9 วิธีแก้อาการง่วงนอนตลอดเวลาง่าย ๆ ทำแล้วได้ผล

การรู้จักวิธีแก้อาการง่วงนอนตลอดเวลาเป็นสิ่งสำคัญ เพราะนอกจากจะช่วยให้รู้สึกตื่นตัว พร้อมทำกิจกรรมต่าง ๆ มากขึ้นแล้ว ยังอาจช่วยลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากอาการง่วงนอนอีกด้วย โดยวิธีแก้อาการง่วงนอนตลอดเวลามีหลายวิธี ซึ่งสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมของตนเอง

อาการง่วงนอนตลอดเวลาเป็นอาการที่อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน ซึ่งสาเหตุอาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น การพักผ่อนไม่เพียงพ การเข้างานเป็นกะ ความเหนื่อยล้าและความอ่อนเพลียจากการทำงานหรือการเรียน อาการเจ็ตแล็ก นอกจากนี้ ยังอาจเกิดจากปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับการนอนต่าง ๆ เช่น โรคนอนไม่หลับ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ กลุ่มอาการขาอยู่ไม่สุข (Restless Legs Syndrome) 

วิธีแก้อาการง่วงนอนตลอดเวลา

วิธีแก้อาการง่วงนอนตลอดเวลาทำได้ง่าย ๆ ด้วยตนเอง

อาการง่วงนอนตลอดเวลาอาจทำให้รู้สึกหงุดหงิดง่าย ความจำแย่ลง หรือไม่มีสมาธิ ซึ่งอาจส่งผลต่อการทำงาน การเรียน และการทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งยังอาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้อีกด้วย โดยผู้ที่มีอาการง่วงนอนตลอดเวลา อาจลองใช้วิธีแก้อาการง่วงนอนตลอดเวลาและหาวบ่อย ๆ หลากหลายวิธีได้ เช่น

1. ล้างหน้าด้วยน้ำเย็น

การล้างหน้าด้วยน้ำเย็นอาจเป็นวิธีแก้อาการง่วงนอนตลอดเวลาได้ เพราะการล้างหน้าด้วยน้ำเย็นจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด ทำให้ออกซิเจนไหลเวียนไปยังส่วนต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้รู้สึกสดชื่น ตื่นตัว และหายง่วงนอนได้

2. ดื่มคาเฟอีน

คาเฟอีนเป็นสารที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง และอาจช่วยให้รู้สึกตื่นตัวจากความง่วงได้ โดยวิธีแก้อาการง่วงนอนตลอดเวลาด้วยคาเฟอีนนั้น สามารถดื่มได้จากเครื่องดื่มต่าง ๆ เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม อย่างไรก็ตาม การดื่มคาเฟอีนอาจส่งผลให้นอนหลับยากขึ้น ดังนั้น อาจลองดื่มเครื่องดื่มแบบดีคาเฟอีน ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่มีปริมาณคาเฟอีนลดลงจากปกติ แต่ยังคงช่วยลดอาการง่วงนอนได้

3. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

หากร่างกายมีน้ำไม่เพียงพอ อาจทำให้รู้สึกง่วงนอนหรืออ่อนเพลียได้ ดังนั้น วิธีแก้อาการง่วงนอนตลอดเวลาที่อาจทำได้ คือการดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยใน 1 วัน ควรดื่มน้ำประมาณ 6–8 แก้ว หรือประมาณ 2 ลิตร อย่างไรก็ตาม ผู้ที่สูญเสียเหงื่อเยอะอาจจำเป็นต้องดื่มน้ำเพิ่มมากขึ้นเพื่อทดแทนเหงื่อที่สูญเสียไป

4. กินขนมที่มีประโยชน์

เมื่อน้ำตาลในเลือดต่ำ อาจทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนเพลียหรือง่วงนอนได้ ซึ่งการกินขนมหรือดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงอาจช่วยเพิ่มน้ำตาลในเลือดอย่างรวดเร็ว ช่วยเพิ่มพลังงาน และช่วยให้ร่างกายตื่นตัวได้ อย่างไรก็ตาม ความตื่นตัวอาจเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว เพราะหลังจากนั้น ระดับน้ำตาลในเลือดจะลดลงอย่างรวดเร็ว และทำให้มีอาการอ่อนเพลียหรือง่วงนอนอีกครั้ง

ดังนั้น การกินขนมเพื่อใช้เป็นวิธีแก้อาการง่วงนอนตลอดเวลา ควรเลือกขนมที่มีประโยชน์และมีน้ำตาลน้อย เช่น โยเกิร์ต ถั่ว ผลไม้ เพราะอาจช่วยรักษาระดับพลังงานได้ดีกว่าการกินขนมหรือดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง

5. ออกกำลังกาย

การออกกำลังกายต่าง ๆ เช่น การเดินออกกำลังกายประมาณ 15 นาที อาจช่วยให้หายรู้สึกง่วงได้ โดยการออกกำลังกายอาจกระตุ้นให้ร่างกายปล่อยสารเอ็นดอร์ฟิน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความตื่นตัว และช่วยให้รู้สึกดีมากขึ้น

นอกจากนี้ การออกกำลังกายเป็นประจำอาจช่วยให้การนอนหลับง่ายขึ้น ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีแก้อาการง่วงนอนตลอดเวลาที่อาจช่วยลดอาการง่วงนอนตลอดเวลาได้ในระยะยาว

6. ออกไปรับแสงแดด

การออกไปรับแสงแดดระหว่างวันเป็นวิธีแก้อาการง่วงนอนตลอดเวลาอีกหนึ่งวิธี โดยแสงต่าง ๆ รวมถึงแสงแดดอาจส่งผลต่อนาฬิกาชีวิต (Body clock) ซึ่งเป็นวงจรการทำงานของร่างกายที่มีหน้าที่ในการควบคุมการทำงานของระบบต่าง ๆ รวมไปถึงการตื่นนอน ดังนั้น การออกไปรับแสงแดดอาจกระตุ้นให้สมองและร่างกายรู้สึกตื่นตัวมากยิ่งขึ้น  

7. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

อาการง่วงนอนตลอดเวลาอาจมีสาเหตุมาจากการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ดังนั้น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอน อาจช่วยให้พักผ่อนได้อย่างเพียงพอ และอาจช่วยแก้อาการง่วงนอนตลอดเวลาที่อาจช่วยได้ 

โดยทั่วไปแล้ว คนเราควรนอนพักผ่อนประมาณ 7–9 ชั่วโมง อีกทั้งควรตื่นนอนและเข้านอนให้เป็นเวลาเพื่อช่วยให้การนอนหลับดีขึ้น นอกจากนี้ ควรปรับสภาพแวดล้อมในห้องนอนให้เหมาะสมต่อการนอนหลับ เช่น ปรับห้องนอนให้ห้องมืด เย็นสบาย เงียบ หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์หรืออุปกรณ์ที่มีแสงเพราะแสงอาจส่งผลต่อการนอนได้

8. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ 

บุหรี่และแอลกอฮอล์อาจส่งผลต่อการนอนหลับ และอาจนำไปสู่อาการง่วงนอนตลอดวันได้ โดยในบุหรี่มีสารนิโคติน ซึ่งเป็นสารที่กระตุ้นให้รู้สึกตื่นตัว นอนหลับยาก เช่นเดียวกับการดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งถึงแม้ว่าการดื่มแอลกอฮอล์อาจทำให้รู้สึกง่วงในช่วงแรก แต่เมื่อแอลกอฮอล์หมดฤทธิ์ ก็อาจส่งผลให้เกิดอาการนอนไม่หลับได้ 

ดังนั้น การหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ในตอนเย็นหรือก่อนนอนอาจช่วยให้การนอนหลับดีขึ้น และลดอาการง่วงนอนตลอดเวลา

9. งีบระหว่างวัน

หากยังคงรู้สึกง่วงนอนตลอดเวลา การงีบซึ่งเป็นการนอนหลับเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ประมาณ 5–10 นาที อาจช่วยเพิ่มความตื่นตัว และเป็นอีกหนึ่งวิธีแก้อาการง่วงนอนตลอดเวลาที่ดี อย่างไรก็ตาม ไม่ควรนอนงีบบ่อยหรืองีบใกล้เวลานอนหลับปกติ เพราะอาจทำให้นอนหลับยากหรือนอนไม่หลับได้

วิธีแก้อาการง่วงนอนตลอดเวลาอาจช่วยให้ร่างกายตื่นตัว พร้อมทำงาน เรียน หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ มากขึ้น ทั้งนี้ หากรู้สึกง่วงนอนตลอดเวลาจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต หรือรู้สึกเหนื่อยล้าและอ่อนเพลียตลอดเวลา ควรไปพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพบางอย่างได้