GABA (Gamma-aminobutyric Acid) หรือกาบา คือกรดอะมิโนที่ทำหน้าที่เป็นสารสื่อประสาทในสมอง โดย GABA จะช่วยปิดกั้นคลื่นสมองบางชนิดและชะลอการทำงานของระบบประสาท ส่งผลให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย GABA จึงเป็นตัวช่วยบรรเทาอาการวิตกกังวลและความเครียด อีกทั้งยังช่วยเรื่องการนอนหลับให้ดีขึ้น
โดยปกติแล้วร่างกายของเราสามารถผลิต GABA ได้เอง อีกทั้งยังสามารถพบ GABA ได้ในอาหารหลายชนิด เช่น ชาอู่หลง ข้าวกล้องงอก มะเขือเทศ ถั่วเหลือง บรอคโคลี และอาหารหมักดอง เช่น กิมจิ เต้าเจี้ยวญี่ปุ่น นอกจากนั้น GABA ยังมีในรูปแบบอาหารเสริมอีกด้วย ผู้ที่รับประทานอาหารที่มี GABA ไม่เพียงพอหรือร่างกายผลิตได้น้อย อาจเลือกรับประทานอาหารเสริมเพิ่มเติมได้
ประโยชน์ของ GABA ต่อสุขภาพ
GABA อาจมีบทบาทสำคัญในการป้องกันหรือบรรเทาปัญหาสุขภาพบางอย่างได้ เช่น
โรควิตกกังวล
ถึงแม้ว่าความรู้สึกวิตกกังวลเป็นเรื่องปกติ แต่หากประสบกับความรู้สึกกังวลอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงโรควิตกกังวลได้ งานวิจัยหลายชิ้นระบุว่า GABA อาจช่วยบรรเทาอาการวิตกกังวลได้
หนึ่งในการศึกษา นักวิจัยใช้การตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าสมอง (Electroencephalography) เพื่อวัดคลื่นสมองของผู้เข้าร่วมหลังจากรับประทาน GABA และยาหลอก โดยหลังจากรับประทาน GABA พบว่า คลื่นอัลฟ่าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งบ่งบอกว่าผู้เข้าร่วมรู้สึกสงบและผ่อนคลายมากขึ้น
ความเครียด
เมื่อพบเจอเหตุการณ์ที่มีความเครียด ต่อมหมวกไตจะผลิตฮอร์โมนที่กระตุ้นให้เกิดการตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ เช่น หัวใจเต้นเร็วขึ้นหรือหลั่งสารอะดรีนาลีน GABA จะต่อต้านการหลั่งฮอร์โมนดังกล่าวด้วยการช่วยให้สมองรู้สึกผ่อนคลาย
งานวิจัยชิ้นหนึ่งได้ศึกษาเกี่ยวกับข้าวที่อุดมไปด้วย GABA ถึงผลต่อการบรรเทาความเครียดในมนุษย์ และพบว่าการรับประทานข้าวที่อุดมไปด้วย GABA อาจมีประโยชน์ในการช่วยลดความกังวลและความเครียดได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับข้าวธรรมดา
โรคนอนไม่หลับ
หากมีอาการนอนไม่หลับ การรับประทาน GABA อาจช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น มีงานวิจัยขนาดเล็กชิ้นหนึ่งได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับความปลอดภัยและประสิทธิภาพของ GABA ในผู้ป่วยที่มีอาการนอนไม่หลับ ผลปรากฏว่าผู้เข้าร่วมทดลองที่รับประทาน GABA ก่อนนอนสามารถหลับได้เร็วกว่าและมีคุณภาพการนอนหลับที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับผู้ที่รับประทานยาหลอก
ความดันโลหิตสูง
GABA อาจช่วยทำให้ความดันโลหิตคงที่ในผู้ที่มีอาการความดันโลหิตสูง โดยโรคความดันโลหิตสูงมักนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน และภาวะหัวใจล้มเหลว งานวิจัยชิ้นหนึ่งเผยให้เห็นว่าการทานนมเปรี้ยวที่มีส่วนผสมของ GABA ช่วยลดความดันโลหิตในผู้ที่มีอาการความดันโลหิตสูงระดับที่ 1 เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่รับประทานนมเปรี้ยวที่ไม่ผสม GABA
สอดคล้องกับงานวิจัยอีกหนึ่งชิ้นที่ชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ของ GABA ต่อความดันโลหิต โดยผู้ที่เข้าร่วมการทดลองที่มีอาการความดันโลหิตสูงระดับ 1 มีความดันโลหิตลดลงอย่างมีนัยสำคัญหลังจากรับประทานข้าวที่อุดมไปด้วย GABA นักวิจัยยังระบุอีกว่า GABA อาจช่วยลดความดันโลหิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการรับประทาน GABA อาจช่วยชะลอหรือป้องกันการเกิดภาวะที่เกี่ยวข้องกับความดันโลหิตได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ
ข้อควรรู้ก่อนบริโภคอาหารเสริม GABA
ถึงแม้การรับประทานอาหารเสริม GABA ค่อนข้างมีความปลอดภัยสำหรับบุคคลทั่วไป แต่ก็มีข้อควรรู้บางประการที่ควรทราบก่อนเริ่มบริโภค GABA เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ เช่น
- การรับประทานอาหารเสริม GABA อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงบางอย่าง เช่น ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ ง่วงนอน แสบร้อนคอ กล้ามเนื้ออ่อนแรงและหายใจสั้นหรือถี่
- เนื่องจากการรับประทานอาหารเสริม GABA อาจทำให้เกิดอาการง่วงนอนในบางราย จึงไม่ควรขับรถหรือใช้เครื่องจักรหลังจากรับประทาน จนกว่าจะทราบว่า GABA ส่งผลให้เกิดอาการง่วงนอนต่อตนเองหรือไม่
- อาหารเสริม GABA อาจมีปฏิกิริยาต่อยาบางชนิด เช่น ยารักษาความดันโลหิตสูง ยาต้านเศร้าและยาที่ออกฤทธิ์ทางประสาท ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มทานอาหารเสริม
- อาหารเสริม GABA อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น ผู้ที่มีอาการความดันโลหิตต่ำ เพราะ GABA อาจทำให้ความดันโลหิตลดลงและเป็นอันตรายได้ หรือผู้ที่เป็นโรคพาร์กินสัน เนื่องจากการรับประทาน GABA อาจทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้นได้
- ผู้สูงอายุบางรายอาจพบผลข้างเคียงได้ง่ายกว่าปกติ ดังนั้น ควรรับประทานอาหารเสริม GABA ด้วยความระมัดระวัง หรือปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน
- สำหรับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์และให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มรับประทานอาหารเสริม GABA เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลหรืองานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าปลอดภัยต่อผู้ที่กำลังตั้งครรภ์และให้นมบุตร
ทั้งนี้ เนื่องจากอาหารเสริม GABA ไม่ใช่ยารักษาโรค จึงไม่ควรรับประทานเป็นหลักเพื่อหวังผลในการรักษาหรือป้องกันโรคต่าง ๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานเสมอเพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสุขภาพ นอกจากนี้ ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วยได้ให้ได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนและเพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง