7 วิธีบูสต์สมองตอนเช้า บอกลาความเหนื่อยล้า พร้อมทำงานตลอดวัน

วิธีบูสต์สมองให้เฟรชในตอนเช้าเป็นสิ่งสำคัญที่อาจช่วยให้สมองตื่นตัว กระปรี้กระเปร่า และพร้อมสำหรับการทำกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดวัน เพราะในบางครั้งหลังจากตื่นนอน สมองอาจยังทำงานได้ไม่เต็มที่ จึงอาจทำให้มีสัญญาณสุขภาพบางอย่าง เช่น เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ไม่มีสมาธิ ซึ่งอาจส่งผลให้การทำงาน การเรียน หรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ มีประสิทธิภาพลดลง

สมองเป็นอวัยวะสำคัญที่ช่วยควบคุมการทำงานของร่างกายในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านความคิด ความจำ การเคลื่อนไหว อารมณ์และความรู้สึก ทั้งนี้ ปัจจัยบางอย่างอาจส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลงได้ เช่น นอนไม่พอ ความเครียด ดังนั้น การเตรียมบูสต์สมองให้พร้อมทำงานอย่างเต็มที่ด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น การออกกำลังกาย การเสริมด้วยสารอาหารบำรุงสมอง อาจช่วยให้สมองทำงานได้ดียิ่งขึ้น 

วิธีบูสต์สมอง

เคล็ดลับบูสต์สมองให้เฟรชพร้อมทำงาน  พร้อมรับมือความเหนื่อยล้าตลอดวัน  

วิธีบูสต์สมองตอนเช้าให้เฟรช กระปรี้กระเปร่า พร้อมสำหรับการทำงานตลอดทั้งวันมีหลากหลายวิธี เช่น

1. ดื่มซุปไก่สกัด

การดื่มซุปไก่สกัดในตอนเช้าเป็นวิธีบูสต์สมองที่สะดวกและรวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลารับประทานอาหารเช้า หรือมีปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น ท้องอืด อาหารไม่ย่อย

เนื่องจากซุปไก่สกัดสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อดื่มในตอนเช้า ซึ่งอาจส่งผลให้ร่างกายสามารถดึงสารอาหารหรือประโยชน์จากซุปไก่สกัดไปใช้ได้ตลอดวัน อีกทั้งในซุปไก่สกัดยังมีคาร์โนซีน (Carnosine) ซึ่งมีประโยชน์มากมายต่อร่างกาย เช่น บำรุงสมอง บำรุงร่างกาย เสริมความจำ 

โดยจากงานวิจัย 2 ชิ้น เรื่อง Anserine and carnosine supplementation in the elderly: Effects on cognitive functioning and physical capacity ในปี 2014 ที่ทำการศึกษาเกี่ยวกับคาร์โนซีนต่อการทำงานของสมองและสมรรถภาพทางกาย และงานวิจัยเรื่อง Effectiveness of Essence of Chicken on Cognitive Function Improvement: A Randomized Controlled Clinical Trial ในปี 2018 ที่ทำการศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์ของซุปไก่สกัดต่อการทำงานของสมอง

ผลการวิจัยพบว่าผู้ที่ได้รับคาร์โนซีนมีการทำงานของสมองและสมรรถภาพทางกายดีขึ้น และผู้ที่ดื่มซุปไก่สกัดต่อเนื่องกันเป็นเวลา 14 วันมีความสามารถในการจดจำดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยเสริมความจำระยะสั้นในกลุ่มผู้ที่มีความเครียดในชีวิตประจำวันอีกด้วย

ดังนั้น การดื่มซุปไก่สกัดในตอนเช้าจึงอาจมีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง เสริมประสิทธิภาพความจำ และเพิ่มสมาธิในการทำงานให้กับผู้ที่ดื่มได้ 

อย่างไรก็ตาม ปริมาณการดื่มซุปไก่สกัดที่เหมาะสมกับแต่ละคนอาจมากหรือน้อยแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสุขภาพของแต่ละบุคคล ดังนั้น ผู้ที่ต้องการดื่มควรปรึกษาแพทย์ถึงปริมาณที่เหมาะสมก่อน ทั้งนี้ ควรเลือกดื่มซุปไก่สกัดที่ผ่านการผลิตที่สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน ไม่มีน้ำตาลและวัตถุกันเสีย เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพที่ดีในการบริโภค 

2. ดื่มน้ำ

การดื่มน้ำประมาณ 1–2 แก้วหลังจากตื่นนอนเป็นอีกหนึ่งวิธีบูสต์สมองที่สำคัญ เนื่องจากร่างกายอาจเกิดการสูญเสียน้ำในระหว่างการนอนหลับ ซึ่งหากระดับน้ำในร่างกายลดลงอาจส่งผลต่อการทำงานของสมอง เช่น อารมณ์แปรปรวน ไม่มีสมาธิ มีปัญหาเกี่ยวกับการจำ  

โดยงานวิจัยเรื่อง Should children drink more water?: The effects of drinking water on cognition in children ในปี 2009 ได้ทดลองว่าการดื่มน้ำช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้หรือความจำหรือไม่ ซึ่งผลวิจัยชี้ว่ากลุ่มที่ได้รับน้ำดื่มมีประสิทธิภาพในการเรียนรู้ดีขึ้น และมีสมาธิเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น การดื่มน้ำในตอนเช้าอาจช่วยเพิ่มระดับน้ำในร่างกาย และช่วยให้สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่

3. ออกกำลังกาย

วิธีที่บูสต์สมองได้ดีวิธีหนึ่งคือการออกกำลังกายในตอนเช้า ซึ่งนอกจากจะช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรงแล้ว การออกกำลังกายในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การเต้น การเดิน การวิ่งจ็อกกิง อย่างน้อยวันละ 30 นาที ยังอาจช่วยให้เลือดไหลเวียนไปยังสมองมากขึ้น และช่วยบูสต์สมองให้จดจำดีขึ้น มีสมาธิมากขึ้น อีกทั้งยังอาจช่วยให้อารมณ์ดี และตื่นตัวจากความง่วงหรือความอ่อนเพลียในตอนเช้าอีกด้วย 

4. ออกไปรับแสงแดด

การได้รับแสงแดดในยามเช้าอาจช่วยกระตุ้นให้สมองปล่อยสารเคมีชนิดหนึ่งที่เรียกว่า เซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารเคมีที่ช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าและมีสมาธิมากขึ้น การที่สมองหลั่งสารเซโรโทนินออกมาอาจช่วยให้ทั้งสมองและร่างกายตื่นตัว พร้อมสำหรับการทำงานมากยิ่งขึ้น 

5. รับประทานอาหารเช้า

โดยปกติแล้วร่างกายของเรามีน้ำตาลกลูโคสในเลือดเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญของร่างกาย ซึ่งได้มาจากการรับประทานอาหาร แต่ในช่วงที่เรากำลังนอนหลับเป็นช่วงที่ไม่มีอาหารเข้าสู่ร่างกาย จึงอาจทำให้ร่างกายต้องดึงน้ำตาลกลูโคสที่สะสมไว้มาใช้ จนส่งผลให้ระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดลดลง และอาจไม่เพียงพอต่อการทำงานของสมอง 

ดังนั้น การรับประทานอาหารเช้าจึงสามารถช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่สมองได้ ช่วยให้สมองตื่นตัว มีสมาธิ เพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้ พร้อมสำหรับการทำงานตลอดวัน และเสริมความจำได้อีกด้วย โดยในมื้อเช้าควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และอุดมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญ เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ผัก ผลไม้ 

6. อาบน้ำเย็น

หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าการอาบน้ำเย็นเป็นหนึ่งในวิธีบูสต์สมองซึ่งทุกคนสามารถทำได้ง่าย ๆ เพราะการอาบน้ำเย็นจะช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งการไหลเวียนของเลือดที่ดีจะช่วยให้ออกซิเจนในเลือดไหลเวียนไปทั่วร่างกายได้มากขึ้น 

การอาบน้ำเย็นจึงอาจช่วยให้รู้สึกสดชื่น ลดอาการเหนื่อยล้าและความอ่อนเพลียของร่างกาย ยังอาจกระตุ้นสมองให้ปล่อยฮอร์โมนเอ็นดอร์ฟิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยให้รู้สึกดี ตื่นตัว และกระปรี้กระเปร่ามากขึ้นอีกด้วย

7. เล่นเกมฝึกสมอง

การเล่นเกมช่วยกระตุ้นสมองให้เกิดการทำงานหรือเกิดการคิดวิเคราะห์ อีกทั้งยังมีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ เช่น เสริมความจำ ช่วยฝึกให้มีสมาธิในการทำงาน การเล่นเกมในตอนเช้าจึงอาจช่วยบูสต์สมองให้ตื่นตัวและพร้อมทำกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดวัน

สำหรับการเล่นเกมในตอนเช้า อาจเลือกเล่นเกมที่ใช้อุปกรณ์ไม่มาก ใช้เวลาเล่นไม่นาน และสะดวกต่อการเล่นระหว่างการเดินทางไปทำงาน ไปเรียน หรือระหว่างรอทำกิจกรรมอื่น ๆ เช่น รูบิก ซึ่งสามารถเลือกเล่นได้ทั้งแบบลูกรูบิกที่พกพาได้สะดวก หรือเกมรูบิกแบบจำลองออนไลน์ 

นอกจากการใช้วิธีบูสต์สมองที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ยังมีวิธีอื่น ๆ ที่อาจนำไปใช้เพื่อช่วยลดอาการอ่อนเพลีย สมองไม่ตื่นตัวในตอนเช้า และช่วยให้สมองมีสุขภาพดีขึ้นได้ เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ ตื่นและนอนให้เป็นเวลา งดสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ก่อนนอน ออกกำลังกายเป็นประจำ รวมทั้งบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ และมีสารอาหารที่ช่วยบำรุงสมองต่าง ๆ เช่น อาหารที่อุดมไปด้วยคาร์โนซีน อย่างซุปไก่สกัด

ทั้งนี้ หากพบอาการผิดปกติต่าง ๆ ที่อาจเกี่ยวข้องกับการทำงานที่ผิดปกติไปของสมอง เช่น มีบุคลิกหรือพฤติกรรมที่ผิดปกติไปจากเดิม สูญเสียการทรงตัว หลงลืมบ่อย ชัก หมดสติ ควรไปพบแพทย์ เพราะอาจเป็นสัญญาณของโรคเกี่ยวกับสมองได้

เขียนโดย กองบรรณาธิการ POBPAD
อัพเดทล่าสุด 2 พฤษภาคม 2567
ตรวจสอบความถูกต้องโดย กองบรรณาธิการทางการแพทย์ POBPAD