบ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในการซ่อมแซมและสมานผิว จึงอาจช่วยลดสิวและริ้วรอยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนผิวหนังได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม การใช้เรตินอลอาจทำให้ผิวไวต่อแสงแดด แพทย์จึงแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของเรตินอลในเวลากลางคืน หรือหากใช้ในเวลากลางวันควรทาครีมกันแดดก่อน และควรใช้ครีมบำรุงผิวที่มีมอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer) ควบคู่ไปด้วย เพราะการใช้เรตินอลติดต่อกันเป็นเวลานานอาจทำให้ผิวแห้งได้
2. วิตามินบี 3
วิตามินบี 3 ชนิดหนึ่งที่รู้จักกันชื่อไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) เป็นวิตามินบำรุงผิวที่ถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท โดยไนอะซินาไมด์มีคุณสมบัติในการช่วยสร้างเคราติน ซึ่งเป็นโปรตีนที่มีความสำคัญในการสร้างผิวหนังให้แข็งแรงและมีสุขภาพดี อีกทั้งยังช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนัง ช่วยลดการอักเสบของผิวที่เกิดสิวและรอยแดง
นอกจากนี้ งานวิจัยยังพบอีกว่าการใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของไนอะซินาไมด์เข้มข้น 5% อาจช่วยลดรอยดำจากสิว ทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นได้ รวมถึงอาจช่วยลดริ้วรอยก่อนวัยของผิวที่เกิดจากการโดนแสงแดดและมลภาวะทำร้ายด้วย
3. วิตามินซี
วิตามินซีมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ในการบำรุงสุขภาพหลายประการ รวมถึงประโยชน์ในด้านการบำรุงผิวด้วย โดยวิตามินซีมีบทบาทสำคัญในกระบวนการผลิตคอลลาเจนให้แก่ผิวหนัง จึงสามารถช่วยลดริ้วรอยและช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นได้
อีกทั้ง คุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระของวิตามินซียังช่วยปกป้องผิวหนังไม่ให้อักเสบและเสียหายจากปฏิกิริยาของสารอนุมูลอิสระภายในร่างกาย จึงช่วยให้ผิวของเราดูอ่อนกว่าวัย และอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้ด้วย
4. วิตามินดี
วิตามินดีมีบทบาทสำคัญในการสร้างความแข็งแรงให้แก่เซลล์ผิวหนัง โดยจะช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันของผิวหนัง ทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ผิวหนังได้ยากขึ้นและสามารถช่วยรักษาอาการทางผิวหนัง เช่น การระคายเคือง การอักเสบ สิว กลาก หรือโรคสะเก็ดเงินได้ด้วย นอกจากนี้ วิตามินดียังมีส่วนช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนัง และสามารถช่วยรักษาปัญหาผิวแห้งได้เช่นกัน
5. วิตามินอี
วิตามินอีสามารถช่วยปกป้องผิวหนังไม่ให้เสียหายจากการโดนรังสียูวี (UV) จากแสงแดด จึงช่วยลดการเกิดริ้วรอย จุดด่างดำ และความหย่อยคล้อยของผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งวิตามินอียังช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง และช่วยป้องกันการขาดซีบัม ซึ่งมักเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวหนังแห้งกร้านด้วย
วิตามินอีมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระเช่นกัน จึงอาจช่วยปกป้องผิวหนังจากปฏิกิริยาของสารอนุมูลอิสระภายในร่างกาย ช่วยชะลอความชราของผิวหนัง ทำให้ผิวหนังดูอ่อนกว่าวัย และอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้ด้วย
6. วิตามินเค
วิตามินเคถือเป็นวิตามินบำรุงผิวอีกชนิดหนึ่ง เพราะวิตามินเคมีบทบาทสำคัญในกระบวนการแข็งตัวของเลือดและกระบวนการสมานแผล จึงอาจสามารถช่วยรักษาบาดแผลจากการผ่าตัด อาการบวม และหรือรอยฟกช้ำที่เกิดขึ้นบนผิวหนังได้ นอกจากนี้ วิตามินเคที่อยู่ในผลิตภัณฑ์สกินแคร์ยังอาจช่วยรักษาจุดด่างดำ รอยคล้ำใต้ตา หรือรอยแผลเป็นต่าง ๆ ได้เช่นกัน
ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้วิตามินบำรุงผิวชนิดต่าง ๆ ควรอ่านฉลากของผลิตภัณฑ์สกินแคร์แต่ละชนิดอย่างถี่ถ้วนและใช้ผลิตภัณฑ์ตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ในส่วนของผู้ที่มีอาการแพ้หรือระคายเคืองจากวิตามินหรือสารบางชนิดที่อยู่ในผลิตภัณฑ์สกินแคร์ ควรหลีกเลี่ยงการใช้และไปปรึกษาแพทย์
นอกจากนี้ ยังมีวิธีการดูแลผิวง่าย ๆ ด้วยตัวเองที่คุณสามารถทำตามได้ทุกวัน เช่น การดื่มน้ำเปล่าอย่างเพียงพอเพื่อช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิว การรับประทานอาหารบำรุงผิวซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินชนิดต่าง ๆ ที่สามารถช่วยบำรุงผิวได้ การออกกำลังกายอย่างเหมาะสม การรับแสงแดดยามเช้าวันละประมาณ 10 นาทีเพื่อช่วยเสริมสร้างวิตามินดีให้แก่ร่างกาย
อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดที่จ้ามากเกินไป โดยเฉพาะเมื่อจำเป็นต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน ควรทาครีมกันแดดและสวมใส่เสื้อผ้าที่สามารถช่วยป้องกันไม่ให้รังสียูวีทำร้ายผิวหนังได้
