ซิงเกิ้ลมัม คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว กับเคล็ดลับในการเลี้ยงลูกคนเดียว

การเป็นซิงเกิ้ล มัม (Single Mom) หรือคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องเลี้ยงลูกเพียงคนเดียวอาจดูเป็นเรื่องที่ยากลำบาก แต่ซิงเกิ้ลมัมก็สามารถเลี้ยงลูกอย่างมีความสุขตามลำพังได้ สิ่งสำคัญก็คือการเรียนรู้เพื่อเตรียมพร้อมรับมืออุปสรรคที่ต้องเผชิญ ตลอดจนศึกษาเคล็ดลับที่จะช่วยให้ลูกน้อยเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่อย่างสมบูรณ์ทั้งกายและใจ

1569 Resized ซิงเกิ้ลมัม

อุปสรรคของการเป็นซิงเกิ้ลมัม

การต้องรับหน้าที่ดูแลลูกโดยลำพังสร้างความหนักใจให้ซิงเกิ้ลมัมหลาย ๆ คน คุณแม่อาจรู้สึกเครียด กดดัน หรือเหนื่อยล้าจนดูแลเอาใจใส่และสอนลูกได้ไม่เต็มที่ ซึ่งเด็กที่ไม่ได้รับการใส่ใจเท่าที่ควรอาจมีปัญหาด้านนิสัยและพฤติกรรมตามมา และหากครอบครัวไม่มีฐานะมากนัก การหาเงินเลี้ยงลูกเพียงคนเดียวอาจทำให้คุณแม่เผชิญปัญหาทางการเงินด้วย นอกจากนี้ สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวอาจเป็นกังวล คือ เด็กอาจรู้สึกขาดพ่อ

ในด้านสุขภาพจิตของเด็ก มีงานวิจัยพบว่าวัยรุ่นที่เติบโตจากการเลี้ยงดูโดยพ่อหรือแม่เพียงคนเดียวนั้น มีความเสี่ยงเกิดภาวะซึมเศร้าและขาดความเชื่อมั่นในตนเองมากกว่าเด็กที่มีทั้งพ่อและแม่ ดังนั้น หากสังเกตเห็นสัญญาณผิดปกติของลูกอย่างการแยกตัวจากสังคม เศร้าซึม ดูเหงา พูดว่าตัวเองไม่ดี ไม่เป็นที่รัก และแสดงความหงุดหงิดหรือความสิ้นหวัง คุณแม่ควรพยายามพูดคุยรับฟังลูก และอาจพาลูกไปปรึกษาแพทย์

เคล็ดไม่ลับของการเป็นซิงเกิ้ลมัม

คุณแม่ที่เป็นซิงเกิ้ลมัมนั้นต้องแบกรับภาระหลาย ๆ อย่างไว้คนเดียว เคล็ดลับต่อไปนี้อาจช่วยให้เหล่าคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวรับมือสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างมั่นใจและมีพลังบวกในการเลี้ยงดูลูกมากยิ่งขึ้น

มอบความรักและความอบอุ่นให้ลูกอย่างเพียงพอ การดูแลเอาใส่ใจและแสดงให้เด็กเห็นว่าตนรักและสนับสนุนลูกอยู่เสมอนั้นเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อพ่อหรือแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อและแม่ด้วยตนเอง ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยหากต้องออกไปทำงานนอกบ้านด้วย ทั้งนี้ ไม่ว่าจะยุ่งแค่ไหนก็ควรจัดสรรเวลาว่างเพื่อทำกิจกรรมร่วมกับลูกเป็นประจำ เช่น ออกกำลังกายนอกบ้าน เล่นกับลูก อ่านหนังสือไปพร้อม ๆ กัน หมั่นพูดคุยสอบถามความรู้สึกและชีวิตที่โรงเรียนของลูกอย่างใกล้ชิดเผื่อมีปัญหาใด ๆ เกิดขึ้น เป็นต้น

สอนให้ลูกรู้จักระเบียบวินัย เช่น ฝึกให้ทำทุกอย่างเป็นกิจวัตร ทั้งเวลาตื่น กิน และนอน เพื่อให้เด็กจดจำและรับรู้ว่าเวลาไหนควรทำอะไร การทำเช่นนี้จะช่วยให้แต่ละวันดำเนินไปอย่างราบรื่นและง่ายดายยิ่งขึ้น หากมีพี่เลี้ยงเด็ก ต้องบอกให้คอยสร้างระเบียบวินัยกับเด็กแบบเดียวกันด้วย เช่น สอนให้พูดจาไพเราะและให้เกียรติผู้อื่น จำกัดเวลาดูโทรทัศน์ เป็นต้น เมื่อเด็กเริ่มโตขึ้นและแสดงถึงความรับผิดชอบที่มากขึ้นแล้ว คุณแม่อาจผ่อนผันกฎต่าง ๆ ให้เหมาะสมตามไปด้วย เพื่อไม่ให้เด็กรู้สึกอึดอัดหรือถูกบังคับมากเกินไป

เลือกผู้ดูแลลูกที่เชื่อถือได้ สำหรับซิงเกิ้ลมัมที่ไม่ค่อยมีเวลาว่างและต้องฝากให้คนอื่นเลี้ยงดูลูก ควรเลือกคนใกล้ชิดที่เชื่อใจได้ เพื่อให้มั่นใจว่าเด็กจะปลอดภัยและได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีในระหว่างที่คุณแม่ไม่อยู่ และไม่ควรปล่อยให้เด็กที่โตกว่า รวมถึงเพื่อนใหม่หรือคนรักใหม่ที่เพิ่งคบกันไม่นานมาดูแลเด็กเล็กเพียงลำพัง หากเลือกฝากเด็กกับสถานรับเลี้ยงเด็กหรือเนิร์สเซอร์รี่ก็ควรเลือกสถานที่ที่น่าเชื่อถือและมีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย

ใส่ใจดูแลตนเองด้วย สุขภาพกายและใจที่แข็งแรงของซิงเกิ้ลมัมจะช่วยให้รับมือกับความเหน็ดเหนื่อยจากการเลี้ยงลูกคนเดียวได้ดีขึ้น โดยควรกินอาหารให้ครบถ้วนตามหลักโภชนาการ พักผ่อนให้เพียงพอเสมอ หมั่นออกกำลังกาย และจัดสรรเวลาให้ตัวเองได้ทำในสิ่งที่ชื่นชอบหรือผ่อนคลาย ทั้งนี้ คุณแม่ควรหาเวลาพักจากการเลี้ยงลูกอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ชั่วโมง ในระหว่างที่ฝากลูกกับคนใกล้ชิดหรือจ้างพี่เลี้ยงเด็กให้ดูแลลูกแทน

ขอความช่วยเหลือจากคนใกล้ชิด เมื่อรู้สึกท้อ เหนื่อยจากการเลี้ยงลูก หรือพบเจอปัญหาใด ๆ อย่าแบกรับไว้คนเดียว คุณแม่ควรขอคำปรึกษาหรือความช่วยเหลือจากคนใกล้ชิด เพื่อน หรือแม้แต่เพื่อนบ้านที่สนิทกัน เพราะการพูดคุยระบายความทุกข์จะช่วยให้สบายใจยิ่งขึ้น นอกจากนี้ หลังจากปรึกษาหรือขอความเห็นจากผู้อื่น คุณแม่อาจได้มุมมองและวิธีใหม่ ๆ ในการแก้ปัญหา ทั้งยังช่วยให้ไม่จมอยู่กับปัญหานั้นมากเกินไป

เข้าร่วมกลุ่มให้ความช่วยเหลือในการเลี้ยงลูก หากไม่สามารถปรึกษาคนรอบข้างได้ หรือไม่สบายใจที่จะพูดคุยด้วย คุณแม่สามารถเข้าร่วมกลุ่มพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวหรือองค์กรที่สนับสนุนด้านการเลี้ยงลูก ไม่ว่าจะทางออนไลน์หรือแบบพบปะเห็นหน้า เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองและแนวทางในการเลี้ยงลูก

อย่าโทษตัวเองที่ลูกต้องขาดพ่อหรือแม่ ควรให้ความสำคัญกับการเอาใจใส่ลูกให้ดีที่สุด ไม่ควรจมอยู่กับสิ่งที่ผ่านไปแล้ว และไม่ควรพยายามทดแทนสิ่งที่ลูกขาดด้วยการตามใจลูกทุกอย่างเป็นอันขาด

มองโลกในแง่ดีเข้าไว้ พยายามมองปัญหาต่าง ๆ อย่างมีอารมณ์ขันและคิดในแง่บวกให้มาก และจำไว้ว่าการยอมรับกับลูกว่าคุณกำลังเครียด กดดัน หรือเผชิญปัญหาต่าง ๆ ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย แต่ควรให้ความมั่นใจกับพวกเขาว่าทุกอย่างจะดีขึ้น และไม่ควรคาดหวังให้เด็กเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดหรือคาดหวังให้เด็กประพฤติตัวเป็นผู้ใหญ่ เพราะเด็กก็ยังเป็นเด็ก การสอนให้ลูกรู้จักรับผิดชอบตามที่ควรจะทำได้ในช่วงอายุนั้น ๆ เป็นสิ่งที่เพียงพอแล้ว

รู้จักปล่อยวาง ในกรณีที่พ่อแม่แยกทางกัน คุณแม่หรือคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวอาจอยากให้อีกฝ่ายมาหาลูกบ้าง โดยเฉพาะในโอกาสสำคัญอย่างวันเกิดหรือวันจบการศึกษาของลูก แต่ควรระลึกไว้ว่าบางสิ่งเป็นเรื่องที่ควบคุมไม่ได้และไม่ควรคาดหวัง เพราะอาจทำให้รู้สึกขุ่นเคืองใจ สิ่งที่ซิงเกิ้ลมัมทำได้ก็คือพยายามทำในส่วนของตนเองให้ดีที่สุด

ควบคุมสติอารมณ์ หากรู้สึกเหนื่อยล้าเพราะหลาย ๆ อย่างไม่เป็นดังใจ คุณแม่ที่เป็นซิงเกิ้ลมัมอาจสูญเสียการควบคุมตนเองได้ ดังนั้น เมื่อเกิดความรู้สึกหงุดหงิดหรือโมโห คุณแม่ไม่ควรใส่อารมณ์หรือใช้กำลังกับลูกเด็ดขาด เพราะเป็นพฤติกรรมที่ไม่ส่งผลดีต่อเด็ก โดยอาจเดินออกไปสงบสติอารมณ์ หายใจเข้าออกช้า ๆ หรือเบี่ยงเบนความสนใจด้วยการทำให้เป็นเรื่องตลกแทน

เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน หากเกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยขณะอยู่กับลูก ๆ เพียงลำพังอาจเป็นเรื่องที่ยากลำบาก คุณแม่ควรเตรียมยาสามัญประจำบ้านให้พร้อม รวมทั้งเตรียมขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นในกรณีฉุกเฉิน เช่น ขอเบอร์โทรศัพท์ของคนใกล้ชิดหรือเพื่อนบ้าน หาพี่เลี้ยงเด็กสำรองไว้เผื่อตัวเองป่วยเป็นไข้หวัดนอนซม เป็นต้น

นอกจากนี้ หากมีความทรงจำที่ไม่ดีกับพ่อของเด็ก คุณแม่ไม่ควรสอนให้ลูกอคติต่อคุณพ่อหรือเพศชายเด็ดขาด เพราะอาจสร้างปมเมื่อลูกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้ แต่ควรใช้บุคคลรอบตัวที่เป็นผู้ชายอย่างอา น้า หรือคุณปู่ เป็นตัวอย่างที่ดีในการสอนให้เด็กเห็นว่าผู้ชายที่ดีเป็นอย่างไร และผู้ชายไม่ได้เลวร้ายทุกคน เมื่อทำได้เช่นนี้ การเป็นซิงเกิ้ลมัมก็ไม่ใช่เรื่องที่เกินความสามารถของคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวอย่างแน่นอน